บทที่ 572 เซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะปลาย!
ข่าวที่สำนักซ่อนเร้นส่งจักรพรรดิเซียนหมื่นคนไปสนับสนุนเผ่าสวรรค์แพร่กระจายไปทั่วแดนเซียนภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งร้อยปี สร้างความตื่นตะลึงให้กลุ่มอิทธิพลต่างๆ
สำนักซ่อนเร้นซุกซ่อนผู้บำเพ็ญทรงพลังเอาไว้มากแค่ไหนกัน
ผู้ที่ปรีดาที่สุดย่อมเป็นจี้เซียนเสิน ผู้ทรงพลังระดับเทพขึ้นไปล้วนยุ่งอยู่กับการฝึกบำเพ็ญ ด้วยเหตุนี้จักรพรรดิเซียนจึงกลายเป็นกองกำลังหลัก ก่อนหน้านี้สำนักซ่อนเร้นเคยส่งจักรพรรดิเซียนมาให้หลายพันคน ตอนนี้จำนวนจักรพรรดิเซียนในเผ่าสวรรค์มีเกินสองหมื่นคนแล้ว มากที่สุดในแดนเซียน
จี้เซียนเสินก็ไม่ได้ทำให้จักรพรรดิเซียนหนึ่งหมื่นคนต้องผิดหวัง หลังจากจัดสรรพวกเขาเสร็จสรรพก็เปิดศึกทันที
จักรพรรดิเซียนแห่งสำนักซ่อนเร้นมานะบำเพ็ญมาหลายหมื่นปี ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ออกมา ย่อมไม่คิดจะเอาแต่ฝึกบำเพ็ญต่อไป พวกเขาต้องการไล่ไขว่คว้าอย่างอื่น เพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง
จุดประสงค์ในการบำเพ็ญก็เพื่อให้แข็งแกร่งกว่าผู้อื่นมิใช่หรือ
สงครามเป็นสิ่งแสดงคุณด้านพลังของตนได้ดีที่สุด
ชั่วขณะนั้น เผ่าสวรรค์ตะลุยทำศึกไปทั่วทิศ กลุ่มอิทธิพลที่ยอมศิโรราบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งพันปีต่อมา
เผ่าสวรรค์ประกาศศึกต่อเผ่าปีศาจอย่างเป็นทางการ จักรพรรดิปีศาจอีกาทองทะนงในศักดิ์ศรียิ่ง ตอบรับคำท้าอย่างไม่เกรงกลัวเลย
สงครามสองเผ่าพันธุ์ย่อมเป็นศึกใหญ่ที่ดุเดือดร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่มรรคาสวรรค์เริ่มต้นใหม่ แผ่ขยายลุกลามไปหลายสิบเมือง
บนเนินเขาแห่งหนึ่ง
หานทั่วและอี๋เทียนยืนเคียงกัน แหงนหน้ามองขอบฟ้า พวกเขามองเทพเซียนร่างใหญ่ยักษ์ดั่งขุนเขาหลายตนกำลังโจมตีปีศาจอยู่
หานทั่วถอนหายใจคราหนึ่ง เอ่ยว่า “เพราะเหตุใดกัน ตัวเจ้าก็หาใช่ปีศาจไม่ เหตุใดต้องทุ่มชีวิตเพื่อเผ่าปีศาจ”
อี๋เทียนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ามิได้ทุ่มชีวิตเพื่อเผ่าปีศาจ เพียงอาศัยชื่อพวกเขาช่วงชิงดวงชะตาเท่านั้น หากข้าหัวเดียวกระเทียมลีบ เกรงว่าคงมีศัตรูนับไม่ถ้วน แม้ตอนนี้จะติดตามเผ่าปีศาจ แต่เผ่าสวรรค์ก็ยังอยากรับตัวข้าเข้าพวกอยู่”
หานทั่วกลอกตาใส่เขา กล่าวว่า “เจ้าคิดจะเลียนอย่างฉีเทียนต้าเซิ่ง ไปเป็นคนเลี้ยงม้าให้พวกเทพเซียนจริงๆ น่ะหรือ”
อี๋เทียนถลึงตาใส่พลางเอ่ย “เป็นคนเลี้ยงม้าให้เทพเซียนอันใดกัน ข้าต่างหากนายเหนือแห่งเทพเซียนตัวจริง! มีชะตาลิขิตคอยท่าอยู่ในความมืดมิด!”
