บทที่ 642 มหาศึกแห่งยุค
“หึ!”
หลี่เต้าคงแค่นเสียง เขาแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์กับความมั่นใจของสือตู๋เต้า
สือตู๋เต้าไม่สนใจเขา
สำหรับความขัดแย้งระหว่างสองอริยะหน้าใหม่ อริยชนคนอื่นๆ ต่างเคยชินกันมานานแล้ว
จอมอริยะเสวียนตูกล่าวว่า “พวกเจ้ามอบสมบัติวิเศษให้สานุศิษย์ไปด้วย เผ่าเพลิงกัลป์โจมตีดุเดือดนัก แดนเซียนอาจต้านไว้ไม่อยู่”
เหล่าอริยชนพยักหน้ารับ
ในเวลาเดียวกัน
ศึกใหญ่นอกแดนเซียนปะทุขึ้นแล้ว!
ครึ่งอริยะสิบคน เซียนทองต้าหลัวนับพันบุกเข้ากวาดล้างเมืองฟ้าบุพกาลตรงๆ ครึ่งอริยะคนหนึ่งของสำนักพุทธสำแดงพลังวิเศษอันยิ่งใหญ่ ปิดกั้นเขตสนามรบ แต่ก็ถูกครึ่งอริยะของเผ่าเพลิงกัลป์ใช้พลังทำลายล้างอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ไม่สู้ดีเลย!
สำนักนิกายแห่งอริยะทยอยส่งเหล่าศิษย์จำนวนมหาศาลเข้าเสริมทัพในสนามรบ ขอบฟ้าของแดนเซียนพลันปรากฏเงาร่างของผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วนขึ้น ทั้งหมดเหาะมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เป็นภาพที่ตระการตาอย่างยิ่ง
เรื่องนี้สร้างความตกตะลึงแก่ทั่วแดนเซียน สรรพสิ่งไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
เสียงของจอมอริยะเสวียนตูดังก้องไปทั่วปวงสวรรค์หมื่นโลกา
“ฟ้าบุพกาลบุกโจมตีมรรคาสวรรค์ มารร้ายนับร้อยล้านตนของเผ่าเพลิงกัลป์เข้าโจมตี อีกฝ่ายมีตัวตนที่เหนือชั้นกว่าอริยะคอยขัดขวางไม่ให้อริยชนเข้าแทรกแซง เหล่าผู้บำเพ็ญในปวงสวรรค์หมื่นโลกาจำต้องมุ่งหน้าไปเสริมทัพ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สรรพสิ่งแห่งมรรคาสวรรค์ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้ปกป้องดินแดน!
“หากมรรคาสวรรค์ถูกเผ่าเพลิงกัลป์ทำลายล้าง สรรพสิ่งและมรรคาสวรรค์จะเผชิญกับภยันตราย เผ่าพันธุ์และสำนักนิกายต่างๆ ต้องผนึกกำลังกัน ร่วมฝ่าฝันอุปสรรค!”
เมื่อสิ้นเสียง มีเงาร่างองอาจร่างแล้วร่างเล่าทะยานออกมาจากชั้นฟ้าที่สามสิบสาม คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ทรงพลังที่สดับธรรมในอาณาเขตเต๋าแห่งอริยะ
อีกด้านหนึ่ง
เขตเซียนร้อยคีรีก็ได้รับความตื่นตระหนกเช่นกัน
เหล่าศิษย์สืบทอดพากันมาออหน้าอารามเต๋า
มรรคาสวรรค์มีภัย พวกเขาก็นั่งไม่ติดเช่นกัน
สำนักซ่อนเร้นให้การสนับสนุนกลุ่มอิทธิพลมากมาย แปลว่าหานเจวี๋ยต้องการตั้งรกรากในแดนเซียน
เหล่าศิษย์ต่างคุกเข่าหน้าประตูใหญ่ รอคอยด้วยความกระวนกระวาย
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เสียงของหานเจวี๋ยแว่วขึ้น
“เสวียนเอ้า เปิดรับศิษย์ในระดับเทพขึ้นไป หาผู้ที่ยินดีปกป้องมรรคาสวรรค์ แม้แต่เหล่าศิษย์สืบทอดก็ออกไปได้เช่นกัน”
เกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน หานเจวี๋ยก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามเช่นกัน
เมื่อครู่เขาตรวจสอบสถานการณ์สนามรบมาเล็กน้อย รากฐานของเผ่าเพลิงกัลป์น่ากลัวนัก ต้าหลัวนับพัน!
นำเซียนทองต้าหลัวทั่วแดนเซียนมารวมกันยังไม่มากเท่าของเผ่าเพลิงกัลป์เลย!
เป็นวิกฤตการณ์แห่งความเป็นความตายจริงๆ!
“รับบัญชา!”
หลี่เสวียนเอ้าลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น เริ่มเปิดรับสมัครศิษย์
บรรดาศิษย์สืบทอดก็ติดตามไปด้วย เหลือเพียงไก่คุกรัตติกาลที่ยังอยู่ที่เดิม
ไก่คุกรัตติกาลร้องถาม “นายท่าน มรรคาสวรรค์จะชนะหรือไม่”
“ไยจึงถามเช่นนี้”
“ต้องเตรียมตัวหลบหนีหรือไม่”
เสียงไก่คุกรัตติกาลสั่นอยู่บ้าง
หานเจวี๋ยเงียบไป
เผ่าเพลิงกัลป์โจมตีรุนแรงจริงๆ
แต่ก็ยังไม่ถึงจุดวิกฤตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย และยังสกัดเอาไว้ได้ ถ้าสกัดไม่อยู่จริงๆ หานเจวี๋ยจะสำแดงวิถีอัญเชิญเทพเรียกตัวศิษย์ทั้งหมดกลับมา แล้วหลบหนีทันที
ค่ายกลอาณาเขตเต๋าสามารถสกัดขวางตัวตนระดับยอดมหามรรคได้ ต่อให้มรรคาสวรรค์ล่มสลาย หานเจวี๋ยก็ใช่ว่าจะตายทันที
ถ้าสู้ไม่ได้ก็ต้องหนี!
ฟ้าบุพกาลกว้างใหญ่ ต้องมีที่หลบภัยแน่นอน
หานเจวี๋ยเปิดปากเอ่ย “หากว่าหนี แล้วจะหนีไปไหนเล่า”
ไก่คุกรัตติกาลตอบ “นายท่านไปที่ไหน ข้าก็จะไปที่นั่น”
“ไสหัวไป!”
“รับทราบ!”
ไก่คุกรัตติกาลบินจากไปแต่โดยดี
ภายในวันนั้น
หลี่เสวียนเอ้ารวบรวมศิษย์ระดับเทพได้ทั้งหมดสองหมื่นคน ในบรรดาศิษย์สืบทอด นอกจากไก่คุกรัตติกาลและสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นแล้ว ที่เหลือล้วนยินดีออกไปต่อสู้ปราบเผ่าเพลิงกัลป์ ในบรรดานั้นรวมพวกเต้าจื้อจุน จ้าวเซวียนหยวน เจียงอี้ ฉู่ซื่อเหรินและหลี่เสวียนเอ้าห้าเซียนทองต้าหลัวไว้ด้วย
หานเจวี๋ยโบกมือ ส่งพวกเขาออกไปพร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...