ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 56

บทที่ 56 แดนต้องห้ามบรรพกาล ป้ายไม้ลึกลับ
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเพิ่งปรากฏกายก็สังเกตเห็นซูฉี เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ท่านนี้คือศิษย์ของเจ้าหรือ”

หานเจวี๋ยส่ายหน้ากล่าว “ไม่ใช่ เป็นเพียงข้ารับใช้ของข้า”

ซูฉีอยากจะกล่าววาจาแต่จำต้องหยุดไว้ เลือกที่จะเงียบในที่สุด

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งมองประเมินซูฉีอย่างละเอียด สายตาเป็นประกาย เอ่ยว่า “เจ้าเด็กนี่คุณสมบัติไม่เลว เป็นข้ารับใช้ให้เจ้าช่างเสียดายพรสวรรค์จริงๆ ไม่สู้ติดตามข้าไปแสวงหามรรคาที่ต่างแดนดีกว่า”

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ใจเต้นผิดจังหวะ

อาจารย์ปู่เอ๋ย!

ท่านกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ!

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งมองไปทางซูฉี ลูบเคราถามว่า “เจ้าหนู เจ้ายินดีหรือไม่ ข้าคือปรมาจารย์ที่ก่อตั้งสำนักหยกพิสุทธิ์ นี่เป็นโอกาสอันดีเชียวนะ!”

เขามองข้ามหานเจวี๋ยไป เพราะรู้นิสัยของหานเจวี๋ยดี

เจ้านี่ก็กลัวความยุ่งยากเป็นที่สุด

หากตนสามารถพาซูฉีไปด้วยได้ บางทีหานเจวี๋ยอาจจะซาบซึ้งในตัวเขา

ซูฉีได้ยินเช่นนั้นก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

หานเจวี๋ยกล่าวอย่างอดไม่ได้ “อาจารย์ปู่ เจ้าเด็กนี่ค่อนข้างพิเศษ ทางที่ดีไม่รับเขาจะดีกว่า”

เขาจะพูดอย่างไรได้?

ให้บอกว่าซูฉีเป็นดาวตัวซวยน่ะหรือ?

ใครเล่าจะเชื่อ?

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเอ่ยถามด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ไม่เชิงยิ้ม “เหตุใดเล่า เจ้าไม่ยินยอมปล่อยคนของเจ้าหรือ?”

ซูฉีพลันเอ่ยขึ้นมาทันที “ขอบคุณในความปรารถนาดีของท่านปรมาจารย์ ข้าก็อยากจะอยู่ที่นี่”

เขาไม่ได้โง่ นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเป็นถึงปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนัก ฐานะตัวตนเช่นนี้กลับมาเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ยถึงที่

นี่หมายความว่าอันใดเล่า?

สถานะของหานเจวี๋ยไม่ด้อยอย่างไร!

กระทั่งพูดได้ว่าไม่ได้ด้อยไปกว่านักพรตเต๋าจิ่วติ่งเลย!

“ช่างเถิด”

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้โกรธเคืองอะไร

เขาเดินไปนั่งลงข้างหานเจวี๋ย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “สหายน้อย สำนักในแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนข้าไปมาหมดแล้ว หลังจากนี้สำนักหยกพิสุทธิ์จะไม่พบกับอันตรายอีก เจ้าก็สามารถฝึกบำเพ็ญได้อย่างสงบใจ”

หานเจวี๋ยยิ้มเอ่ย “สมเป็นท่านปรมาจารย์ ช่างเก่งกาจยิ่งนัก ท่านลงมือก็ไม่อาจดูเบาได้เลย”

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งลูบเคราหัวเราะ คำพูดประจบประแจงใช้ได้ผลกับเขายิ่งนัก

“ข้าออกไปข้างนอกครั้งนี้ ค้นพบแดนต้องห้ามบรรพกาลแห่งหนึ่ง ทรัพยากรที่นั่นอุดมสมบูรณ์ ข้าวางแผนที่จะครอบครองมัน ทำให้มันกลายเป็นสถานที่บำเพ็ญของสำนักหยกพิสุทธิ์ แดนต้องห้ามนี้เพิ่งถูกค้นพบ ไม่แน่ว่าในนั้นอาจจะมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ไม่น้อย เจ้าอยากไปดูหรือไม่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานเจวี๋ยพลันเลิกคิ้วขึ้น

แดนต้องห้ามบรรพกาล?

อักขระขนาดใหญ่สองตัวผุดขึ้นในมองของเขา

อันตราย!

