ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 678

สรุปบท บทที่ 678 สองอริยะแห่งสำนักซ่อนเร้น!: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 678 สองอริยะแห่งสำนักซ่อนเร้น! – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 678 สองอริยะแห่งสำนักซ่อนเร้น! ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 678 สองอริยะแห่งสำนักซ่อนเร้น!

สำหรับตำแหน่งอริยะทั้งสองที่ เหล่าอริยชนยื้อแย่งกันอยู่หลายวัน ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

นับตั้งแต่เหล่าอริยชนปรองดองกัน อริยะแต่ละรายล้วนสร้างคุณูปการต่อมรรคาสวรรค์ ล้วนมีเหตุผลและคุณสมบัติพอจะแย่งชิง

หลังจากหานเจวี๋ยกลับถึงเขตเซียนร้อยคีรี ก็เข้าสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญ

ถึงแม้ภายในมรรคาสวรรค์จะไม่มีใครสู้เขาได้ แต่เขาจะต้องรักษาแนวคิดด้านการฝึกบำเพ็ญให้เป็นไปตามเดิม ไม่อาจหย่อนยานได้

วันเวลาไหลผ่านไป

พริบตาเดียว ผ่านไปห้าพันปีแล้ว

แดนเซียนเกิดความเปลี่ยนแปลงมหาศาล ไม่ใช่แค่แดนเซียนเท่านั้น แม้แต่แดนต้องห้ามอันธการที่อยู่รอบแดนเซียนก็คึกคักขึ้นมาเช่นกัน

เผ่ามนุษย์กลายเป็นเผ่าพันธุ์มรรคาสวรรค์แล้ว ขาดเพียงการประกาศอย่างเป็นทางการจากอริยะเท่านั้น ดวงชะตาของพวกเขารุ่งเรืองเหนือเผ่าพันธุ์ทั้งหมด จำเป็นต้องกล่าวเลยว่า ระดับความยืดหยุ่นปรับตัวของเผ่ามนุษย์นั้นแข็งแกร่งจริงๆ ด้านศักยภาพก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ยามที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้น เผ่ามนุษย์อาจไม่ทรงพลังเท่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ แต่ในวิถีแห่งการบำเพ็ญ กลับโดดเด่นเลิศล้ำกว่า

กว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ จะแปลงกายได้ก็ต้องใช้เวลาหลายพันปี หรืออาจจะนานกว่านั้น

สงบสุขกันมานานเช่นนี้ จำนวนสิ่งมีชีวิตในแดนเซียนรวมถึงปวงสวรรค์หมื่นโลกาก็ก้าวนำล้ำหน้าไปจากในอดีต ถึงขั้นที่มากกว่าช่วงก่อนเกิดมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะหลังจากเผ่าหายนะเข้าร่วมมรรคาสวรรค์ เป็นยุคสมัยที่มีสิ่งมีชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่โบราณกาลมา

ข่าวเกี่ยวกับตำแหน่งอริยะที่เพิ่มขึ้นอีกสองตำแหน่งแพร่ไปทั่วแดนเซียนแล้ว ทันใดนั้น ทำเนียบดวงชะตามรรคาสวรรค์ก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง

สำนักซ่อนเร้นก็พัฒนาไปอย่างราบรื่นยิ่ง จำนวนศิษย์ในนามทะลุหลักร้อยล้านแล้ว นี่เป็นเพราะหลี่เสวียนเอ้าจงใจจำกัดควบคุมไว้ มิเช่นนั้นจำนวนคงเพิ่มพรวดพราดขึ้นยิ่งกว่านี้

ในวันนี้

หานเจวี๋ยสิ้นสุดการปิดด่าน เริ่มเทศนาธรรมให้แก่เหล่าศิษย์ในเขตเซียนร้อยคีรี

ยิ่งตบะเขาเพิ่มสูงขึ้นมากเท่าไร ระดับความถี่ในการเทศนาธรรมของเขาก็น้อยครั้งลง แต่เหล่าศิษย์ก็ไม่มีข้อคิดเห็นใดๆ ถึงอย่างไรพวกเขาก็สดับฟังมามากมายแล้ว

