ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 662

บทที่ 662 มรรคาสวรรค์สงบสุข

“ไม่ได้! ต้องขัดขวางบรรพชนเต๋า!”

ดวงตาหานเจวี๋ยฉายแววมุ่งมั่น ไม่ว่าบรรพชนเต๋าจะจริงใจต่อมรรคาสวรรค์หรือไม่ แต่คนผู้นี้ดูดซับพลังเวทของเหล่าอริยะได้ ช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ

หานเจวี๋ยก็ไม่อยากให้พลังเวทของตนถูกดูดไปด้วย

เขาไม่ได้ลงมือในทันที

หลังจากพักผ่อนอยู่หลายวัน เขาก็ถ่ายทอดเสียงหาฟางเหลียง ให้ฟางเหลียงกลับมาสักเที่ยว

ฟางเหลียงมิได้คัดค้าน จากนั้นก็ถูกหานเจวี๋ยเคลื่อนย้ายเข้าสู่อารามเต๋าทันที

หานเจวี๋ยโบกมือคราหนึ่ง เสกเบาะกลมใบหนึ่งออกมาให้ฟางเหลียงนั่ง

ฟางเหลียงเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ “ไม่ได้กลับมานานเหลือเกิน น่าคะนึงหาเสียจริง”

หานเจวี๋ยใช้พลังของเทพมารเล่ห์ลวงและเทพมารพันธนาการกับฟางเหลียงตรงๆ จากนั้นก็เปิดใช้ความสามารถชำระล้างสมบูรณ์และคุกสวรรค์อนธการ

ฟางเหลียงหลับตาลง ราวกับงีบหลับไป

หานเจวี๋ยถอนหายใจ

ฟางเหลียงเอ๋ยฟางเหลียง อาจารย์ปู่อย่างข้าปูทางไว้ให้เจ้ามากมายปานนั้น เจ้ากลับเลือกเดินผิดทาง เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้ อาจารย์ปู่จำเป็นต้องบังคับให้เจ้ากลับมายังทางที่ถูกต้อง!

หานเจวี๋ยหลับตาลง เริ่มฝึกบำเพ็ญ!

การหายตัวไปของฟางเหลียงมิได้ฉุกให้เหล่าอริยชนนึกสงสัยเลย พวกเขาถึงขั้นที่คาดหวังให้ฟางเหลียงดับสูญลงอย่างกะทันหันเสียด้วยช้ำ

หลายร้อยปีต่อมา

เสียงของจอมอริยะเสวียนตูแว่วดังไปทั่วฟ้าดิน

“ขณะนี้มรรคาสวรรค์และเผ่าหายนะได้ยุติสงครามลง เผ่าหายนะจะคืนพื้นที่ยมโลกให้ครึ่งหนึ่ง จากนี้ไปจะปกป้องมรรคาสวรรค์ร่วมกัน”

ตูม!

ปวงสวรรค์หมื่นโลกาและแดนเซียนต่างก็ฮือฮาขึ้นมาในทันใด

ต่อสู้ฆ่าฟันกันมานานขนาดนี้ จู่ๆ ก็สงบศึกหรือ!

ซ้ำเผ่าหายนะยังเป็นฝ่ายเสนอคืนยมโลกให้อีกด้วย!

ข่าวสงครามที่ยมโลก แพร่กระจายไปถึงปวงสวรรค์หมื่นโลกา ทั่วทั้งมรรคาสวรรค์ถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศหวาดหวั่นและตื่นตระหนกมาโดยตลอด

ไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆ จู่ๆ อริยะก็ประกาศสงบศึกอย่างนั้นหรือ

มิใช่เพียงสรรพสิ่งแห่งมรรคาสวรรค์ที่ฉงนงงงวย เผ่าหายนะเองก็เช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายฆ่าฟันกันมานาน หนี้แค้นนองโลหิตยากจะสะสางได้ ความขัดแย้งในเผ่าหายนะปะทุขึ้นอย่างถึงที่สุดแล้ว

จุดที่ต่างจากมรรคาสวรรค์คือเผ่าหายนะทั้งหมดล้วนเข้าร่วมศึก สิ่งมีชีวิตแทบทั้งหมดล้วนมีสหายญาติมิตรที่สิ้นชีพลงในยมโลก

เวลานี้จะมาบอกว่าไม่สู้แล้วเช่นนั้นหรือ!

