ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 658

สรุปบท บทที่ 658 ท้าสู้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 658 ท้าสู้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 658 ท้าสู้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 658 ท้าสู้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

ไข่มุกแห่งกรรม…

ยอดสมบัติมหามรรค!

หานเจวี๋ยกระจ่างในทันใด มิน่าเล่าหลังจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการลงมือไปแล้ว แดนเทพหวนปัจฉิมก็ยังกล้ามาโจมตีมรรคาสวรรค์อีก!

ที่แท้ก็เตรียมการมาแล้ว!

ยอดสมบัติระดับนี้แม้แต่เทพบุพกาลและโพธิสัตว์จุนทีก็ยังไม่มี จอมเทพข่งเซวี่ยได้มาจากไหนกัน

เบื้องหลังคนผู้นี้คงยังมีที่พึ่งที่แข็งแกร่งกว่าอยู่กระมัง

หานเจวี๋ยวิวัฒนาการต่อ

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนหกหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

[เทพสูงสุดหยวนสื่อ: อริยะมหามรรค มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ผู้ก่อตั้งนิกายฉ่าน เนื่องจากท่านขัดขวางไม่ให้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการทำลายมรรคาสวรรค์ จึงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 2 ดาว]

เป็นเขา

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ยังคงสงสัยอย่างยิ่ง

ค่าตัวของไข่มุกแห่งกรรมสูงกว่าเทพสูงสุดหยวนสื่อเสียอีก เทพสูงสุดหยวนสื่อหักใจมอบสมบัติชิ้นนี้ให้จอมเทพข่งเซวี่ยได้เช่นนั้นหรือ

ไข่มุกแห่งกรรมอาจเป็นสมบัติล้ำค่าของจอมเทพข่งเซวี่ยเองเสียมากกว่า

ครอบครองสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ได้ ซ้ำยังไม่ถูกอริยะมหามรรคตนอื่นแย่งชิงไป จอมเทพข่งเซวี่ยก็เป็นผู้มีความสามารถคนหนึ่งเลยทีเดียว

หานเจวี๋ยอยากลองหยั่งเชิงจอมเทพข่งเซวี่ยดูสักหน่อย

เขาสำแดงความฝันอันธการ เผชิญหน้ากับจอมเทพข่งเซวี่ยด้วยบทบาทของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

ฉากในความฝันคือเหนือแม่น้ำปรโลก ทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศ

จอมเทพข่งเซวี่ยสวมอาภรณ์ผ้าดิ้นงดงามหรูหรา มีขนนกหลากสีสันปกคลุมทั่วร่าง ใบหน้าเขาหล่อเหลา สวมกวานเศียรนกยูง ภูมิฐานทรงอำนาจ โดยเฉพาะแววตาของเขาเฉียบคมยิ่ง ทั้งยังเจือประกายเยียบเย็น

เขาจ้องมองหานเจวี๋ย เอ่ยว่า “ท่านคือผู้ใด พลังวิเศษเลิศล้ำนัก ดึงข้าเข้าสู่แดนความฝันตรงๆ จับสัมผัสไม่ได้เลย”

หานเจวี๋ยสวนกลับไป “เจ้าก็ร้ายกาจเช่นกัน มียอดสมบัติคุ้มกาย ป้องกันการสาปแช่งได้”

จอมเทพข่งเซวี่ยหรี่ตาลงพลางขานชื่อ “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ!”

หานเจวี๋ยไม่โต้แย้ง ตัวเขาแค่มาหยั่งเชิงเท่านั้น

เขาอ่านข้อมูลของจอมเทพข่งเซวี่ยมาแล้ว ไม่ปรากฏคำว่านิกายฉ่าน ประกอบกับเขาครอบครองสมบัติที่เทพสูงสุดหยวนสื่อไม่มีไว้ เป็นไปได้ว่าเทพสูงสุดหยวนสื่ออาจเชิญตัวเขามาเท่านั้น

“ข้าสนใจใคร่รู้ในตัวเจ้ายิ่ง แม้แต่เทพบุพกาลก็ยังถูกเจ้าสาปจนดับสูญได้ การปรากฏตัวของเจ้า ทำลายแผนการอันมั่นคงในระยะยาวของฟ้าบุพกาล มาสู้กับข้าสักยกเถอะ!” จอมเทพข่งเซวี่ยเอ่ยด้วยแววตาร้อนแรง

หานเจวี๋ยเอ่ยหยอกเย้า “เจ้าสู้เทพบุพกาลได้หรือ”

“เคยท้าสู้แล้วพ่ายแพ้”

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงกล้ามาท้าข้าสู้”

“ข้าชอบท้าสู้กับผู้แข็งแกร่ง!”