แต่กลุ่มศิษย์ใหม่ผู้มีพรสวรรค์หนึ่งร้อยคนนั้นกลับรู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก

พวกเขาเข้ามาเป็นเวลาหลายพันปี ในที่สุดก็ได้สดับธรรมแห่งอริยะแล้ว

มหามรรคต้นกำเนิดครอบคลุมทั่วทั้งเขตเซียนร้อยคีรี ทำให้เหล่าศิษย์เข้าสู่สภาวะตระหนักมรรคอย่างรวดเร็ว

การเทศนาธรรมครั้งนี้ดำเนินไปหลายร้อยปี

หลังสิ้นสุดการเทศนาธรรม หานเจวี๋ยทอดสายตาสำรวจบุตรแห่งสวรรค์หนึ่งร้อยคนที่หลี่เสวียนเอ้าคัดมา

คุณสมบัติแข็งแกร่งมากจริงๆ เทศนาธรรมเพียงครั้งเดียว คนจำนวนมากล้วนทะลวงระดับ ก้าวหน้าขึ้นมหาศาล

หานเจวี๋ยรู้สึกพอใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิได้ปิติยินดี

ไม่ต้องพูดถึงระดับครึ่งอริยะเลย ตอนนี้ต้องมีอริยะคนถือกำเนิดขึ้นในสำนักซ่อนเร้นเท่านั้น ถึงจะทำให้เขาปิติยินดีได้

หานเจวี๋ยมายังอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง ปล่อยเทพมารกาลเวลาที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นออกมา ให้มู่หรงฉี่เข้ามารับช่วงดูแล

เทพมารกาลเวลาแปลงกายเป็นมนุษย์ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา เรือนผมสีเงินสยายคลุมสองไหล่

เมื่อเห็นเทพมารตนใหม่ มู่หรงฉี่ลอบตกใจ

ระดับความเร็วในการก่อกำเนิดเทพมารฟ้าบุพกาลรวดเร็วเกินไปแล้วกระมัง

หลังจากทั้งสองออกไป หานเจวี๋ยสอดส่องดูเริ่นกังและอิ่นหงเฉิน

ทั้งสองยังคงอยู่ในมิติวัฏจักร ล้วนเป็นจักรพรรดิเซียนทั้งคู่ ด้านคุณสมบัติจะบอกว่าแกร่งก็ไม่แกร่ง จะบอกว่าด้อยก็ไม่ด้อย ถ้ามองจากรากฐานของพวกเขา ก็นับว่าโดดเด่นมากแล้ว

หานเจวี๋ยลังเลว่าจะรับพวกเขาเข้ามาตอนนี้เลยดีหรือไม่

ทันทีที่เข้าสู่อาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง พวกเขาจะออกไปไม่ได้อีก หานเจวี๋ยไม่แน่ใจว่าพวกเขาเตรียมตัวไว้ดีหรือยัง

หานเจวี๋ยลองทำนายดู บ่วงกรรมของทั้งสองยังคงซับซ้อนยิ่ง ไม่ได้มานะบำเพ็ญอย่างต่อเนื่อง

เขาตัดสินใจปล่อยไว้ต่อไป ถึงอย่างไรเขาก็ชุบเลี้ยงเทพมารฟ้าบุพกาลไว้หลายตนแล้ว ตอนนี้ยังมีหยางตู๋และกวนปู้ไป้ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมขบวน ต่อให้พวกเริ่นกังเข้าสู่อาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง ก็ยังไม่สามารถกลายเป็นเทพมารฟ้าบุพกาลได้ในทันที

หานเจวี๋ยสอดส่องตระกูลหานเล็กน้อย

ตระกูลหานที่หานอวี้ก่อตั้งขึ้นนับเป็นกลุ่มอิทธิพลอำนาจเทียมฟ้าในแดนเซียนแล้ว ได้รับความช่วยเหลือจากมิติวัฏจักร แค่จักรพรรดิเซียนวัฏจักรเห็นหน้าหานอวี้ก็ทราบแล้วว่าเขาเกี่ยวข้องกับหานเจวี๋ย ด้วยเหตุนี้จึงให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ

หานเจวี๋ยไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ต่อตระกูลหานเลย เพียงถือโอกาสสอดส่องดูเท่านั้น

สอดส่องตระกูลหานอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากพบว่าไม่มีบุตรแห่งสวรรค์ที่โดดเด่นเลย หานเจวี๋ยก็กลับไปยังอาณาเขตเต๋าหลัก

เขานั่งบนแท่นบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เริ่มตรวจดูจดหมาย

[จอมเทพข่งเซวี่ยสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสิ่งอัปมงคล] x 580032133

[จอมเทพข่งเซวี่ยสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

ถึงแม้อริยชนกำลังโต้เถียงแย่งชิงตำแหน่งอริยะทั้งสองที่อยู่ แต่ก็ยังไม่มีปราณม่วงอนธการ แล้วพิสูจน์มรรคได้อย่างไร พวกเขาเพียงกำหนดรายชื่อกันมิใช่หรือ

หานเจวี๋ยตรวจสอบข้อมูลของหวงจุนเทียน

พบว่าหวงจุนเทียนเป็นอริยะมรรคาสวรรค์จริงๆ !

หรือว่าจอมอริยะเสวียนตูจะได้ปราณม่วงอนธการทั้งสองสายมาแล้ว ถึงได้มาหารือกับเหล่าอริยชน

มีความเป็นไปได้สูง!

หานเจวี๋ยเงยหน้ามองขึ้นไป ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม หวงจุนเทียนกำลังเริ่มก่อตั้งอาณาเขตเต๋า เหล่าอริยชนพากันมาแสดงความยินดี แม้แต่ผานซินเองก็คิดจะดึงหวงจุนเทียนไปเข้าพวก

หวงจุนเทียนเป็นสายลับของหานเจวี๋ย ยามนี้เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยก็ถูกเขาสยบทาสแล้ว ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของหวงจุนเทียนเลย

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองยังปกปิดต่อไปได้

วันข้างหน้าอาจมีประโยชน์!

ตอนนี้ นับว่าสำนักซ่อนเร้นมีอริยะถือกำเนิดขึ้นถึงสองคนในคราเดียว!

ในขณะเดียวกัน

หวงจุนเทียนกำลังต้อนรับขับสู้เหล่าอริยชนอยู่ ฉากหน้าเขาสงบเรียบร้อยยิ่ง แต่ในใจกลับตื่นเต้นแทบบ้าแล้ว

‘นายท่าน ท่านเห็นแล้วใช่ไหมขอรับ ข้าก็พิสูจน์มรรค์ได้แล้ว!’

หวงจุนเทียนพบว่ามีเพียงหานเจวี๋ยที่ไม่มาปรากฏตัว แสดงว่าหานเจวี๋ยต้องการให้เขาทำหน้าที่สายลับต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หลงลำพอง

ในมุมมองของเขา ความจริงสามารถเผยหน้าไพ่ได้แล้ว!

หานเจวี๋ย หลี่เต้าคง ฟางเหลียง เพิ่มตัวเขาเข้ามาอีกคน สี่อริยะ เพียงพอจะส่งผลกระทบต่อแวดวงอริยะได้แล้ว แต่เขาก็เข้าใจดีว่าหานเจวี๋ยแสวงหาความมั่นคง ตัวเขาในอดีตก็มีนิสัยเช่นนี้

มหาจักรพรรดิเซียวและผานซินเอาใส่ใจหวงจุนเทียนเป็นพิเศษ ถึงขึ้นที่เชื้อเชิญหวงจุนเทียนไปเป็นแขก การกระทำนี้ข้ามหน้าข้ามตาเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยอย่างสิ้นเชิง แต่ฝ่ายเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยหลังจากมาทักทายเล็กน้อยก็กลับไปฝึกบำเพ็ญต่อ

หลังจากศิโรราบต่อหานเจวี๋ย ความทะเยอทะยานของเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยก็หันเหไปยังการฝึกบำเพ็ญ

เขาต้องการแข็งแกร่งขึ้น เช่นนี้ถึงจะช่วยเหลืองานหานเจวี๋ยได้

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