เช่นนั้นพวกเขาจะสะสางความแค้นได้อย่างไร

สมาชิกระดับสูงทั้งหมดในเผ่าหายนะมุ่งหน้าไปขอเข้าเฝ้ามหาจักรพรรดิเทียนเอ้อ

แม่ทัพหลายร้อยนายรวมตัวกันอยู่ภายในตำหนัก ทั้งหมดล้วนจ้องมองมหาจักรพรรดิเทียนเอ้อด้วยความขุ่นเคือง

มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “พวกเจ้าคิดจะก่อกบฏหรือ”

เมื่อนางเอ่ยเช่นนี้ แม่ทัพทั้งหมดพากันคุกเข่าลง เอ่ยอย่างพร้อมเพรียงว่ามิกล้า

ผู้อาวุโสสูงวัยรายหนึ่งเงยหน้าขึ้นพลางเอ่ย “ฝ่าบาท เหตุใดจู่ๆ ก็ตัดสินใจเช่นนี้เล่า”

มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อกล่าวว่า “สิ่งที่เผ่าหายนะแสวงหาคืออนาคต มิใช่เป็นอาวุธให้อริยะมหามรรค วางใจเถอะ เราไม่มีทางทำร้ายเผ่าหายนะ”

เหล่าแม่ทัพเผ่าหายนะมองหน้ากัน ยังคงรู้สึกไม่พอใจอยู่

นี่นับเป็นคำอธิบายได้หรือ?

มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อโบกมือไล่ เหล่าแม่ทัพจึงจำเป็นต้องถอยออกไป

เมื่อภายในตำหนักเหลือเพียงมหาจักรพรรดิเทียนเอ้อ นางก็เอ่ยขึ้นว่า “จอมเทพจะเฝ้ามองอีกนานแค่ไหน”

จอมเทพข่งเซวี่ยก้าวออกมาจากความมืด เขาขมวดคิ้วแน่น ก่อนเอ่ยขึ้น “เกิดอะไรขึ้น ข้ามาเพื่อเล่นกับเผ่าหายนะของเจ้าหรือไร”

เขาเดินทางมาไกล เฝ้าอยู่ที่นี่หลายพันปี ผลคือเขายังไม่ได้พบกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เผ่าหายนะก็จะล่าถอยแล้วอย่างนั้นหรือ

มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อกล่าวว่า “ขออภัยด้วย แต่ท่านเชื่อใจอริยะมหามรรคจริงๆ น่ะหรือ”

จอมเทพข่งเซวี่ยหรี่ตาลง ย้อนถาม “เจ้ายอมสยบต่อผู้อื่นแล้วกระมัง”

มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อไม่เตอบ

จอมเทพข่งเซวี่ยรู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจ แผนการวุ่นวายไปหมด เป็นผู้ใดก็ไม่มีความสุขทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้เขาลงมือกับมหาจักรพรรดิเทียนเอ้อ เขาก็รู้สึกว่าไม่คู่ควร

ผู้ที่เชิญเขามาคือเทพสูงสุดหยวนสื่อ มิใช่มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อ

“จอมเทพ อันที่จริงการเข้าร่วมกับมรรคาสวรรค์ ก็มิใช่เรื่องเลวร้ายเลย มรรคาสวรรค์ในปัจจุบันนี้มิใช่มรรคาสวรรค์ในกาลก่อนแล้ว” มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อเอ่ยอย่างมีนัยแฝงเร้น

จอมเทพข่งเซวี่ยเหลือบมองนางอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง ก่อนหันหลังหายลับไปในความมืด

มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อไม่ใส่ใจ หลับตาลงฝึกบำเพ็ญต่อ

หากว่าจอมเทพข่งเซวี่ยอยากฆ่านาง ต่อให้นางทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อป้องกันก็ไม่เป็นผลอยู่ดี

….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