หรือจะเป็นสถานที่ที่โจวฝานล่วงล้ำเข้าไปก่อนหน้านี้?

หานเจวี๋ยรีบส่ายหน้ากล่าวทันที “ช่างเถิด มอบให้กับศิษย์คนอื่นในสำนักดีกว่า”

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าหลุดขำ

เจ้าเด็กนี่ก็กลัวตายจริงๆ สินะ

เช่นนี้ก็ดี ศิษย์และศิษย์หลานของเขาล้วนบุ่มบ่ามเกินไป ในสำนักมีคนมุมานะฝึกบำเพ็ญอย่างหานเจวี๋ย ตั้งมั่นรักษาก็ดียิ่งนัก

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “อย่างมากยี่สิบปีข้าก็จำต้องจากที่นี่ไป จวนเซียนสวรรค์ใกล้จะเปิด ข้าเตรียมเข้าวังแสวงหามหามรรคา ข้าจะบอกเจ้าให้นะ จวนเซียนสวรรค์นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ทุกหนึ่งร้อยปีจะมีศิษย์ที่กลายเป็นเซียน…”

เขาเริ่มพูดเป็นน้ำไหลไฟดับ

หานเจวี๋ยรู้สึกคุ้นหูเป็นอย่างมาก

ช้าก่อน!

นี่ก็ไม่ใช่ของที่เซวียนฉิงจวินจะให้เขา ตอนที่มาหาเขาครั้งแรกหรอกหรือ

ป้ายจวนเซียนสวรรค์!

ตอนนั้นเขาปฏิเสธไป

ตอนนี้ดูเหมือนจวนเซียนสวรรค์จะยิ่งใหญ่จริงๆ แม้แต่ระดับสุญตาขั้นแปดเช่นนักพรตเต๋าจิ่วติ่งยังอยากเข้าไปเลย

หานเจวี๋ยนั่งฟังด้วยความใจเย็น

ซูฉีก็กำลังฟังอยู่เช่นกัน

สุดท้าย

“ฮ่าๆ รอข้ากลับมาครั้งหน้า ไม่แน่อาจจะบรรลุระดับรวมกายาแล้วก็เป็นได้ ศิษย์หลานของข้าบอกว่าเจ้ามีคุณสมบัติยอดเยี่ยม ไม่กี่ร้อยปีก็สามารถไล่ตามข้าทัน พอถึงตอนนั้นพวกเรามาประลองเวทกัน ดูว่าผู้ใดจะเก่งกาจกว่า” นักพรตเต๋าจิ่วติ่งหัวเราะกล่าวด้วยความลำพอง

หานเจวี๋ยหมดวาจา

เขาพลันรู้สึกว่านิสัยของนักพรตเต๋าจิ่วติ่งแตกต่างจากที่เขาจินตนาการอยู่บ้าง

เจ้าหมอนี่มีใจที่อยากโอ้อวดอยู่ดวงหนึ่ง

ก็จริง การกลับมาของนักพรตเต๋าจิ่วติ่งครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แม้กระทั่งสามารถปราบแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนได้อยู่หมัด อุปนิสัยของคนผู้นี้ย่อมชอบวาจาสรรเสริญเยินยอเป็นธรรมดา

หานเจวี๋ยส่ายหน้าเอ่ย “ถึงให้เวลาข้าอีกหลายพันปี ข้าก็ตามท่านปรมาจารย์ไม่ทันหรอก!”

วาจานี้ทำให้นักพรตเต๋าจิ่วติ่งรู้สึกเบิกบานมากขึ้นไปอีก

[นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

ในที่สุดก็เกิดความประทับใจแล้ว!

ก่อนหน้านั้นหานเจวี๋ยยังคงไม่เข้าใจ เขาสร้างคุณูปการให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์มากมายเพียงนั้น เหตุใดนักพรตเต๋าจิ่วติ่งถึงไม่เกิดความประทับใจในตัวเขา

ที่แท้ตนเองก็ไม่ได้เยินยอเขานั่นเอง!

ในที่สุดนักพรตเต๋าจิ่วติ่งก็พึงพอใจแล้ว

ที่เขามาหาหานเจวี๋ยครั้งนี้ เพียงเพราะเขาบังเอิญผ่านทางมาพอดี

ก่อนหน้านั้นเขาตกตะลึงมากที่พบว่าในสำนักหยกพิสุทธิ์ เขาก็ไม่ได้มีบารมีสูงสุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