ดวงตาของจอมเทพข่งเซวี่ยลุกวาว อำนาจอันแกร่งกล้าปะทุออกมา ทำให้แดนความฝันบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

หานเจวี๋ยถาม “เหตุใดเจ้าถึงทำงานให้เทพสูงสุดหยวนสื่อ”

จอมเทพข่งเซวี่ยให้คำตอบ “ข้าไม่ได้ทำงานให้เขา ที่มาครั้งนี้เพียงเพื่อซ้ำเติมมรรคาสวรรค์เท่านั้น”

มาเพื่อซ้ำเติมหรือ

หานเจวี๋ยไม่คิดเลยว่าจอมเทพข่งเซวี่ยจะสารภาพออกมาตรงๆ

จอมเทพข่งเซวี่ยเอ่ยถากถาง “สิ่งมีชีวิตฟ้าบุพกาลล้วนมาจากมรรคาสวรรค์ ข้าเองก็เช่นกัน แต่หลังจากบรรพชนเต๋าพิสูจน์มรรค ปกครองมรรคาสวรรค์ อ้างสิทธิ์กำหนดตำแหน่งอริยะ อริยะทั้งหมดล้วนเป็นศิษย์ของเขา อริยะรุ่นหลังก็สืบทอดสำนักเต๋า แม้สรรพสิ่งจะมีคุณสมบัติโดดเด่น มีดวงชะตาท่วมฟ้า ก็ยังถูกบรรพชนเต๋าสะกดข่มอยู่ดี”

“หลังจากบรรพชนเต๋าผสานมรรค ก็เทียบเท่ามรรคาสวรรค์ อาศัยมหาเคราะห์มรรคาสวรรค์ในแต่ละครั้งก็ขับไล่ครึ่งอริยะอย่างพวกข้าออกจากมรรคาสวรรค์ ให้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดในฟ้าบุพกาล เขาควบคุมมรรคาสวรรค์เช่นนี้ ทำให้มรรคาสวรรค์ไม่อาจหลุดพ้นจากสำนักเต๋าได้ตลอดกาล นานวันเข้า เหล่าอริยชนล้วนรู้สึกไม่พอใจเช่นกัน

“ซาบซึ้งในบุญคุณของเจ้า แต่ก็ปล่อยให้เจ้ารับผลประโยชน์ไปตลอดไม่ได้กระมัง เหตุผลที่ยามนี้ต้องการทำลายล้างมรรคาสวรรค์ ก็เพื่อจะสร้างมรรคาสวรรค์แห่งใหม่ขึ้น เทพสูงสุดหยวนสื่อพูดโน้มน้าวข้าได้ ดังนั้นข้าจึงมา ข้ารู้ว่าเหตุใดเขาถึงมาหาข้า เพราะข้าไม่เกรงกลัวคำสาปแช่ง”

จอมเทพข่งเซวี่ยจ้องมองหานเจวี๋ย ดวงตาฉายแววตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นร้อนแรงบ้าคลั่งอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยรับสายตาเช่นนี้ไม่ได้จริงๆ

คนผู้นี้มั่นใจในตัวเองเกินไป!

