บทที่ 528 ซูฉีตื่นตะลึง ทำนายอนาคต
ซูฉีมองซ้ายมองขวาด้วยความงุนงง มองเห็นข้างกายมีปราณดำเป็นกลุ่มก้อน ทำให้เขาบังเกิดความรู้สึกต่อต้านตามสัญชาตญาณ ถึงขั้นเกิดจิตคิดสังหาร
เขาอยากกำจัดปราณดำเหล่านี้!
จิตสังหารนี้ทำให้เขารู้สึกตกใจ
“ข้าเป็นอะไรไป”
ซูฉีไม่เข้าใจจิตใจของตน เขารู้สึกเสมอว่าตนคล้ายจะเปลี่ยนแปลงไป เขามองดูร่างกายตนเอง ดูเหมือนจะเป็นกายจิต ทว่าให้ความรู้สึกว่ามีโลหิตไหลเวียนอยู่
“อย่าได้กังวล ฝึกบำเพ็ญให้ดี มีอาจารย์อยู่ทั้งคน”
น้ำเสียงอันคุ้ยเคยสายหนึ่งดังขึ้น ซูฉีได้ฟังก็อยากหลั่งน้ำตา
เป็นอาจารย์จริงๆ!
ซูฉีคิดว่าใต้หล้านี้หากจะมีใครให้ความช่วยเหลือเขาได้ ก็คงมีเพียงอาจารย์ของเขา
ซูฉีรีบถาม “อาจารย์ ข้าอยู่ที่ไหนขอรับ รอบข้างคือสิ่งใด”
หานเจวี๋ยก็มิได้ปิดบัง บอกเล่าแผนการที่ตนเตรียมจะสร้างเทพมารฟ้าบุพกาลออกมา รวมถึงเรื่องที่ซูฉีกลายเป็นเทพมารมรณะด้วย
พอเขาเล่าจบ ซูฉีก็ตกอยู่ในความตื่นตะลึง
เทพมารฟ้าบุพกาล!
เขาเคยได้ยินเรื่องเทพมารฟ้าบุพกาล นั่นคือตัวตนยุคก่อนเบิกฟ้า เมื่อนึกถึงเทพมารฟ้าบุพกาล มักจะถูกนำไปเทียบเคียงกับเทพบรรพกาลผานกู่ผู้เบิกฟ้าแยกปฐพี
อาจารย์เป็นตัวตนเช่นใดกันแน่
หรือว่าเขาสิ้นชีพไปนานจนไม่อาจนับปีได้ กระทั่งอาจารย์บรรลุมรรคา ถึงขั้นที่ก้าวข้ามมรรคาสวรรค์ไปได้แล้ว
จิตใจซูฉีตื่นเต้นฮึกเหิม พอนึกถึงว่าตนกลายเป็นเทพมารฟ้าบุพกาล เขาก็อดไม่ได้ที่จะวาดฝันถึงอนาคต
ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากชะตากรรมดาวตัวซวยของตนได้!
“อาจารย์ ข้าคือเทพมารใดหรือขอรับ”
“เทพมารมรณะ”
“อ่า…”
ซูฉีทึ่มทื่อไปเสียแล้ว
เทพแห่งความโชคร้ายกับเทพมารมรณะ ต่างกันตรงไหน
เขายังคงหนีไม่พ้นชะตากรรมของตนอยู่ดี!
“วางใจเถอะ เจ้าไม่ถูกผูกมัดด้วยมรรคาสวรรค์อีกต่อไป หากควบคุมพลังของเจ้าให้ดี เจ้าไม่มีทางเป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้”
หานเจวี๋ยเอ่ยปลอบ ซูฉีได้ยินดังนั้นสีหน้าหม่นหมองก็พลันผ่องใส หากเป็นหานเจวี๋ยพูด เขาย่อมเชื่อแน่นอน
สองศิษย์อาจารย์พูดคุยกันอยู่นาน
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น รู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง
ซูฉีฟื้นตื่น นับว่าเขาได้โล่งใจเสียที ก่อนหน้านี้กังวลมาโดยตลอดว่าจะทำให้ซูฉีตาย
โชคดีที่สถานการณ์น่าตระหนกทว่าไร้อันตราย นับจากนี้ไป ซูฉีนับว่าถอดร่างผลัดกระดูก มีฐานะเป็นเทพมารฟ้าบุพกาล คุณสมบัติของเขาแกร่งกล้ายิ่งกว่าหลี่เต้าคงและหลี่เสวียนเอ้าเสียอีก!
หานเจวี๋ยแย้มยิ้ม จากนั้นก็ฝึกบำเพ็ญต่อ
เรื่องของซูฉี หานเจวี๋ยวางแผนที่จะปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน รอให้ซูฉีพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นอริยะก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ตำแหน่งอริยะมรรคาสวรรค์มีจำกัด แต่หานเจวี๋ยเลือกเส้นทางพิสูจน์มรรคโดยไม่ข้องเกี่ยวกับมรรคาสวรรค์ มรรคาสวรรค์ก็เข้ามายุ่งไม่ได้
เวลาดำเนินต่อไป
หกสิบปีต่อมา
นอกเขตเซียนร้อยคีรีมีผู้มาเยือนอีกแล้ว
“หานเจวี๋ย ข้าคือร่างแยกของมหาจักรพรรดิเซียว มาเยี่ยมเยือนโดยเฉพาะ”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้น
คนผู้นี้มาได้อย่างไร
หรือว่าจะเกิดเรื่อง
หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบตรวจสอบดูก่อน
[มหาจักรพรรดิเฉิน: ครึ่งอริยะขั้นสมบูรณ์ ร่างจำลองอริยะ จักรพรรดิมนุษย์แห่งเผ่ามนุษย์ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต]
หืม?
อริยะเผ่ามารจะแทรกซึมอยู่ในเผ่ามนุษย์ด้วยฐานะจักรพรรดิมนุษย์ผู้หนึ่งหรือ
หานเจวี๋ยไม่มีสิทธิ์ค่อนขอด ต่อมาจึงเปิดใช้แบบจำลองการทดสอบ
สังหารได้ในเสี้ยววินาที!
หานเจวี๋ยคิดดูเล็กน้อย เคลื่อนย้ายมหาจักรพรรดิเฉินเข้ามาในอารามเต๋าโดยตรง ไม่ให้โอกาสมหาจักรพรรดิเฉินได้วิ่งพล่านไปทั่ว ภายในอารามเต๋ามีเขตอาคมระบบอยู่ จิตรับรู้ของมหาจักรพรรดิเฉินไม่อาจเล็ดรอดออกไปได้
หลังจากมหาจักรพรรดิเฉินร่อนลงสู่พื้นก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้
เขาแผ่จิตรับรู้ออกไปตามสัญชาตญาณ ผลคือจิตรับรู้ถูกสกัดขวางไว้ด้วยอำนาจลึกลับ
เขาพลันกระจ่างใจในทันใด เห็นทีว่าหานเจวี๋ยจะไม่ต้องการให้เขาเห็นอาณาเขตเต๋า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...