ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 561

บทที่ 561 อริยะหน้าใหม่ในมหาเคราะห์ ผลกรรมที่ไม่อาจทราบได้

สำหรับเผ่าเอกา เดิมทีหานเจวี๋ยคิดจะให้อยู่ในอาณาเขตเต๋าไปตลอด จะส่งออกไปทำภารกิจบ้างเป็นครั้งคราว

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาพบว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไร

ภายในเผ่าเอกาเริ่มปรากฏสัญญาณความหย่อนยานในการบำเพ็ญขึ้น

เมื่อไม่มีศัตรูตัวฉกาจ ไม่มีเป้าหมาย ฝึกบำเพ็ญอย่างน่าเบื่อหน่ายอยู่ตลอด ทำให้เผ่าเอกาและบรรดาศิษย์ส่วนใหญ่เริ่มเฉื่อยชา ถึงขั้นที่ยอมแพ้กับตัวเองแล้ว

ในหมู่ศิษย์สืบทอดก็มีสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน พวกไก่คุกรัตติกาล สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น และโจวหมิงเยวี่ยเป็นต้น

ศิษย์ที่ไม่เฉื่อยชาหย่อนยานเลยมีน้อยยิ่ง ทั้งสำนักซ่อนเร้น นอกจากหานเจวี๋ย ก็มีเพียงลี่เหยาที่ปิดด่านบำเพ็ญอยู่ตลอด คนอื่นๆ มีหยุดพักจากการบำเพ็ญบ้างเป็นครั้งคราว ผ่อนคลายเล็กน้อย

หานเจวี๋ยลุกขึ้นเดินออกไป ระหว่างทางเขาก็ใคร่ครวญไปด้วย

ตนทำถูกแล้วจริงๆ น่ะหรือ

มิใช่ทุกคนที่อยากฝักใฝ่แสวงหาการบำเพ็ญ

ว่ากันตามมุมมอง ศิษย์คนอื่นๆ ล้วนสู้หานเจวี๋ยไม่ได้ แต่ถ้ามองจากมุมของพวกเขา สำนักซ่อนเร้นไร้ศัตรู มีหานเจวี๋ยคุ้มหัวอยู่ จะฝึกบำเพ็ญหนักถึงเพียงนั้นไปไย

อีกอย่างหากเป็นคนที่ไม่ชอบฝึกบำเพ็ญ ผู้ใดจะบากบั่นบำเพ็ญไปได้ตลอดเล่า

ก็เหมือนการอ่านหนังสือในชาติก่อน ทุกคนต่างรู้ว่าต้องขยันอ่านหนังสือ ถึงจะสามารถเปลี่ยนชะตาได้ แต่คนที่ยืนหยัดอ่านหนังสือได้จริงๆ จะมีสักกี่คนกัน

หลังกลับไปถึงอารามเต๋า หานเจวี๋ยใคร่ครวญถึงปัญหาข้อนี้

สิบปีต่อมา ศิษย์ทั้งหมดฟื้นตื่นจากสภาวะตระหนักมรรคแล้ว

ทันใดนั้นเสียงของหานเจวี๋ยก็ดังก้องไปทั่วสำนักซ่อนเร้น

“แดนเซียนจะแข่งขังชิงตำแหน่งอริยะ สำนักซ่อนเร้นของข้าย่อมตามไขว่คว้าเช่นกัน มรรคาสวรรค์มีตำแหน่งอริยะเก้าที่ แต่สำนักซ่อนเร้นของข้ามิใช่เก้า หากพวกเจ้ามีใจทะเยอะทะยาน จงฝึกบำเพ็ญให้ดี ขอเพียงพวกเจ้าบรรลุถึงครึ่งอริยะระยะสมบูรณ์ ข้าล้วนมีหนทางช่วยให้พวกเจ้าสำเร็จเป็นอริยะ สำนักซ่อนเร้นจะมีอริยะมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของพวกเจ้า!”

เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกมา มีเสียงฮือฮาไปทั่วสำนักซ่อนเร้น

อริยะ!

ศิษย์หลายล้านคนพลันตื่นเต้นขึ้นมา

หากเป็นอริยะรายอื่นกล่าวเช่นนี้ พวกเขาอาจดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่เมื่อหานเจวี๋ยเป็นผู้กล่าว พวกเขาล้วนเชื่อกันทั้งสิ้น

ชั่วขณะนั้น สำนักซ่อนเร้นคึกคักตื่นตัว ต่างพูดคุยถึงเรื่องนี้ ศิษย์มากมายเริ่มปิดด่านทันที

หานเจวี๋ยลอบถอนหายใจกับตัวเอง

การกระตุ้นเช่นนี้ใช้ได้เพียงชั่วคราว ผ่านไปสักระยะ ความคึกคักต้องลดลงแน่

แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอนาคต

….

