บทที่ 538 ความสามารถใหม่ของระบบ แดนเซียนโกลาหล
สำหรับคำพูดของฉิวซีไหล เหล่าอริยะต่างเงียบงัน ไร้วาจาจะกล่าว
เบื้องหน้าพวกเขาเหลือเพียงวิธีนี้เท่านั้น
พวกเขาต่างก็รู้สึกหมองเศร้าอยู่ในใจ หากรอดพ้นมหันตภัยนี้ไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ
ต่อไปมิใช่ต้องก้มหัวยอมสยบต่อฉิวซีไหลหรอกหรือ
มหาจักรพรรดิเซียวเปิดปากเอ่ย “ผ่านมหันตภัยนี้ไปให้ได้แล้วค่อยว่ากันเถิด ฉิวซีไหลเข้าปะทะมารมรรคาสวรรค์ด้วยตัวเอง มีความกดดันกว่าพวกเรามากนัก ตอนนี้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน”
คำพูดของเขาได้รับความเห็นชอบจากอริยะรายอื่น
เรื่องนี้จึงตัดสินกันตามนี้
….
เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งร้อยปี
ภายในระยะเวลาหนึ่งร้อยปีนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นไม่น้อย มีทั้งผู้ทรงพลังบุกเบิกสร้างโลกมนุษย์ และมีเผ่าพันธุ์ใหม่ก่อตั้งขึ้น มุ่งหมายแย่งชิงดวงชะตา
อีกาทองภายในดวงอาทิตย์ถือกำเนิดสู่โลกา เริ่มก่อตั้งเผ่าปีศาจขึ้น
เผ่าปีศาจที่กระจายตัวอยู่ทั่วสรวงสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง!
แนวคิดภาพรวมของเผ่าปีศาจนั้นคลุมเครือนัก นอกเหนือจากเผ่าพันธุ์แห่งมรรคาสวรรค์แล้ว ที่เหลือล้วนสามารถเป็นเผ่าปีศาจได้ และด้วยคำขวัญนี้ กลุ่มอิทธิพลของอีกาทองจึงขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตำนานแห่งเขตเซียนร้อยคีรีซาลงอีกครั้ง ไม่ถูกสรรพสิ่งเอ่ยถึงอีก
จักรพรรดิเซียนหนึ่งพันคนที่สำนักซ่อนเร้นส่งตัวออกไปก็ได้ตั้งรกรากบนดินแดนใหม่แห่งนั้นแล้ว โลกนี้ยังมิถูกรวมเป็นปึกแผ่น ยังอยู่ในยุคโกลาหลวุ่นวาย
สำหรับศิษย์ในนามหนึ่งพันคนนี้หานเจวี๋ยไม่ได้ให้ความสนใจเลย หากเผชิญปัญหายุ่งยากเข้าจริงๆ อย่างมากก็ใช้วิถีอัญเชิญเทพเรียกตัวกลับมาทั้งหมด
ระยะนี้หานเจวี๋ยทุ่มเทความคิดและจิตใจไปกับการทำความเข้าใจมหามรรคต้นกำเนิด พลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ไล่ไขว่คว้าระดับเซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะกลางอย่างบ้าคลั่ง
มีแต่การบรรลุถึงระดับเซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะกลางเท่านั้นถึงจะทำให้พลังของหานเจวี๋ยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถสังหารฉิวซีไหลและมารมรรคาสวรรค์ในเสี้ยววินาทีได้
จนปัญญาที่การฝึกบำเพ็ญของระดับอริยะจำเป็นต้องค่อยๆ สั่งสมไปตามกาลเวลาจริงๆ
ในวันนี้
ชั้นฟ้าที่สามสิบสามเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดอีกครั้ง หานเจวี๋ยสามารถรับรู้ได้ เขาเงยหน้ามองขึ้นไป ฉิวซีไหลปรากฏตัวหน้าหลุมดำ รอบกายมียอดสมบัติสามชิ้นที่ลักษณะแตกต่างกันไปลอยวนอยู่ เปล่งแสงเทพสามสีออกมา
