อ่านสรุป บทที่ 657 ข้าให้ความสำคัญกับเจ้าที่สุด จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 657 ข้าให้ความสำคัญกับเจ้าที่สุด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 657 ข้าให้ความสำคัญกับเจ้าที่สุด
“กรรซ์…”
ยักษาหมื่นจั้งคำรามเสียงแหบห้าว ราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดจากกรงขัง ท่าทางคลุ้มคลั่งป่าเถื่อนยิ่ง!
เซียนทองต้าหลัว!
เปลือกตายอดแม่ทัพเทพกระตุก ตะโกนขึ้นมา “สู้!”
ทหารสวรรค์จำนวนหลายสิบล้านนายพากันสำแดงพลังวิเศษ โพรงมิติด้านหลังยักษาขยายกว้างอย่างรวดเร็ว สิ่งมีชีวิตเผ่าหายนะนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาดั่งน้ำหลาก เข้าจู่โจมอย่างไม่สนใจชีวิต
มหาศึกฉากหนึ่งอุบัติขึ้นอย่างรวดเร็ว!
แม่น้ำปรโลกซัดถาโถม ยากจะสงบลงได้อีกเนิ่นนาน
เผ่าหายนะส่งครึ่งอริยะสามคนเข้านำทัพ มีเซียนทองต้าหลัวหลายร้อยคนติดตามอยู่ด้านหลัง ทรงอำนาจล้นฟ้า แข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่าเพลิงกัลป์ในกาลก่อน
เพียงแต่ในครั้งนี้ มรรคาสวรรค์เตรียมการไว้ล่วงหน้า เหล่าผู้บำเพ็ญของเผ่าสววรรค์ สำนักวิถีสวรรค์และยมโลกทยอยเข้าร่วมสงคราม
ข่าวแพร่เข้าสู่แดนเซียนอย่างรวดเร็ว เหล่าผู้ทรงพลังที่อยู่ในชั้นแนวหน้าของทำเนียบดวงชะตามรรคาสวรรค์ทยอยมุ่งหน้าไปยังยมโลกเก้านรกภูมิ
เหล่าผู้ทรงพลังแห่งแดนเซียนไม่ได้สังกัดอยู่ในสำนักนิกายของอริยะไปเสียทั้งหมด ส่วนใหญ่ต่างมีกลุ่มอิทธิพลเป็นของตัวเองและความทะเยอทะยานของตนอยู่ ศึกกับเผ่าเพลิงกัลป์ในครั้งก่อน สิ่งมีชีวิตที่เข้าร่วมล้วนได้รับผลกุศล ข้อเท็จจริงนี้ถูกเหล่าผู้ทรงพลังจดจำไว้แล้ว
มิใช่เพื่อพิทักษ์มรรคาสวรรค์เท่านั้น ยังทำเพื่อแย่งชิงผลกุศลอีกด้วย
“ต่อจากเผ่าเพลิงกัลป์ ก็มีเผ่าพันธุ์อื่นในฟ้าบุพกาลเข้ามาโจมตีอีก นามว่าเผ่าหายนะ จุดเกิดสงครามในครั้งนี้คือยมโลก หวังว่าผู้บำเพ็ญเพียรในหมื่นโลกาจะเข้าร่วมสงคราม พิทักษ์มรรคาสวรรค์ ปกป้องระเบียบวัฏสงสาร!”
“มรรคาสวรรค์กำลังแข็งแกร่งขึ้น ความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนกำลังจะเกิดขึ้น ในอนาคตมรรคาสวรรค์จะมิได้มีอริยะเพียงเก้าตำแหน่ง ถึงขั้นที่อาจปรากฏตัวตนที่เหนือล้ำกว่าอริยะขึ้น พวกเราสิ่งมีชีวิตมรรคาสวรรค์งสมควรรวมใจเป็นหนึ่ง สมัครสมานกลมเกลียว”
“ศึกนี้จะมิใช่เคราะห์ภัยครั้งสุดท้ายของมรรคาสวรรค์ แต่จะเป็นโอกาสที่มรรคาสวรรค์จะได้ผงาดขึ้นมา!”