ฤดูใบไม้ผลิอำลา ฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน

หนึ่งพันปีผ่านไปในชั่วพริบตา

อาจเป็นเพราะไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ หานเจวี๋ยจึงรู้สึกว่าเวลาหนึ่งพันปีช่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับความฝันตื่นหนึ่ง

ภายในเขตเซียนร้อยคีรีไร้คลื่นลม แม้แต่ความขัดแย้งก็ไม่มีเลย

แม้แดนเซียนจะมีการต่อสู้อยู่ตลอด แต่ไม่ถึงลามมาถึงเขตเซียนร้อยคีรีเลยแม้แต่น้อย ศิษย์ส่วนใหญ่ในสำนักซ่อนเร้นต่างสัมผัสถึงช่วงเวลาอันเงียบสงบ

เหตุใดจึงใช้คำว่าส่วนใหญ่น่ะหรือ

เพราะมีศิษย์ไม่น้อยเลยที่อยากจะออกไป พวกเขาคิดว่าตนแข็งแกร่งมากพอแล้ว บ้างก็ไม่สามารถก้าวหน้าไปมากกว่านี้ได้ ดังนั้นจึงไม่อยากฝึกบำเพ็ญต่อ

ในวันนี้

หานเจวี๋ยเรียกหานตั้วเทียนมา ให้เขาคัดเลือกศิษย์ในนามที่ตบะไม่อาจก้าวหน้าขึ้นได้อีก ส่งตัวไปที่เผ่าสวรรค์

เดิมทีหานเจวี๋ยอยากสนับสนุนวังสวรรค์ แต่กลับรู้สึกว่าไม่จำเป็น

จักรพรรดิสวรรค์ก่อตั้งวังสวรรค์แห่งใหม่ขึ้นแล้ว วังสวรรค์แห่งเก่าจะมีประโยชน์อันใด

หากให้การสนับสนุนทั้งเผ่าสวรรค์และวังสวรรค์ เกิดสองกลุ่มอิทธิพลนี้ต่อสู้กันขึ้นมา นั่นจะมิใช่ขัดแย้งแตกหักกันเองหรือ

หลายวันต่อมา ศิษย์ในนามห้าพันคนจากไป หนึ่งในสามคือจักรพรรดิเซียน ที่เหลือเป็นเซียนทองไท่อี่ทั้งสิ้น

หานเจวี๋ยเข้าฝันฟางเหลียงและจี้เซียนเสิน ดึงทั้งสองเข้าสู่แดนความฝันพร้อมกัน

แดนความฝันคือป่าเล็กในละแวกสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ หลังจากทั้งสองมองเห็นหานเจวี๋ยก็คุกเข่าคารวะทันที

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “นับจากวันนี้ไป ให้ฟางเหลียงเป็นรองหัวหน้าเผ่าสวรรค์ พวกเจ้าทั้งสองจงช่วยเหลือประคับประคองกัน ควบคุมเผ่าสวรรค์ และแย่งชิงดวงชะตามรรคาสวรรค์”

เมื่อฟางเหลียงได้ยินก็ตะลึงงัน เขาเดาได้แต่แรกแล้วว่าสำนักซ่อนเร้นให้การสนับสนุนเผ่าสวรรค์อยู่ เพียงแต่จี้เซียนเสินไม่เคยเอ่ยอย่างชัดเจน เขาก็ไม่กล้ายืนยัน

ตอนนี้เมื่อได้ฟังคำพูดหานเจวี๋ย ในใจเขาซับซ้อนยิ่ง

เพราะอะไรถึงไม่สนับสนุนวังสวรรค์ของข้า

หลังจากความคิดนี้ผุดขึ้นมา ก็ไม่อาจลบออกไปได้

จี้เซียนเสินพูดด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “ได้แน่นอน ในที่สุดข้าก็จะได้แบ่งเบาภาระออกไปบ้าง”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างสงบว่า “ฟางเหลียง อย่าได้ถูกผูกมัดไว้กับวังสวรรค์ อดีตจักรพรรดิสวรรค์ยังมีชีวิตอยู่ และได้ก่อตั้งวังสวรรค์ขึ้นใหม่แล้ว ระวังจะตกเป็นเหยื่อเอาได้ ยุคใหม่ย่อมต้องการคนหน้าใหม่ การเป็นผู้นำเผ่าสวรรค์มิใช่จุดสิ้นสุดของพวกเจ้า ข้าคาดหวังในตัวพวกเจ้าสูงกว่านั้น นี่เป็นเพียงแท่นเหยียบเพื่อฝึกประสบการณ์พวกเจ้าเท่านั้น อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