อ่านสรุป บทที่ 663 สืบทอดเจตจำนงผานกู่ จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 663 สืบทอดเจตจำนงผานกู่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 663 สืบทอดเจตจำนงผานกู่
“หากเจ้าพ่ายแพ้ขึ้นมาจริงๆ เจ้าจะทำอย่างไร” หานเจวี๋ยต้อนถามต่อไป ให้จอมเทพข่งเซวี่ยเผชิญหน้ากับคำถามนี้
จอมเทพข่งเซวี่ยอับอายจนพาลโกรธ เอ่ยว่า “หากเกิดสถานการณ์เช่นนั้นขึ้นจริงๆ ข้าจะยอมนับถือเจ้า ยอมรับเจ้าเป็นนาย! แต่เรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น! ตัวข้าจอมเทพข่งเซวี่ย ยืนยงไร้พ่ายในระดับเดียวกัน! ไม่หวั่นแม้ต้องสู้กับคนมากมาย!”
“โอ้ เช่นนั้นข้าจะส่งศิษย์ไปประลองกับเจ้าให้มากหน่อย ข้อตกลงยังคงเดิม”
“ไม่ได้ ต้องประลองกันตัวต่อตัว!”
จอมเทพข่งเซวี่ยรีบกลับคำ ถึงแม้เขาจะมั่นใจในตัวเอง แต่เขามิใช่คนโง่ หานเจวี๋ยมีความมั่นใจถึงเพียงนี้ ต้องมีกลยุทธ์ร้ายกาจแน่ เขาจะปล่อยให้ตนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นธรรมได้อย่างไร
หานเจวี๋ยยิ้มแวบหนึ่ง คนผู้นี้น่าสนใจอยู่บ้าง
“เช่นนั้นเจ้าก็อย่าเพิ่งจากไป รอให้เขาไปหาเจ้า”
“นานแค่ไหน”
“ให้เขาปิดด่านฝึกบำเพ็ญก่อน ถึงอย่างไรเจ้าก็ว่างอยู่แล้ว”
จอมเทพข่งเซวี่ยตอบรับด้วยความหงุดหงิด “ได้ ข้าจะรอเจ้า!”
เขาบังคับสลายแดนความฝันอีกครั้ง
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ยิ้มออกมา
เขายังคงอยากรับตัวจอมเทพข่งเซวี่ยเข้ามายิ่งนัก ดังนั้นถึงได้หน่วงเหนี่ยวอีกฝ่ายไว้
หานเจวี๋ยเรียกดูกล่องจดหมาย ตรวจดูแวดวงสหายในระยะนี้
[จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[ผานซินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากฝูซีเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]
[ผานซินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพสูงสุดหยวนสื่อศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]
[ผานซินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากอินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]
….
[หานทั่วบุตรชายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมารมรรคา] x840292
[ซูฉีศิษย์ของท่านดูดซับแรงกรรมในยมโลก พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงสหายของท่านเผชิญกับการพัวพันจากโชคร้ายลึกลับ อายุขัยลดลงสามแสนล้านปี]
….
ศึกใหญ่ของแดนเทพหวนปัจฉิมเปิดฉากขึ้นแล้ว!
เมื่อเห็นผานซินถูกโจมตี หานเจวี๋ยรู้สึกแปลกใจยิ่ง ถูกทุบตีขนาดนี้ก็ยังไม่ตาย เห็นได้ชัดว่าผานซินแข็งแกร่งขึ้นมาก
เขาเรียกดูจอค่าความสัมพันธ์ตรวจสอบรูปประจำตัวของผานซิน
[ผานซิน: ระดับเซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะปลาย ทายาทรุ่นหลังของผานกู่ เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกในยุคเบิกฟ้า ประสบมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตมาอย่างโชกโชน ชอบท่องโลกมนุษย์ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณพบตัว จึงลักลอบแฝงตัวในแม่น้ำมรรคกระบี่ เกิดความสนใจในตัวท่าน เนื่องจากนิสัยเฉพาะตัวของท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]
เซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะปลาย!
ระดับความก้าวหน้าเช่นนี้เกินไปหน่อยแล้วกระมัง!
ยังเพิ่มฉายาทายาทรุ่นหลังของผานกู่เข้ามาอีก ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
แต่ก็เป็นแค่เซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าเท่านั้น จะอาศัยสิ่งใดถึงต้านทานการโจมตีของเหล่าอริยะมหามรรคได้กัน
หรือว่าพลังของผานกู่ช่วยคุ้มครองผานซิน?