เสียงของจอมอริยะเสวียนตูดังก้องไปทั่วปวงสวรรค์หมื่นโลกา สรรพสิ่งได้ยินต่างก็ฮือฮา
สำหรับเหล่าอริยะ ภัยนี้มาเร็วนัก แต่สำหรับสรรพสิ่ง มหันตภัยของเผ่าเพลิงกัลป์เป็นตำนานไปแล้ว เก่าแก่นานนมยิ่ง
อย่างไรก็ตามวาจาของจอมอริยะเสวียนตูเต็มไปด้วยแรงดึงดูด พรรณนาฉากยุคสมัยอันยิ่งใหญ่งดงามสำหรับสรรพสิ่ง
หานเจวี๋ยฟังแล้วรู้สึกทอดถอนใจอย่างยิ่ง จอมอริยะเสวียนตูเก่งด้านการล่อลวงผู้คนจริงๆ
เขาไม่ใส่ใจอีก ฝึกบำเพ็ญต่อไป
การปิดด่านพันปีรอบนี้เพิ่งดำเนินไปได้แค่ครึ่งเดียว ต้องฝึกบำเพ็ญต่อ
ถึงฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีเหล่าอริยชนค้ำไว้ เขาไม่จำเป็นต้องกังวล
เขาไม่คิดจะทำตัวเป็นแม่นมอยู่แล้ว
เวลาผ่านไปไวเหมือนติดปีก
ไม่นาน หนึ่งพันปีก็ผ่านไป
ตบะของหานเจวี๋ยก้าวหน้าขึ้นไม่น้อย เขาลืมตาขึ้นมองออกไป ยมโลกโกลาหลอย่างถึงที่สุดแล้ว
สงครามยาวนานหลายร้อยปี สูญเสียผู้บำเพ็ญไปมากมายนับไม่ถ้วน
เผ่าหายนะแข็งแกร่งจริง เหนือยิ่งกว่าเผ่าเพลิงกัลป์ ไม่เพียงแต่มีกำลังระดับสูงอยู่มากเท่านั้น กำลังรบระดับกลางก็ล้มหลามเช่นกัน มรรคาสวรรค์พ่ายศึกอยู่ตลอด ตำหนักพญายมถูกเผ่าหายนะเข้ายึดครองแล้ว ยามนี้ยมโลกเปรียบเสมือนสวนหลังบ้านของเผ่าหายนะ
ที่น่าแปลกคือเผ่าหายนะไม่ได้รุกคืบเข้าสู่โลกมนุษย์และแดนซียนเลย
สำนักนิกายแห่งอริยะส่งศิษย์เข้าร่วมศึกที่ยมโลกอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่เกิดภัยขึ้น มียอดบุตรแห่งสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นนับไม่ถ้วน
หานเจวี๋ยเห็นว่าจักรพรรดินีผืนพิภพ ซูฉีและหยางเทียนตงรวมถึงผู้กุมอำนาจยมโลกคนอื่นๆ ล้วนถูกคุมขังไว้ในคุกแห่งหนึ่ง
คุกแห่งนี้ตั้งอยู่ก้นแม่น้ำปรโลก ถูกสิ่งมีชีวิตนับล้านของเผ่าหายนะคอยเฝ้าไว้ ในบรรดานั้นมีครึ่งอริยะด้วย เข้มงวดกวดขันอย่างยิ่ง
นอกเขตยมโลก ด้านหน้าโพรงมิติมีเมืองของเผ่าหายนะตั้งอยู่ มีกลิ่นอายที่แกร่งกล้าถึงขีดสุดแผ่ออกมาจากด้านใน
จอมเทพข่งเซวี่ย!