ไกลออกไป เหล่าอริยะที่เหลือเฝ้ามองอยู่ไกลๆ
ทันใดนั้นฉิวซีไหลพุ่งเข้าไปในหลุมดำ
วินาทีนั้น สายฟ้าสีม่วงส่องวูบวาบ เลื้อยพัวพันปานมังกร หดตัวเข้าหากันอีกครั้งอย่างรวดเร็วยิ่ง จากนั้นก็หายลับไป
เหล่าอริยะต่างตกตะลึง
เทพสูงสุดหนานจี๋ขมวดคิ้วพลางถาม “เกิดอะไรขึ้น สัมผัสถึงกลิ่นอายของพวกเขาไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเลย”
เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “พวกเราทำได้แค่รอเท่านั้น รอดูต่อไปเถอะ”
อีกด้านหนึ่ง
หานเจวี๋ยที่ได้เห็นฉากนี้ อดตรวจดูจดหมายไม่ได้
[ฉิวซีไหลสหายของท่านผสานรวมกับดวงชะตามรรคาสวรรค์ ก้าวเข้าสู่ดินแดนมรรคาสวรรค์]
[ฉิวซีไหลสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมารสวรรค์ลึกลับ]
….
ต่อจากนั้น ฉิวซีไหลเผชิญกับการโจมตีจากมารสวรรค์อยู่เรื่อยๆ ดูเหมือนในหลุมดำจะไม่ได้มีแค่มารมรรคาสวรรค์เพียงตนเดียวแล้ว
หานเจวี๋ยเปิดกล่องจดหมายค้างไว้ตรงหน้า ฝึกบำเพ็ญไปพลาง จับตามองสถานการณ์ของฉิวซีไหลไปพลาง
สามร้อยปีต่อจากนั้น ฉิวซีไหลเผชิญกับการโจมตีจากมารสวรรค์ลึกลับเกินกว่าล้านครั้ง
มารมรรคาสวรรค์ยังคงแข็งแกร่งยิ่งนัก แม้ว่าจะผสานรวมกับดวงชะตามรรคาสวรรค์ ฉิวซีไหลก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้
มองจากจุดนี้ แปลว่าฉิวซีไหลก็ไม่ได้แข็งแกร่งนัก
ถึงแม้หานเจวี๋ยจะไม่สามารถสังหารมารมรรคาสวรรค์ในเสี้ยววินาทีได้ แต่ยังคงสังหารมารมรรคาสวรรค์ได้ภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูป
จุดที่เขากังวลคือสังหารในเสี้ยววินาทีไม่ได้ มิใช่ว่าเอาชนะไม่ได้
ในวันนี้เอง
[ฉิวซีไหลสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมารสวรรค์ลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
ฉิวซีไหลยังคงพ่ายแพ้อยู่ดี!
หานเจวี๋ยส่ายหน้า
ดูเหมือนพลังของฉิวซีไหลจะไล่เลี่ยกับมารมรรคาสวรรค์ เพียงแต่พลังความอึดของมารมรรคาสวรรค์แข็งแกร่งกว่า
อริยะมรรคาสวรรค์ก็คืออริยะมรรคาสวรรค์ ไม่ได้เรื่อง!
หานเจวี๋ยลอบเหยียดหยาม
ในเวลาเดียวกันนี้
ท้องนภาพลันเต็มไปด้วยเมฆแดงฉาน ทั่วทั้งแดนเซียนต่างเป็นเช่นนี้ บรรยากาศกดดันเหลือคณาปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน
ทันใดนั้น ท้องนภาพลันปรากฏหลุมดำใหญ่น้อยแตกต่างกันไปขึ้นทีละหลุม นภาราวกับเต็มไปด้วยรูพรุน น่าสะพรึงอย่างยิ่ง
ฉากนี้ทำให้สรรพสิ่งทั่วโลกหวาดผวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...