บทที่ 517 ผลกรรมในโลกมนุษย์ พิสูจน์มรรคเป็นอริยะ
บทสนทนาของพวกจี้เซียนเสินถูกหานเจวี๋ยได้ยินเข้า เขาคลี่ยิ้มและปล่อยผ่านไป
ดูท่าทางจะเกิดความวุ่นวายในเผ่าสวรรค์ขึ้นแล้วจริงๆ จี้เซียนเสินถึงกับต้องเริ่มเสาะแสวงหากำลังพลของตนเองที่เผ่ามนุษย์
น่าเสียดายที่เจ้ามองข้ามไป
พรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกถูกซ่อนอยู่ที่นี่!
หานเจวี๋ยไม่ค่อยสนใจหานทั่วนัก แต่เมื่อได้ยินจี้เซียนเสินพูดจาดูถูกดูแคลนเช่นนี้ เขาก็นึกอยากผลักดันหานทั่วขึ้นมา
ไม่ว่าอย่างไร หานทั่วก็เป็นลูกชายของเขา หากวันหน้าเขามีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแดนเซียน หานเจวี๋ยก็จะพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย
หานเจวี๋ยสอดส่ายสายตามองหาหานทั่ว
เด็กผู้นี้ไปฝึกบำเพ็ญอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ในเมือง ไม่เคยลงสนามรบเลยตลอดห้าปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักเป็นเพราะช่วงนี้เมืองป้องบูรพาไม่ได้เผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรง อสูรกายที่บุกมาหลายครั้งก็เป็นอสูรกายชั้นต่ำสุด
วิชาหลอมกายาที่ชิงหลวนเอ๋อร์ถ่ายทอดให้นั้นก็ถือว่าไม่เลว อย่างน้อยคนรุ่นราวคราวเดียวกันในเมืองป้องบูรพา รวมไปถึงผู้บำเพ็ญ ต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานทั่ว
หานเจวี๋ยสะบัดมือหนึ่งครั้ง พลังเวทไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งก็ลอยเข้าไปในร่างของหานทั่ว
พลังเวทกลุ่มนี้คลายผนึกสายเลือดในกายของหานทั่ว ประมาณหนึ่งในหมื่นส่วน ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้หานทั่วเหาะเหินบนท้องฟ้าได้
เหตุที่ไม่ปลดผนึกทั้งหมด เป็นเพราะว่าสายเลือดเทพมารอนธการแข็งแกร่งเกินไป เขากลัวว่าหานทั่วจะหลงทาง หรือไม่ก็ไปสะดุดตาอริยะเข้า
วันนั้น จู่ๆ หานทั่วก็รู้สึกถึงความผ่อนคลายไปทั่วทั้งร่างกาย พลังเต็มเปี่ยม การฝึกบำเพ็ญเป็นไปอย่างราบรื่น
ในปีนี้ เมืองป้องบูรพามีบุตรแห่งสวรรค์ที่ฝึกฝนด้วยตนเองปรากฏตัวขึ้นคนหนึ่ง มีนามว่าหานทั่ว อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่สามารถเคลื่อนย้ายหินยักษ์หนักล้านจินได้แล้ว ทำให้ปรมาจารย์เซียนทุกคนในเมืองต่างก็ตกตะลึง
สิบปีต่อมา
หานทั่วอาศัยเพียงเรี่ยวแรงของตนเอง กวาดล้างถ้ำที่อยู่ของอสูรกายรอบเมืองป้องบูรพาได้จนหมด ชื่อเสียงของเขาระบือไกลไปถึงเมืองเผ่ามนุษย์ข้างเคียง
ในคืนหนึ่ง
ขณะที่หานเจวี๋ย ชิงหลวนเอ๋อร์ และหานทั่วกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่นั้น จู่ๆ หานทั่วก็วางตะเกียบลง สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นก็หันไปพูดกับหานเจวี๋ยว่า “ท่านพ่อ ข้าตัดสินใจจะเชื่อฟังคำของท่าน ข้าจะไปจากเมืองป้องบูรพา เพื่อตามหามรรคเซียนขอรับ”
มือที่ประคองถ้วยข้าวของชิงหลวนเอ๋อร์สั่นไหวเล็กน้อย นางกล่าวพร้อมกับฝืนยิ้ม “ทั่วเอ๋อร์ เจ้าคิดดีแล้วหรือ ไปจากบ้าน เจ้าต้องอยู่ตัวคนเดียวนะ”
