บทที่ 539 สายเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง ความฮึกเหิมของหานเจวี๋ย
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ขณะนี้ไม่มี]
หานเจวี๋ยโล่งอก จากนั้นก็ตัดสินใจยอมรับคำขอเข้าฝัน
เขาเข้าสู่แดนความฝันในชั่วพริบตา
เขาอยู่ในห้วงอากาศมืดสนิท ด้านหน้ามีแสงทองวูบไหว เสียงคำรามดังต่อเนื่อง สั่นสะเทือนแก้วหู
หานเจวี๋ยเพ่งมอง ฉิวซีไหลในรูปลักษณ์พุทธรูปทองกำลังต่อสู้อยู่ มารสวรรค์นับไม่ถ้วนล้อมโจมตีเขา ราวกับฝูงมดรุมแทะช้าง เป็นฉากที่ตระการตายิ่ง
แสงธรรมบนร่างฉิวซีไหลเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง สายตาเขาจับจ้องมารสวรรค์ที่ร่างกายสูงใหญ่กำยำอยู่ตลอด
มารตนนี้มีเพลิงทมิฬลุกท่วมร่าง สามเศียรแปดกร หน้าตาโหดเหี้ยมชั่วร้าย ผมยาวปลิวชี้ขึ้น เหมือนอสูรในเทวตำนาน ร่างกายสีดำสนิท มัดกล้ามบนร่างปูดหนาเหมือนเกราะเหล็ก เปี่ยมด้วยพลังทำลายล้างทางสายตา
มองจากที่ไกลๆ การต่อสู้ระหว่างฉิวซีไหลและมารมรรคาสวรรค์ราวกับศึกเทพมารในตำนานบรรพกาล ส่วนมารสวรรค์ที่อยู่รอบข้าง เป็นเพียงภูตมารวิญญาณร้าย ที่รุมล้อมคอยกัดกินร่าง
“หานเจวี๋ย ข้ามิใช่คู่ต่อสู้ของมารมรรคาสวรรค์ อริยะรายอื่นเนื่องจากยอมสละดวงชะตามรรคาสวรรค์ จึงไม่อาจให้ความช่วยเหลือได้ เจ้ารีบมาเถิด! หากข้าสิ้นชีพ มรรคาสวรรค์จะตกอยู่ในอันตราย!”
เสียงของฉิวซีไหลดังก้องอยู่ในหูหานเจวี๋ย น้ำเสียงร้อนรน
หานเจวี๋ยตอบอย่างสงบนิ่ง “ข้าทราบแล้ว รอข้าเตรียมการเรียบร้อยแล้วจะไป”
“เตรียมการอันใด”
“เตรียมวิธีสังหารมารมรรคาสวรรค์”
“เป็นไปไม่ได้ แม้แต่ข้ายังสังหารเขาไม่ได้ เจ้าทำได้แค่ร่วมมือกับข้าโจมตีเขาให้ล่าถอยไปเท่านั้น!”
“นั่นน่ะเจ้า แต่ข้าคิดว่าข้าทำได้”
“เจ้า…”
“เอาเช่นนี้เถิด หากเจ้าตาย ข้าจะเกื้อกูลสำนักพุทธ ลงมือช่วยเมื่อสำนักพุทธพบอันตราย ถือเสียว่าทดแทนบุญคุณในอดีตให้เจ้า เจ้าดูแลศิษย์ของข้า ข้าดูแลศิษย์ของเจ้า”
กล่าวจบ หานเจวี๋ยก็สลายแดนความฝันทันที จิตรับรู้กลับสู่ความเป็นจริง
เขาฝึกบำเพ็ญต่อ
ช่วยฉิวซีไหลเช่นนั้นหรือ
ยังไม่ใช่ตอนนี้!
หากว่าถึงเวลาฉิวซีไหลลอบโจมตีเขาเล่า
แม้ว่าจะแค่มีความเป็นไปได้ หานเจวี๋ยก็ไม่ยอมเสี่ยงอยู่ดี
เขาเชื่อว่าฉิวซีไหลจะเอาตัวรอดได้ มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้มิใช่หรือ
คนชั่วมักอยู่ก่อกรรมได้นับพันปี
….