เห็นได้ชัดเจนยิ่ง เผ่าหายนะแตกต่างกับเผ่าเพลิงกัลป์ ทั้งเผ่าเพลิงกัลป์คือตัวเบี้ย รู้จักแต่โจมตี ทว่าเผ่าหายนะมีแผนการเป็นของตัวเอง ตกลงเรื่องราวเป็นมาเช่นไรกันแน่
หานเจวี๋ยคิดไม่ตก และคร้านจะใช้ความสามารถวิวัฒนาการหาคำตอบ
เขาพบว่าในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่ร้อยปีมานี้ มรรคาสวรรค์มีเซียนทองต้าหลัวเพิ่มขึ้นหลายสิบตนรวมถึงมีครึ่งอริยะหนึ่งตนด้วย เพียงวัฏจักรถูกควบคุม ก็ทำให้มีวิญญาณเร่ร่อนมากมายในแดนเซียน
หานเจวี๋ยเปิดปากเอ่ย “เข้ามาเถอะ!”
นอกอารามเต๋า หลี่เสวียนเอ้ามาคอยอยู่หลายปีแล้ว
หลี่เสวียนเอ้าเข้ามาในอาราม คุกเข่าคารวะหานเจวี๋ย
“เจ้าสำนักขอรับ ศึกที่ยมโลกยืดเยื้อมาหลายร้อยปีแล้ว กำลังของมรรคาสวรรค์อ่อนแอ สำนักซ่อนเร้นสมควรลงมือหรือไม่” หลี่เสวียนเอ้าถาม
เขารู้สึกว่านี่คือโอกาส
ตบะของศิษย์ส่วนใหญ่ในสำนักซ่อนเร้นล้วนมาถึงขีดจำกัดแล้ว อาศัยเพียงการบำเพ็ญพัฒนาให้ก้าวหน้าไม่ได้ ทว่าแรงกุศลมรรคาสวรรค์กลับสามารถยกระดับพวกเขาไปได้อีกขั้น
“ศิษย์ของข้าหานเจวี๋ย ไม่ฝักใฝ่แย่งชิง แต่เมื่อลงสนามย่อมสะท้านสะเทือน ดุจตะวันเจิดจ้าพร่างตา เต้าจื้อจุน ข้าคาดหวังให้เจ้าสร้างชื่อล้ำหน้าหลี่เต้าคงในมหาเคราะห์ครั้งก่อน!”
เต้าจื้อจุนฟังแล้วเลือดลมเดือดพล่าน ให้คำมั่นทันที
ภายในวันนั้น เต้าจื้อจุนออกจากเขตเซียนร้อยคีรี มุ่งหน้าสู่ยมโลก
เหตุผลที่ปล่อยเต้าจื้อจุนออกไป ประการแรกเพื่อให้เต้าจื้อจุนทะลวงระดับได้ ประการที่สองคือแสดงให้จอมอริยะเสวียนตูเห็น ยืนยันว่าสำนักซ่อนเร้นมิได้นิ่งนอนใจ
หานเจวี๋ยสอดส่องออกไปนอกยมโลก กลิ่นอายของจอมเทพข่งเซวี่ยแกร่งกล้ามากจริงๆ แกร่งจนเขาไม่มั่นใจว่าจะสังหารได้ในเสี้ยววินาที
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…
ก็ทำได้เพียงสวมบทบาทผู้กอบกู้โลกอีกครั้ง!
หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งจอมเทพข่งเซวี่ย
ผ่านไประยะหนึ่ง หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วแน่น
เกิดอะไรขึ้น
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะสาปแช่งจอมเทพข่งเซวี่ยไม่ได้!
หานเจวี๋ยทดลองอีกหลายครั้ง การสาปแช่งล้วนไม่เป็นผล
ผิดปกติ!
‘ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดข้าถึงสาปแช่งจอมเทพข่งเซวี่ยไม่ได้’ หานเจวี๋ยใช้ความสามารถวิวัฒนาการ
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสองแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
แพงขนาดนี้เชียว!
หรือว่ามีตัวตนที่ทรงพลังกว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวงอยู่อีก
ดำเนินการต่อ!
ข้อความแถวหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหานเจวี๋ย
[ไข่มุกแห่งกรรม: ยอดสมบัติมหามรรค สกัดกั้นบ่วงกรรมทุกชนิด แปรผันมาจากแก่นวิญญาณของเทพมารฟ้าบุพกาล]
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...