“ฮ่าๆ ทำเหมือนเจ้าเป็นบุตรแห่งมรรคาสวรรค์จริงๆ ไปได้”
“บอกเจ้าไปแต่แรกแล้ว เจ้าก็ไม่เชื่อ”
“หากเจ้าเป็นบุตรแห่งมรรคาสวรรค์ เหตุใดบางครั้งยังต้องให้ข้าลงมือช่วยเหลืออีกเล่า”
“จำเป็นต้องได้รับความทุกข์ยากอย่างไรเล่า เจ้าเป็นพี่น้องของข้า เจ้าไม่ช่วยข้า แล้วผู้ใดจะช่วยเล่า รอให้ข้ากลายเป็นเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ก่อนเถิด ข้าจะให้เจ้ามีตำแหน่งเสมอข้า!”
“พูดเสียน่าฟัง แต่ข้าไม่มีความทะเยอทะยานมากขนาดนั้น”
“จริงหรือ แล้วเจ้าบำเพ็ญเพียรไปเพื่อสิ่งใดกันแน่”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามนี้จากอี๋เทียน หานทั่วก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใดๆ ล้วนมีเป้าหมายในการฝึกบำเพ็ญทั้งสิ้น หานทั่วย้อนมองตัวเอง ยากจะตอบได้อยู่บ้าง
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงบทสนทนากับบิดาในอดีตเมื่อนานมาแล้ว เขาแทบจะจดจำหน้าตาของบิดาไม่ได้อีก แต่คืนนั้นบิดาสั่งสอนความรู้ให้เขามากมายนัก
หานทั่วสูดลมหายใจลึกๆ คราหนึ่ง เอ่ยว่า “ข้าเพียงอยากบำเพ็ญเพียร หากข้าแข็งแกร่ง จะต้องยื่นมือเข้าเกื้อหนุนเผ่ามนุษย์แน่ แต่สิ่งที่ข้าต้องการที่สุดคือกลายเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่ง!”
เขานึกถึงเรื่องที่ตนถูกเจ้าสำนักซ่อนเร้นปฏิเสธ นึกถึงภรรยาที่ตายจากไป นึกถึงความคาดหวังในอดีตของท่านพ่อท่านแม่ ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นมา
“สมกับเป็นพี่น้องของข้า มีความต้องการเช่นเดียวกับข้า เจ้าไปก่อนเถอะ วางใจได้ ข้าไม่มีทางตายอยู่ที่นี่ เผ่าสวรรค์ฆ่าข้าไม่ได้ และไม่มีทางฆ่าข้าด้วย” อี๋เทียนตบไหล่หานทั่วพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
หานทั่วขมวดคิ้ว ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายยังคงพยักหน้ารับ
เขาหันหลังจากไป เหาะมุ่งไปยังขอบฟ้าอย่างรวดเร็ว
เสียงหนึ่งแว่วดังขึ้นในหูเขา “เจ้าเด็กนี่อาจจะเป็นบุตรแห่งมรรคาสวรรค์จริงๆ ชะตาของเขาพิสดารอย่างยิ่ง ข้ามองไม่ออกเลย”
เป็นเสียงของภูตพยาบาทนั่นเอง
นับตั้งแต่สยบภูตพยาบาทได้ หานทั่วก็พึ่งพาภูตพยาบาทกลับร้ายให้กลายเป็นดีมาหลายครั้ง ตบะระดับเซียนทองต้าหลัวในแดนเซียน ณ ปัจจุบันนี้นับเป็นยอดฝีมือชั้นแนวหน้าแน่นอน ต่อให้เป็นครึ่งอริยะก็ยังไม่แน่ว่าจะสังหารเซียนทองต้าหลัวได้
หานทั่วถามในใจ ‘จากนี้พวกเราควรไปไหนกันต่อ’
ภูตพยาบาทเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าเจ้าจำเป็นต้องปลดบ่วงในใจให้ได้ มิเช่นนั้นเจ้าก็ยากจะบรรลุถึงระดับเทพ”
“ต้องปลดอย่างไร”
“ไปแดนมนุษย์”
“หืม?”
“เฮอะๆ ไปแล้วก็จะรู้เอง”
….
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ยิ้มออกมา
เขาปิดด่านฝึกบำเพ็ญเป็นเวลาหนึ่งพันสามร้อยปีอีกครั้ง
ในที่สุดโอกาสแห่งการทะลวงระดับก็มาเยือน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...