ณ ทะเลทรายกว้างไกลไร้ขอบเขต พายุทรายปลิวท่วมฟ้า เสียงเข่นฆ่าร้องคำรามแว่วดังไม่ขาดหู
มองเห็นหานมิ่งและหานทั่วถูกมารสวรรค์หลายพันตนรุมล้อม ต่อสู้จนโลหิตไหลนอง
หานทั่วมีบาดแผลทั่วร่าง กระบี่ในมือเต็มไปด้วยรอยบิ่นเว้า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขาจะสิ้นชีพด้วยน้ำมือของมารสวรรค์
“เจ้าหนีไปก่อน ข้าจะรั้งพวกเขาไว้!”
ทันใดนั้นหานมิ่งก็ตะโกนขึ้นมา สองแขนอ้ากางออก พลังเวทก่อตัวเป็นสายฟ้าขึ้นมาทีละเส้นๆ เข้าพัวพันมารสวรรค์เหล่านั้น คล้ายตรวนสายฟ้าที่ก่อตัวเป็นใยแมงมุม
หานทั่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ข้าทิ้งท่านไปไม่ได้!”
“รีบไปซะ! ถ้าเจ้าไป ข้าถึงจะมีทางเอาตัวรอด ตอนนี้เจ้าเป็นแค่ตัวถ่วงข้า!”
หานมิ่งเอ่ยอย่างหมดความอดทน มารสวรรค์หลายพันตนดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เสียงคำรามก้องฟ้าสะเทือนปฐพี ทำให้คนใจสั่น
หานทั่วกัดฟัน หันหลังจากไป
มองเห็นแผ่นหลังของเขาห่างออกไป หานมิ่งก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
รอจนกระทั่งหานทั่วหายลับขอบฟ้าไป ตัวเขาถึงได้ผ่อนคลาย มารสวรรค์แต่ละตนดิ้นรนหลุดพ้นจากตรวนสายฟ้า พุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง
หานมิ่งเผยรอยยิ้มเศร้าสร้อย เอ่ยพึมพำ “ข้าได้ชดใช้หนี้ชีวิตที่ติดค้างท่านแล้ว”
วินาทีต่อมา แววตาเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย
“ข้าหานมิ่งมีชีวิตอยู่มาสองชาติ ไหนเลยจะยอมตายอยู่ที่นี่”
“ถ้าต้องตาย ข้าก็จะตายอย่างยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือน!”
ตูม!
เขากระตุ้นมรรคผล ระเบิดพลังเวท รัศมีเรืองรองดั่งสายรุ้ง
ปราณกระบี่แต่ละสายพุ่งออกมารวมตัวกันกลางอากาศ กลายเป็นเงากระบี่นับหมื่นนับพันเล่ม กวาดผ่านไปทั่วสารทิศ
มารสวรรค์ทั้งหมดหลุดจากตรวนสายฟ้า มุ่งเข้าสังหารหานมิ่ง แทบจะท่วมทับเขาแล้ว
หานมิ่งใช้มือต่างกระบี่ พยายามทุ่มพลังฟาดฟันสังหาร
มารสวรรค์สี่ปีกหัวพยัคฆ์ร่างมนุษย์ตนหนึ่งถูกหานมิ่งผ่าเป็นสองซีก แต่ในไม่ช้า ร่างกายก็สมานรวมตัวกันอีกครั้ง แผลหายเป็นปลิดทิ้ง
สถานการณ์เช่นนี้ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง หานมิ่งขมวดคิ้วแน่น จนถึงตอนนี้มารสวรรค์กลุ่มนี้ยังไม่มีตนไหนตายอย่างแท้จริงเลย
ความรู้สึกสิ้นหวังคืบคลานเข้าสู่หัวใจของหานมิ่ง
ครั้งนี้คงต้องตายจริงๆ แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...