นางเข้าใจดีว่าการฝึกมรรคหมายถึงอะไร
หานทั่วจากไปครั้งนี้ กลับมาอีกที นางและหานเจวี๋ยคงจะถูกดินกลบหน้าไปหมดแล้ว
หานทั่วสูดหายใจลึก และพยักหน้าอย่างจริงจัง
สายตาของเขาจ้องมองที่หานเจวี๋ย
แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงเป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์เผ่ามนุษย์ แต่ความเคารพในตัวบิดาของเขาก็ไม่เคยลดลงแม้แต่น้อย เขารู้สึกว่าบิดาของเขาไม่ใช่คนธรรมดา ต้องเป็นคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน
หานเจวี๋ยกล่าวว่า “อาหารมื้อนี้อาจเป็นมื้อสุดท้ายของครอบครัวเรา มาดื่มกินกันให้สำราญเถิด จากนี้ออกไปแสวงมรรค ในฐานะพ่อ ข้ามีคำชี้แนะจะมอบให้กับเจ้าเพียงสองประการ”
“ฝึกบำเพ็ญอย่างสงบเสงี่ยม หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง”
“เราไม่ใช่นักโทษ อย่าให้ใครมาข่มเหงเราได้”
ความรู้สึกเศร้าสร้อยเกาะกินหัวใจของหานทั่ว ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาเข้าใจดีว่าการจากไปครั้งนี้ กว่าจะหวนกลับมาผืนทะเลคงจะกลายเป็นทุ่งนาไปเสียแล้ว
ทว่าจิตใจที่มุ่งสู่ทางมรรคของเขานั้นไม่อาจหักห้ามได้
หานเจวี๋ยกล่าวด้วยท่าทีขึงขัง “อย่าทำตัวเป็นเด็ก จำไว้ น้ำตาเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุด หากเจ้าหลั่งน้ำตาให้ใครเห็น เขาจะคิดว่าเจ้าอ่อนแอ สมควรถูกรังแก”
หานทั่วได้แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้
คืนนี้ แสงโคมไฟในจวนสกุลหานถูกจุดสว่างไสวไปตลอดทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น
หานเจวี๋ยและชิงหลวนเอ๋อร์ยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ ส่งหานทั่วจากไปจนลับตา
หานทั่วเดินไปสามก้าวก็หันกลับมามอง จนในที่สุดก็หายลับไปที่หัวมุมถนน
หานเจวี๋ยรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้างเล็กน้อย เขาเฝ้าดูหานทั่วเติบโตขึ้นมา จนลูกชายกลายเป็นผู้ใหญ่ ออกไปตามหาชีวิตของตนเองในวันนี้ ความรู้สึกอาวรณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนที่หยางเทียนตงและสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นจากไปเมื่อครานั้น ยังไม่เคยทำให้เขารู้สึกเช่นนี้เลย
นั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
กับลูกในใส้ย่อมรู้สึกต่างกัน
ในที่สุดชิงหลวนเอ๋อร์ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่หยุด นางซบลงกับอ้อมอกของหานเจวี๋ย
เวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ
ปีแล้วปีเล่า ชิงหลวนเอ๋อร์ค่อยๆ แก่ตัวลง
หานเจวี๋ยก็แก่ตัวไปพร้อมกับนาง
เหมือนคู่รักมนุษย์ทั่วไป
ห้าสิบปีต่อมา
ชิงหลวนเอ๋อร์ผู้แก่ชรานอนอยู่บนเตียง จ้องมองหานเจวี๋ยที่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง
นางยกมือขวาที่สั่นไหวขึ้น พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงผะแผ่ว “ท่าน…ท่านพี่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...