ตอน บทที่ 537 สำนักเต๋ารวมเป็นหนึ่ง ความฝันเฟื่องของหานทั่ว จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 537 สำนักเต๋ารวมเป็นหนึ่ง ความฝันเฟื่องของหานทั่ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 537 สำนักเต๋ารวมเป็นหนึ่ง ความฝันเฟื่องของหานทั่ว
ฉิวซีไหลและมหาจักรพรรดิเซียวล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส!
หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว มารมรรคาสวรรค์ตนนี้แข็งแกร่งนัก
เขาเงยหน้ามองขึ้นไป ชั้นฟ้าที่สามสิบสามเงียบสงัดวังเวง หลุมดำที่ซ่อนเร้นมารมรรคาสวรรค์ไว้ยังอยู่ อัสนีม่วงพัวพัน ท่ามกลางความเงียบแฝงความกดดันเอาไว้
หานเจวี๋ยรับรู้ถึงกลิ่นอายของมารมรรคาสวรรค์ได้ เจ้าตัวนี้หนีออกมาไม่ได้ เช่นนั้นเขาทำร้ายเหล่าอริยะได้อย่างไร
โจมตีด้วยพลังจิตหรือ
หานเจวี๋ยคิดไม่ออกเลย
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มารมรรคาสวรรค์ยังไม่เข้าสู่มรรคาสวรรค์ เช่นนั้นเขาก็ยังมีเวลา
ฉวยโอกาสจากช่วงเวลานี้ หานเจวี๋ยต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ พยายามสังหารมารมรรคาสวรรค์ในเสี้ยววินาทีให้ได้ในเร็ววัน
หลังจากหานเจวี๋ยอ่านจดหมายเสร็จ ก็หลับตาลง เริ่มฝึกบำเพ็ญ
เนื่องจากการปรากฏขึ้นของมารมรรคาสวรรค์ทำให้ชั้นฟ้าที่สามสิบสามแปรเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดวังเวง เหล่าอริยะไม่แสดงธรรมอีก ไม่มีผู้บำเพ็ญมาคารวะเยี่ยมเยือน
บรรยากาศอันน่าหวั่นเกรงนี้คืบคลานไปทั่วแดนเซียนอย่างรวดเร็ว ศิษย์ในสำนักนิกายแห่งอริยะเริ่มแพร่ข่าวลือออกไป กล่าวว่าวิกฤตการณ์มรรคาสวรรค์มาเยือนแล้ว!
สามร้อยปีต่อมา
เสียงอริยะก้องไปทั่วแดนเซียน
“ข้า เทพสูงสุดหนานจี๋ขอน้อมนำนิกายฉ่านเข้าสู่สำนักเต๋า ยกย่องอริยะฉิวซีไหลเป็นเจ้ามรรคา!”
“ข้า เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยขอน้อมนำนิกายเจี๋ยเข้าสู่สำนักเต๋า ยกย่องอริยะฉิวซีไหลเป็นเจ้ามรรคา!”
“ข้า ฝูซีเทียนขอน้อมนำเผ่ามนุษย์ให้ความศรัทธาต่อสำนักเต๋า ยกย่องอริยะฉิวซีไหลเป็นเจ้ามรรคา!”
“ข้า มหาจักรพรรดิเซียวขอน้อมนำเผ่ามารและผู้บำเพ็ญมารในปวงสวรรค์เข้าสู่สำนักเต๋า ยกย่องอริยะฉิวซีไหลเป็นเจ้ามรรคา!”
“ข้า ฉิวซีไหลขอน้อมนำสำนักพุทธเข้าสู่สำนักเต๋า นับจากนี้เป็นต้นไป อริยะต่างอยู่ภายใต้สำนักเต๋า ดวงชะตามรรคาสวรรค์หวนสู่สำนักเต๋า สรรพสิ่งเป็นพยาน!”
ภายในอารามเต๋า หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น สีหน้าท่าทางแปลกพิกล
อริยะผนึกกำลังกันหรือ
แถมยังให้ฉิวซีไหลเป็นผู้นำด้วย
ช้าก่อน!
หรือว่าพวกเขาคิดจะนำดวงชะตามรรคาสวรรค์ทั้งหมดถ่ายทอดสู่ร่างฉิวซีไหล แล้วให้ฉิวซีไหลไปจัดการมารมรรคาสวรรค์
ยิ่งคิดหานเจวี๋ยก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้
เขาเงยหน้ามองขึ้นไป อาณาเขตเต๋าของฉิวซีไหลถูกลำแสงขนาดมหึมาสายหนึ่งครอบคลุมไว้ ดูศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่
หานเจวี๋ยถามเงียบๆ ‘หลังจากฉิวซีไหลผสานรวมกับดวงชะตามรรคาสวรรค์ของเหล่าอริยะแล้ว จะสามารถสังหารข้าในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[มีความเป็นไปได้แน่นอน]
หนังตาหานเจวี๋ยกระตุกไม่หยุด ดูท่าว่าต่อจากนี้คงออกจากอาณาเขตเต๋าไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้นเรือจะพลิกคว่ำในร่องน้ำได้ง่ายๆ
หานเจวี๋ยปรับสภาพอารมณ์ ฝึกบำเพ็ญต่อ ส่วนมารมรรคาสวรรค์ เขาไม่สนใจแล้ว
อยู่เหนือฉิวซีไหลให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!
….