ทว่าคำพูดของจอมเทพข่งเซวี่ยกลับทำให้หานเจวี๋ยได้รู้จักบรรพชนเต๋าในอีกแง่มุมหนึ่ง

ต้องกล่าวเลยว่า บรรพชนเต๋าค่อนข้างเผด็จการจริงๆ

ถ้าหานเจวี๋ยเป็นอริยะเหล่านั้น ต้องคอยก้มหัวให้บรรพชนเต๋าตลอด เขาก็คงทนไม่ไหวเช่นกัน

หานเจวี๋ยนึกถึงสำนักซ่อนเร้น เรื่องการถูกเหล่าอริยะทรยศตีตัวออกห่างของบรรพชนเต๋าคู่ควรให้ใช้เป็นกรณีศึกษา

[จอมเทพข่งเซวี่ยเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

เดิมทีหานเจวี๋ยนึกว่าจอมเทพข่งเซวี่ยจะพาลโกรธเสียอีก ไม่นึกเลยว่าจะเกิดความประทับใจ

ปากไม่ตรงกับใจเช่นนั้นหรือ

หานเจวี๋ยไม่ได้ไปท้าสู้กับจอมเทพข่งเซวี่ยในทันที หากทำเช่นนั้นก็เท่ากับเผยให้อีกฝ่ายทราบว่าเขาเกี่ยวข้องกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

แต่จากแดนความฝันเมื่อครู่ทำให้เขาล้วงข้อมูลมาได้แล้ว จอมเทพข่งเซวี่ยและเทพสูงสุดหยวนสื่อมิได้เป็นพวกเดียวกันอย่างสมบูรณ์

ฝึกบำเพ็ญต่อดีกว่า

รอจนทะลวงขั้นถึงระดับเบิกฟ้าเสรีระยะปลายได้ หานเจวี๋ยคิดว่าตนน่าจะสังหารจอมเทพข่งเซวี่ยในเสี้ยววินาทีได้แล้ว

หานเจวี๋ยยังคงมีความมั่นใจในส่วนนี้อยู่

จอมเทพข่งเซวี่ย เจ้าอ้างตัวว่ามีคุณสมบัติเลิศล้ำ แต่จะเทียบกับเทพมารอนธการได้หรือ

….

แดนต้องห้ามอันธการ

หานทั่วและอี๋เทียนพาเทพเซียนแห่งวังสวรรค์จำนวนหลายหมื่นคนพุ่งทะลวงไปอย่างรวดเร็ว

ยามนี้พวกหานทั่วได้ถอดร่างผลัดกระดูกแล้ว สามารถมองเห็นรัศมีของผู้แข็งแกร่งได้ด้วยตาเปล่า พวกเขาสวมชุดเกราะ ผ้าคลุมสะบัดท้าลม สง่างามองอาจ

แววตาหานทั่วคมกล้า เอ่ยขึ้นว่า “ใกล้จะถึงมรรคาสวรรค์แล้ว เตรียมพร้อมออกศึกทุกเมื่อ!”

“เมื่อเห็นเผ่าหายนะจงสังหารเสีย!”

เทพเซียนจำนวนหลายหมื่นแห่งวังสวรรค์ต่างขานรับ

เทพเซียนเหล่านี้ถูกจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายรับตัวมาจากมรรคาสวรรค์น้อย ตบะระดับต่ำสุดคือเซียนแท้ไท่อี่ รากฐานมั่นคงยิ่ง

หานทั่วและอี๋เทียนเองก็เป็นยอดฝีมือระดับเซียนทองต้าหลัวแล้ว

จู่ๆ อี๋เทียนก็ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ไม่ได้กลับไปเยือนมรรคาสวรรค์เสียนาน หากพวกเราทำสำเร็จ อริยะมรรคาสวรรค์ก็สมควรจะคารวะขอบคุณพวกเรากระมัง”

หานทั่วส่ายหน้าพลางเอ่ย “คิดมากไปแล้ว วังสวรรค์ของพวกเราเพียงต้องสะกดข่มเผ่าหายนะเท่านั้น ไม่มีทางสร้างประโยชน์ได้มากนัก”

อี๋เทียนหัวเราะแฮะๆ “ไม่เป็นไร เบื้องหลังพวกเรามีผู้ทรงพลังระดับเสรีติดตามมาด้วย ไม่ทราบเช่นกันว่าฝ่าบาทไปโน้มน้าวมาได้อย่างไร ดูสิ จุ๊ๆ กลิ่นอายนั้นช่างน่าหวาดหวั่นนัก”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