บทที่ 501 จำนวนของระดับเทพในสำนักซ่อนเร้น เผ่าวานรแขนยักษ์
“เทพเจ้าที่ เผ่าสวรรค์เช่นนั้นหรือ”
หานตั้วเทียนขมวดคิ้ว สีหน้าแปรเปลี่ยนไปนิดขณะพึมพำกับตัวเอง
ชายชราเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มิผิด เป็นเทพเจ้าที่ที่เผ่าสวรรค์ส่งมาวันนี้ ข้ามายังเขตเซียนร้อยคีรี นับเป็นมงคลของพวกเจ้า”
มงคล?
หานตั้วเทียนพลันเดือดดาล ร้องด่า “แม่เจ้าสิ เจ้าคู่ควรอย่างนั้นหรือ”
ความทรงจำด้านภาษาของเขามาจากหานเจวี๋ย คำพูดคำจาก็เหมือนหานเจวี๋ย ด่าแม่แทนด่าว่ามารดา
สาเหตุที่เมื่อครู่เขามีความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้า เป็นเพราะเขาไม่เคยได้ยินเรื่องเผ่าสวรรค์มาก่อน
สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ล้วนไม่รู้จักเผ่าสวรรค์อันยิ่งใหญ่ ส่วนศิษย์ในสำนักซ่อนเร้นที่รู้จักเผ่าสวรรค์ก็มีลำดับอาวุโสสูงกว่าหานตั้วเทียนมากนัก ต่างคร้านจะสนใจเขา ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการเล่าเรื่องแดนเซียนในปัจจุบันให้เขาฟังเลย
เทพเจ้าที่ตะลึงงัน ไม่คิดว่าจู่ๆ หานตั้วเทียนจะฉีกหน้ากัน
จากนั้น ใบหน้าชราของเขาพลันแดงก่ำ ชี้หน้าหานตั้วเทียน เอ่ยเสียงสั่นว่า “เจ้า…จองหอง!”
หานเจวี๋ยร้องด่า “รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าซะ! เจ้ามีคุณสมบัติพอจะเสริมมงคลให้สำนักซ่อนเร้นของพวกเราหรือ เชื่อหรือไม่ว่าข้าเรียกคนอื่นมาได้”
เทพเจ้าที่โมโหจนตัวสั่นไปหมด แต่เขากลัวหานตั้วเทียนจะเรียกคนอื่นมาจริงๆ ชื่อเสียงด้านความดุร้ายของสำนักซ่อนเร้นแพร่ไปทั่ว หากไม่ได้รับคำสั่งจากเผ่าสวรรค์ เขาคงไม่กล้ามา
เขากระทืบเท้า มุดลงดินหายลับไป
หานตั้วเทียนแค่นเสียงหยัน ไม่แยแสแม้แต่น้อย
….
เรื่องเทพเจ้าที่ หานตั้วเทียนไม่ได้แพร่งพรายต่อภายในสำนักซ่อนเร้นเลย เหล่าศิษย์ล้วนไม่ทราบเรื่องนี้
หานเจวี๋ยยังอยู่ระหว่างปิดด่านบำเพ็ญอย่างไม่มีกำหนด
นับตั้งแต่บรรลุระดับครึ่งอริยะขั้นสมบูรณ์ หานเจวี๋ยก็มีความกระตือรือร้นต่อการบำเพ็ญอย่างเต็มเปี่ยม
เขาต้องการบรรลุเป็นอริยะให้ได้ในเร็ววัน!
วันเวลาเคลื่อนคล้อย ชีวิตผกผัน มองย้อนกลับไป ทุกสิ่งเสมือนชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
หนึ่งพันห้าร้อยปีผ่านไป
หานเจวี๋ยยังคงอยู่ห่างไกลจากการพิสูจน์มรรค แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยแข็งแกร่งขึ้นมากนัก
ในวันนี้ หานเจวี๋ยได้เผยแพร่มหามรรคต่อสำนักซ่อนเร้นเสร็จสิ้นไปอีกครั้ง
ผ่านการสดับฟังธรรมมามากมายหลายครั้งขนาดนี้ ในสภาวะที่สำนักซ่อนเร้นมิได้มีการขยายตัวขึ้น ศิษย์ทั้งหมดล้วนก้าวเดินบนเส้นทางแห่งมหามรรคต้นกำเนิดแล้ว
มหามรรคต้นกำเนิดรวบรวมพลังอันยิ่งใหญ่ไว้ แม้แต่หลี่เต้าคงที่เป็นครึ่งอริยะแล้วก็เข้าถึงมรรคอย่างง่ายดายเช่นกัน เมื่อมรรคผลผ่านการฝึกบำเพ็ญเป็นระยะเวลาหลายปีเช่นนี้ ก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นมรรคผลแห่งมหามรรคต้นกำเนิดแล้ว
ศิษย์ที่หานเจวี๋ยคาดหวังที่สุดในตอนนี้ก็คือหลี่เต้าคง ความคาดหวังที่มีต่อเขามากกว่าที่มีต่อเต้าจื้อจุน ลี่เหยาและพวกจ้าวเซวียนหยวน
แน่นอน ความคิดนี้ซุกซ่อนอยู่ภายในใจของเขาเท่านั้น ไม่อาจพูดออกไปได้
ท่าทีของเขาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับศิษย์ทุกคน!
ขณะที่หานเจวี๋ยเตรียมจะกลับไปยังอารามเต๋า พลันสัมผัสถึงบางสิ่งได้ ตวัดมือคราหนึ่ง คว้าจับดวงจิตประหลาดที่อยู่นอกอาณาเขตเต๋าผ่านทางอากาศ
ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ ดวงจิตประหลาดดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อยจริงๆ
หานเจวี๋ยสัมผัสได้ว่าพลังที่สถิตในตัวมันเพียงพอจะทำลายล้างครึ่งอริยะธรรมดาทั่วไปได้
เจ้าสิ่งนี้ทำอะไรมากันแน่
เมื่อดวงจิตประหลาดได้พบหานเจวี๋ยอีกครั้งก็ดูตื่นเต้นลิงโลดอย่างเห็นได้ชัด เกาะติดอยู่บนร่างเขา กระเด้งไปมาไม่หยุด
หานเจวี๋ยเล่นเป็นเพื่อนมันอยู่สักพัก ถึงได้ปล่อยให้มันไปตามทางของตัวเอง
ตอนนี้ดวงจิตประหลาดควบคุมพลังในร่างได้แล้ว ไม่มีทางส่งผลร้ายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในสำนักซ่อนเร้นอีก
เพิ่งกลับถึงอารามเต๋า หานเจวี๋ยยังไม่ทันนั่งสมาธิ ก็ได้รับแจ้งเตือนขอเข้าฝันจากอริยะ
[เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
ไม่สน!
ข้าจะรอดูสิว่าเจ้าจะร้อนรนเท่ามหาจักรพรรดิเซียวกับฉิวซีไหลหรือไม่
หานเจวี๋ยคิดในใจ จากนั้นก็นั่งสมาธิ เริ่มฝึกบำเพ็ญ
เป็นไปตามคาด อริยะทั้งหมดมิได้หน้าหนาเช่นเดียวกับฉิวซีไหล เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยขอเข้าฝันเพียงครั้งเดียวก็เลิกราไป
หลายเดือนต่อมา
[ฟางเหลียงต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
ฟางเหลียงหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...