ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 540

บทที่ 540 หมื่นสรรพสิ่งในโลกา จงเป็นกระบี่ให้ข้า

‘ข้าอยากรู้ว่าเบื้องหลังของมารมรรคาสวรรค์มีแผนร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่าซ่อนอยู่หรือไม่’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ ในใจ แดนเทพหวนปัจฉิมแข็งแกร่งกว่าแดนเซียนมาก มารสวรรค์กล้ารุกรานแดนเทพหวนปัจฉิม แล้วมารมรรคาสวรรค์ยังจำเป็นต้องมาที่แดนเซียนด้วยหรือ

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

[ไม่มี]

หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว รู้สึกโล่งอกอยู่ในใจ

ไม่มีก็ดี!

ดูเหมือนบางครั้งตนก็คิดมากเกินไปจริงๆ

หรือว่าจักรพรรดิสวรรค์จะไม่ได้อยู่ในแดนเทพหวนปัจฉิม แต่ผจญภัยอยู่ในแดนต้องห้ามอันธการ

แล้วไปเถอะ!

ไม่มีแผนร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่าก็ดีแล้ว!

หานเจวี๋ยหลับตาลง ทำความเข้าใจมหามรรคต้นกำเนิดต่อ

เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปปีแล้วปีเล่า มารสวรรค์รอบเขตเซียนร้อยคีรีก็เพิ่มมากขึ้นตามการไหลผ่านของกาลเวลา

หนึ่งร้อยปีต่อมา จำนวนมารสวรรค์ในละแวกเขตเซียนร้อยคีรีก็เพิ่มขึ้นทะลุหลักล้าน

หลี่เสวียนเอ้ามุ่งหน้ามาขอพบหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยให้เขาเข้ามาในอารามเต๋า

“เจ้าสำนัก มารสวรรค์ทำให้บรรดาศิษย์ในสำนักอกสั่นขวัญแขวน ต้องการจัดแจงศิษย์ของพวกเราออกไปทำลายล้างมารสวรรค์หรือไม่ขอรับ”

หลังหลี่เสวียนเอ้าทำความเคารพเสร็จ ก็เอ่ยถามอย่างนอบน้อม

หานเจวี๋ยกล่าวอย่างสงบนิ่ง “มารสวรรค์ไม่มีทางบุกเข้ามาในอาณาเขตเต๋าได้ ไม่ควรค่าให้หวั่นเกรง”

หลี่เสวียนเอ้าได้ฟังก็อึกอักคล้ายอยากจะพูดอะไร

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “อยากถามอะไร พูดมาตามตรงเถอะ”

หลี่เสวียนเอ้าสูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยว่า “ท่านมิได้แสดงธรรมมานานมากแล้ว คาดว่าเป็นเพราะมารสวรรค์ หลายปีก่อนที่ร่วมมือกับอริยชน น่าจะเพื่อกำจัดมารสวรรค์ แต่ยามนี้มารสวรรค์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อริยะไม่มีความเคลื่อนไหว เกรงว่าอริยชน…”

วาจาส่วนหลังเขาไม่ได้กล่าวออกไป

หานเจวี๋ยถาม “เจ้าอยากพูดอะไรกันแน่”

หลี่เสวียนเอ้าจึงเอ่ยว่า “สถานการณ์เช่นนี้เป็นช่วงเวลาสร้างชื่อให้สำนักซ่อนเร้นของพวกเราได้พอดี หากสำนักซ่อนเร้นสามารถทำลายล้างมารสวรรค์ได้ สรรพสิ่งล้วนจะติดค้างหนี้กรรมอันยิ่งใหญ่ต่อพวกเรา ข้าคิดว่าท่านน่าจะเป็นอริยะที่แข็งแกร่งที่สุด มิเช่นนั้นอริยะเหล่านั้นคงมาหาเรื่องแต่แรกแล้ว ไยท่านจึงไม่ลงมือขจัดมหันตภัยนี้ให้สิ้นสุดลงเล่าขอรับ”

หานเจวี๋ยไม่ได้เปล่งวาจา เพียงมองหลี่เสวียนเอ้าเงียบๆ

หลี่เสวียนเอ้าพลันรู้สึกกระวนกระวาย ก้มหน้าลงต่ำ

หานเจวี๋ยค่อยๆ ลุกขึ้นมา

“เตรียมพร้อมสดับธรรม”

วาจานี้ดังก้องไปทั่วสำนักซ่อนเร้น

เหล่าศิษย์นับล้านต่างตื่นเต้นขึ้นมา พากันมุ่งหน้าไปยังสถานที่แสดงธรรม

เป็นเช่นเดียวกับที่ผ่านมา การแสดงธรรมยาวนานถึงหนึ่งร้อยปี

ในอดีตที่ผ่านมาหลังจากหานเจวี๋ยแสดงธรรมเสร็จสิ้นล้วนจากไปทันที แต่ครั้งนี้มิใช่เช่นนั้น

เขานั่งสมาธิอยู่บนยอดเขา ทอดสายตามองเหล่าศิษย์นับล้านที่อยู่ในสภาวะตระหนักมรรค ต่างดูราวกับลุ่มหลงมัวเมา

เขาเริ่มสอดส่องไปทั่วแดนเซียน

ทุกแห่งที่สายตากวาดผ่าน ซากศพกองเกลื่อนพื้น โลหิตนองเป็นทะเล

มารสวรรค์กระจายตัวไปทั่วร้อยเมืองในแดนเซียน ถึงขั้นที่เริ่มขยายไปตามโลกมนุษย์ต่างๆ แล้ว

สิ่งมีชีวิตมรรคาสวรรค์ตกอยู่ในอันตราย

อริยะสู้มารมรรคาสวรรค์ไม่ไหว สรรพสิ่งในมรรคาสวรรค์ก็ต้านมารสวรรค์หลายร้อยล้านไม่ได้

หานเจวี๋ยเงียบงัน

ผ่านไปเนิ่นนานนัก

“พวกเจ้า”

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็เปิดปากเอ่ย ทำให้เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นทั้งหมดที่ตระหนักมรรคอยู่ฟื้นตื่นขึ้นมา

เหล่าศิษย์พากันเงยหน้าขึ้น มองเจ้าสำนักซ่อนเร้นผู้สูงส่งซึ่งแผ่แสงเทพนับหมื่นจั้งออกมา ทั้งหมดต่างก็แสดงสีหน้าเลื่อมใสบูชา

รอจนศิษย์ทั้งหมดได้สติกลับมา หานเจวี๋ยจึงค่อยๆ เอ่ยว่า “มหันตภัยมารสวรรค์มีต้นตอมาจากชั้นฟ้าที่สามสิบสาม อริยชนร่วมมือกัน ถ่ายทอดดวงชะตามรรคาสวรรค์เข้าสู่ร่างฉิวซีไหล ฉิวซีไหลต่อสู้กับผู้นำของเหล่ามารสวรรค์อยู่นอกเขตฟ้าบุพกาลมาสักระยะหนึ่งแล้ว”

“พวกเจ้าคิดเห็นเช่นไรกับมหันตภัยครานี้”

พอกล่าวจบ เหล่าศิษย์ต่างมองหน้ากัน

เหล่าศิษย์ในนามไม่กล้าเปิดปากพูด บรรดาศิษย์สืบทอดก็ไม่ได้ให้คำตอบในทันที

เวลานี้ ศิษย์คนหนึ่งเหาะขึ้นมา คุกเข่ากลางอากาศ คารวะหานเจวี๋ย

ฉู่ซื่อเหริน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