บทที่ 575 ฟ้าเปลี่ยน โพธิสัตว์จุนที
“อาจารย์ดับสูญ นิกายเหรินดั่งมังกรไร้หัว ศิษย์พี่ นิกายเหรินยังมิได้คัดเลือกศิษย์เอกคนใหม่ นี่เป็นโอกาสของท่าน!”
หลี่เสวียนเอ้าคล้ายจะนึกอะไรได้ ดวงตาเป็นประกาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน
หลี่เต้าคงแค่นเสียง “เจ้าและข้ามิใช่ศิษย์นิกายเหรินแล้ว อย่าได้ให้ความสนใจต่อนิกายเหรินอีก ต่อให้อาจารย์สิ้นไป เจ้าคิดว่านิกายเหรินจะล่มสลายหรือไร”
หลี่เสวียนเอ้าขมวดคิ้ว
หลี่เต้าคงส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “ศิษย์น้อง โลกทัศน์ของเจ้ายังคงคับแคบเกินไป สำนักดวงชะตามิได้ธรรมดาสามัญอย่างที่เจ้าคิด หาไม่แล้วไยสำนักพุทธและนิกายเจี๋ยถึงได้สิ้นชีพแล้วก็ฟื้นคืน ล่มสลายแล้วหวนมารวมตัวได้ซ้ำๆ กันเล่า”
หลี่เสวียนเอ้าฟังแล้วขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
หลี่เต้าคงไม่สนใจเขาอีก ลุกขึ้นยืนพลางก้าวออกจากตำหนัก หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ก่อนโค้งคำนับเล็กน้อย
เขาเป็นครึ่งอริยะ รับรู้ได้ว่าบ่วงกรรมระหว่างเขากับหลี่มู่อีถูกตัดขาดแล้ว ยืนยันได้ว่าหลี่มู่อีสิ้นชีพแล้วจริงๆ
ไม่ว่าในอดีตพวกเขาจะมีความขัดแย้งกันเพียงใด แต่หากไม่มีหลี่มู่อี ก็ไม่มีหลี่เต้าคงในวันนี้
หลี่เต้าคงทำได้เพียงโค้งคำนับไว้อาลัย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปสังหารหานเจวี๋ยเพื่อหลี่มู่อี
ในอดีตครั้งนั้นที่หลี่มู่อีตามล่าเขา ทั่วทั้งแดนเซียนมีเพียงหานเจวี๋ยที่ยอมรับตัวเขาไว้
“ฟ้าเปลี่ยนไปแล้ว”
หลี่เต้าคงพึมพำกับตัวเอง สองตาหรี่ลง
คล้ายว่าเขาจะมองเห็นความวุ่นวายเละเทะของชั้นฟ้าที่สามสิบสามแล้ว
….
เวลาผ่านไปสองพันปี
[คุกสวรรค์อนธการสยบทาสสำเร็จ]
[ฉิวซีไหลเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้เต็มขั้นดาวแล้ว]
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ยิ้มอย่างพึงพอใจ
เขาจ้องตรงไปที่ฉิวซีไหล
ฉิวซีไหลราวกับฝันไป ลืมตามองหานเจวี๋ย รีบลุกขึ้นทำความเคารพ
เมื่อนึกย้อนถึงการกระทำต่างๆ ในอดีต เขาเต็มไปด้วยความละอายใจ เอ่ยว่า “ขออภัยด้วย ไม่ทราบว่าที่ผ่านมาข้าเป็นอะไรไป ถึงได้ปฏิบัติต่อท่าน…เฮ้อ!”
หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถิด จิตวิญญาณมรรคาสวรรค์ยังอยู่หรือไม่”
ในขั้นตอนสยบทาสของฉิวซีไหล เขาใช้ความสามารถชำระล้างสมบูรณ์กับฉิวซีไหลไปด้วย แต่ก็ไม่ทราบเช่นกันว่ากำจัดจิตวิญญาณมรรคาสวรรค์ได้หรือไม่
ฉิวซีไหลกล่าว “ตราประทับมรรคาสวรรค์ในร่างข้าถูกกำจัดออกไปแล้ว แต่จิตวิญญาณมรรคาสวรรค์ยังคงอยู่ ข้าไม่เคยควบคุมจิตวิญญาณมรรคาสวรรค์ได้เลย”
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เอ่ยเช่นนี้คือ จิตวิญญาณมรรคาสวรรค์คือศัตรูตัวฉกาจของเขา
“หากว่าจิตวิญญาณมรรคาสวรรค์ยังมาหาเจ้าอีก เจ้าก็ไหลตามสถานการณ์ไป อย่าได้เผยความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับข้า” หานเจวี๋ยเอ่ยกำชับ
ฉิวซีไหลพยักหน้ารับ
จากนั้นหานเจวี๋ยเคลื่อนย้ายฉิวซีไหลไปยังชั้นฟ้าที่สามสิบสาม พร้อมกับให้จางเจี่ยวถอยออกไป
ฉิวซีไหลยังกลับไม่ทันถึงอาณาเขตเต๋า อริยะที่เหลือก็พากันมาหาแล้ว
“หานเจวี๋ยไว้ชีวิตเจ้าหรือ”
“ข้านึกว่าเจ้าไปแล้ว ในเมื่อเจ้ารอดมาได้ เช่นนั้นหลี่มู่อีเล่า”
“จุ๊ๆ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะยังรอดมาได้ น่าเสียดาย”
“สิ่งที่หานเจวี๋ยพูดเป็นความจริงหรือ พวกเจ้าพบหลัวโหวจริงๆ หรือ”
ฉิวซีไหลเผชิญหน้ากับคำถามจากเหล่าอริยชนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
เขาถอนหายใจ กล่าวว่า “สหายเต๋าหลี่มู่อีสิ้นชีพแล้ว ล้วนต้องโทษข้าที่ไปหาเขาให้ร่วมมือปองร้ายหานเจวี๋ยด้วยกัน สิ่งที่หานเจวี๋ยพูดเป็นความจริง พวกเราไปพบหลัวโหวจริงๆ เรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเราเอง เหตุผลที่หานเจวี๋ยละเว้นข้า เป็นเพราะในมหาเคราะห์ครั้งก่อนข้าเคยช่วยปกป้องศิษย์เขา ข้าจะกักตนสำนึกผิด ย้อนทบทวนตัวเองให้ดี”
พอกล่าวจบ เขาก็หันหลังกลับเข้าสู่อาณาเขตเต๋าของตนเอง
อริยะที่เหลือมองหน้ากันเหลอหลา เงียบอยู่นาน
ฉิวซีไหลยอมแพ้แล้วหรือ
พวกเขารู้จักฉิวซีไหลดี เรื่องนี้ไม่ปกติเลย หานเจวี๋ยใช้วิธีการใดกันแน่
อีกด้านหนึ่ง
ข้อความแถวหนึ่งเด้งขึ้นมาตรงหน้าหานเจวี๋ย
[โพธิสัตว์จุนทีเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 4 ดาว]
โพธิสัตว์จุนที!
ช่างเป็นชื่อที่คุ้นตานัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...