หานเจวี๋ยไม่ได้สละอายุขัยเพื่อใช้ทำนาย แต่ตรวจดูจดหมายต่อไป
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงถูกโชคร้ายพัวพัน อายุขัยลดลงสามแสนล้านปี
ก็ยังดี แค่นิดหน่อยเท่านั้น
ตอนนี้หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจอายุขัยหลักแสนล้านเท่าไรแล้ว
ตัวตนระดับปรมาจารย์ลัญจกรสรวง อายุขัยยังมิใช่ยืนยาวไร้สิ้นสุดหรอกหรือ
บางทีนี่อาจจะเป็นนิยามของชีวิตอมตะ เหตุผลที่เป็นอมตะ เพียงเพราะมีอายุขัยยาวนานกระมัง
แนวคิดเรื่องชีวิตอมตะ เดิมทีก็คลุมเครืออยู่แล้ว
สิ่งใดคือชีวิตอมตะเล่า
มีชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ เช่นนั้นหรือ
เช่นนั้นต้องอยู่ไปนานแค่ไหนเล่า
หานเจวี๋ยคิดไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็ตรวจดูจดหมายต่อไป
หลังจากตรวจจดหมายเสร็จ เขาก็เข้าสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญอีกครั้ง
….
ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม ณ วังวิถีสวรรค์
ฟางเหลียงนั่งสมาธิอยู่บนแท่นดอกบัว ชายชุดขาวคนหนึ่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
ชายชุดขาวเอ่ยถาม “อาจารย์ ท่านจะผสานมรรคตอนไหนขอรับ”
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยามเต็ม มหาจักรพรรดิเซียวถึงได้จากไป
สีหน้าฟางเหลียงเย็นชาลงทันที
“คนผู้นี้บังอาจลอบเสียดสีถึงอาจารย์ปู่ของข้า คงหน่ายจะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ”
….
หนึ่งพันปีผ่านไป
ตบะของหานเจวี๋ยก้าวหน้าขึ้นอีกไม่น้อยเลย นับตั้งแต่ทะลวงขั้นครั้งก่อน เวลาล่วงเลยมาเกือบสองหมื่นปีแล้ว ไม่ได้ทะลวงขั้นนานขนาดนี้ทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายอยู่บ้าง ในใจหวั่นวิตกอย่างน่าประหลาด
หรือคุณสมบัติของเขาจะกลายเป็นพื้นๆ ธรรมดาทั่วไปเสียแล้ว
หานเจวี๋ยส่ายหน้า จะคิดเช่นนี้มิได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ถึงอย่างไรจอมเทพข่งเซวี่ยก็รอคอยให้เขาไปสยบอยู่นอกมรรคาสวรรค์
ขณะที่เขากำลังจะเรียกดูจดหมาย เสียงของจอมอริยะเสวียนตูก็พลันแว่วขึ้น
“สหายเต๋าหาน มาที่ตำหนักเอกภพได้หรือไม่”
หานเจวี๋ยได้ยินก็มุ่งหน้าไปทันที
น้อยนักที่จอมอริยะเสวียนตูจะเรียกหาเขา ทุกครั้งล้วนเป็นเรื่องใหญ่ทั้งสิ้น
ภายในตำหนักเอกภพ
เมื่อหานเจวี๋ยมาถึง ในตำหนักมีเพียงพวกเขาสองคน
จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยขึ้นมาก่อน “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
หานเจวี๋ยถามเขา “เรื่องใด”
จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยเสียงเครียด “เหล่าผู้ทรงพลังของแดนเทพหวนปัจฉิมขัดขวางตัวตนในแดนบรรพกาลไว้ไม่ได้ ตอนนี้ค่ายกลของแดนบรรพกาลทลายลงอย่างสิ้นเชิง ไม่ทราบว่ามีมารร้ายที่เล็ดลอดออกมาได้มากมายเพียงใด เหล่าอริยะมหามรรคต่างอพยพออกจากแดนเทพหวนปัจฉิม ข้ากังวลว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อมรรคาสวรรค์”
หานเจวี๋ยไม่แปลกใจเลย ยามที่เขาตรวจจดหมายพบว่าปรมาจารย์บาดเจ็บสาหัสอยู่บ่อยครั้ง เห็นได้ชัดว่าตัวตนในแดนบรรพกาลแข็งแกร่งยิ่ง
แต่หากว่ากลับกันในอีกมุมหนึ่ง พลังแห่งระเบียบของเทพบุพกาลจะแข็งแกร่งเช่นนี้หรือไม่
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะช่วยสะกดตัวตนมากมายในแดนบรรพกาลที่แข็งแกร่งกว่าเขาเอาไว้ได้!
“มีอีกเรื่อง เจ้าจำผานซินได้หรือไม่” จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยถาม
“เคยพบกันสองสามครั้ง เกิดอะไรขึ้นกับเขา”
“เขารับสืบทอดเจตจำนงของผานกู่ ตบะเพิ่มสูงมหาศาล ได้ยินว่าเขาสืบทอดมหามรรคแห่งพลังมา เตรียมจะดำเนินรอยตามเทพยักษาผานกู่ เขาต้องการเข่นฆ่าเทพมารฟ้าบุพกาลทั้งหมด พิสูจน์มหามรรคฟ้าบุพกาล!”
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...