ณ ห้วงนภาเหนือทะเลไร้ขอบเขต หลี่เต้าคงและสือตู๋เต้ายืนประจันหน้ากันอยู่บนยอดเมฆ
สือตู๋เต้าขมวดคิ้วกล่าว “อริยะร่วมมือกัน หรือว่าในหลุมดำนั้นจะมีตัวตนอันน่าหวาดหวั่นอันใดซ่อนอยู่”
หลี่เต้าคงเอ่ยเสียงเย็น “สือตู๋เต้า ตั้งใจตัดสินแพ้ชนะกับข้าหน่อย”
สือตู๋เต้าได้ยินก็เผยสีหน้าหงุดหงิดออกมาอย่างหมดความอดทน เอ่ยว่า “เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของข้าเลย เหตุใดเอาแต่ตามตอแยข้าอยู่นั่น เจ้าแพ้ไม่เป็นหรืออย่างไร”
“ฮึ่ม เจ้ายังไม่ได้เอาชนะข้าอย่างแท้จริง”
“ต้องทำอย่างไรถึงจะนับว่าเอาชนะอย่างแท้จริง สังหารเจ้าหรืออย่างไร”
“ข้ารู้จักคนผู้หนึ่ง ความแข็งแกร่งของเขาทำให้ข้ายอมรับทั้งกายใจ ส่วนเจ้าแม้จะแข็งแกร่ง ทว่ายังไม่แกร่งจนทำให้ข้ารู้สึกสิ้นหวังได้”
“ฮ่าๆ”
เจตนาสังหารวาบผ่านดวงตาของสือตู๋เต้า
ฝันเฟื่องไปแล้ว
ตูม…
ลมแรงน่าพรั่นพรึงซัดโถมกวาดม้วนผิวทะเลขึ้นมา สีหน้าของพวกหานทั่วพลันแปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ต่างหยิบสมบัติวิเศษออกมาป้องกันคลื่นพายุ
แต่พวกเขาจะสามารถสกัดกั้นแรงกดดันจากครึ่งอริยะได้อย่างไร
ทั้งสองตอบสนองไม่ทัน ถูกซัดปลิวจนเลือนหายไปจากขอบฟ้าราวเม็ดทรายที่ปลิวว่อนฟ้า
….
ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม อาณาเขตเต๋าสำนักพุทธ
ภายในโถงตำหนักเหลืองอร่ามแวววาว เหล่าอริยะรวมตัวกัน
เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยถามขึ้น “ฉิวซีไหล รู้สึกอย่างไรบ้าง”
อริยะที่เหลือต่างมองไปที่ฉิวซีไหล
ฉิวซีไหลมิได้คงร่างจริงสูงหมื่นจั้งไว้ แต่ใช้ร่างเยี่ยงมนุษย์ปกติทั่วไป เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นพลางตอบว่า “ยอดเยี่ยมนัก แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก ถึงขั้นที่สามารถขับเคลื่อนพลังแห่งมรรคาสวรรค์ได้”
ฝูซีเทียนซักถาม “สามารถเอาชนะมารมรรคาสวรรค์ได้หรือไม่”
แววตาฉิวซีไหลฉายแววซับซ้อน เอ่ยว่า “อาจจะไม่ได้ ยังด้อยไปเล็กน้อย พลังแห่งโชคร้ายของมารมรรคาสวรรค์แข็งแกร่งเกินไป ยังไม่อาจสังหารได้ พลังของเขาอยู่ในระดับขั้นที่สูงกว่า หากข้าอยากสังหารเขาให้ได้ ก็ต้องผสานรวมกับดวงชะตามรรคาสวรรค์และจิตศักดิ์สิทธิ์อีก…”
เมื่อเอ่ยประโยคนี้อกมา สีหน้าเหล่าอริยะพลันแปรเปลี่ยน
เหตุผลที่ผนวกรวมเป็นสำนักเต๋า เพียงเพื่อจัดการมารมรรคาสวรรค์เท่านั้น
แต่จากคำพูดของฉิวซีไหล เมื่อผสานรวมแล้ว เช่นนั้นวันหน้าฉิวซีไหลจะกลายเป็นอริยะที่แข็งแกร่งที่สุด ต่อให้พวกเขาแบ่งแยกดวงชะตาออกไป ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อพลังมรรคของฉิวซีไหล
และสิ่งสำคัญที่สุดคือคนผู้นี้ถือครองพลังวิเศษทำลายมรรคา!
ภายในโถงตำหนักเงียบสงัด บรรยากาศแปลกประหลาด
ฉิวซีไหลสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง กล่าวว่า “สหายเต๋าทุกท่าน พวกเราก็นับว่าอยู่ร่วมกันมาสี่มหาเคราะห์ เคยต่อสู้กันเองบ้าง แต่ในจุดสูงสุดแห่งมรรคาสวรรค์นี้เหลือแค่พวกเราแล้ว พวกเราจะสู้กันเป็นการภายในไปอีกทำไม ยามนี้มารมรรคาสวรรค์รุกคืบเข้ามา หากปล่อยให้เขากลืนกินมรรคาสวรรค์ พวกเราจะตายกันหมด!”
“ศึกนี้ สหายเต๋าทุกท่านทำได้เพียงเชื่อมั่นในตัวข้าเท่านั้น ข้าจะไม่มีทางทำให้สหายเต๋าทุกท่านผิดหวัง!”
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...