อ่านสรุป บทที่ 694 เขาคือบรรพชนเต๋า! จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 694 เขาคือบรรพชนเต๋า! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 694 เขาคือบรรพชนเต๋า!
“หานเจวี๋ยหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร!”
ฝูซีเทียนมีสีหน้าตกใจ ปฏิเสธไปตามสัญชาตญาณ
แต่เขาก็สงบสติลงอย่างรวดเร็ว ความเร็วในการแข็งแกร่งขึ้นของหานเจวี๋ยเดิมทีก็เหนือชั้นอยู่แล้ว เขาไม่สามารถทำนายได้ อีกทั้งเขามีความเชื่อใจในตัวเจ้าแม่หนี่ว์วายิ่งนัก น้องสาวคนนี้ของเขาไม่มีทางพูดล้อเล่น
เจ้าแม่หนี่ว์วาเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ “เด็กคนนี้เพิ่งอายุสองแสนกว่าปีก็จะฝ่าเข้าสู่ระดับมหามรรคเสียแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาจะมิใช่ตัวแปร แต่เป็น…”
“แต่เป็นอะไร”
ฝูซีเทียนซักถาม ในใจเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
ระดับมหามรรค!
ทั่วทั้งฟ้าบุพกาลมีอริยะมหามรรคไม่มากเลย!
ขอเพียงเข้าสู่ระดับมหามรรคได้ จะเป็นอมตะมิวางวาย หลุดพ้นจากบ่วงกรรม!
เจ้าแม่หนี่ว์วาเอ่ยอย่างมีนัยลุ่มลึก “ผู้ใดเล่าที่บอกว่าหานเจวี๋ยคือตัวแปร”
ฝูซีเทียนหน้าถอดสี “อาจารย์…”
“ถูกต้อง เมื่อหานเจวี๋ยถือกำเนิด อาจารย์ก็หายตัวไป เจ้าไม่คิดว่าทุกอย่างนี้มันบังเอิญเกินไปหรอกหรือ”
เจ้าแม่หนี่ว์วาเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ อาจารย์ของพวกนางย่อมหมายถึงบรรพชนเต๋า
แววตาฝูซีเทียนวูบไหว “เจ้าหมายความว่าอันที่จริงแล้วหานเจวี๋ยคืออาจารย์กลับชาติมาเกิดหรือ”
“ถูกต้อง หากมิใช่เพราะอาจารย์ทำนายไว้ว่าหานเจวี๋ยจะเปลี่ยนแปลงมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ พวกเราจะอยากดึงหานเจวี๋ยมาเป็นพวกหรือ ตอนนี้พอมาคิดๆ ดูอีกที แดนเทพหวนปัจฉิมวางแผนร้ายต่อมรรคาสวรรค์มากมายหลายครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของหานเจวี๋ยมรรคาสวรรค์สามารถกลับร้ายกลายเป็นดีได้ตลอด ทุกครั้งล้วนเหมาะเจาะพอดีเช่นนั้น ยิ่งยอดฝีมือที่พวกเราส่งไปแข็งแกร่งมากเท่าไร หานเจวี๋ยก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ประกอบกับความเร็วในการบำเพ็ญที่น่าเหลือเชื่อนี้ของเขา เป็นไปได้ว่าจะใช่อาจารย์ เนื่องจากระดับดั้งเดิมของเขาก็เลิศล้ำอยู่แล้ว อริยะมหามรรคอย่างพวกเราล้วนมองไม่ออกทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อเขากลับชาติมาเกิดแล้วฝึกบำเพ็ญอีกครั้ง ก็ไม่มีอุปสรรคด้านระดับ ตบะก้าวหน้าไปเร็วยิ่ง นับว่าสมเหตุสมผล”
คำพูดของเจ้าแม่หนี่ว์วาทำให้ฝูซีเทียนนึกย้อนกลับไปแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
เขานึกถึงเหตุการณ์ตอนที่อยู่กับหานเจวี๋ย บุคลิกของหานเจวี๋ยเฉยเมยเย็นชาจริงๆ ซ้ำยังมีแสงเทพเจิดจ้าปกคลุมทั่วร่าง เจตนาให้ดูลึกลับ
เงาร่างของบรรพชนเต๋าและเงาร่างของหานเจวี๋ยค่อยๆ เริ่มซ้อนผสานกันในสมองของฝูซีเทียน
ยิ่งคิดฝูซีเทียนก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
แผนการเหล่านั้นของเขาหรือว่าจะอยู่ในสายตาของบรรพชนเต๋ามาตลอด
เจ้าแม่หนี่ว์วาเอ่ยปลอบเขา “ยังไม่จำเป็นต้องกังวลไป อาจารย์ทำเช่นนี้ น่าจะพะวงถึงบางสิ่งอยู่”
ท่าทางแตกตื่นของฝูซีเทียนผ่อนคลายลงเล็กน้อย
….
ภายในหอพระธรรมอันเรืองรองหลังหนึ่ง โพธิสัตว์เจียอิ๋นลืมตาขึ้น
สีหน้าของเขาแปลกพิกล
‘ระดับมหามรรค…หากว่าเขายังไม่พิสูจน์อริยะมหามรรค เช่นนั้นเขาน่าจะสาปแช่งเหล่าอริยะมหามรรคอย่างเทพบุพกาล เต้าปู้หวัง จุนที อวี้ผูถีและอริยะเจ็ดวิถีจนสิ้นชีพไม่ได้ เขาคงมิใช่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแน่นอน’
โพธิสัตว์เจียอิ๋นครุ่นคิดเงียบๆ
หากว่าหานเจวี๋ยมิใช่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ความเร็วในการบำเพ็ญของเขามิรวดเร็วเกินไปหน่อยหรือ
สรุปแล้วตัวตนของเขาคือผู้ใดกันแน่
เขานึกถึงเรื่องที่ได้ฟังมาจากฉิวซีไหลก่อนหน้านี้ บรรพชนเต๋าเคยทำนายว่าหานเจวี๋ยก็คือตัวแปร
กล่าวอีกนัยคือ อย่างน้อยบรรพชนเต๋าก็ทราบรายละเอียดของหานเจวี๋ย
จู่ๆ โพธิสัตว์เจียอิ๋นก็รู้สึกเหมือนมรรคาสวรรค์มีหมอกสลัวกลุ่มหนึ่งบดบังอยู่ ทำให้เขามองสิ่งใดก็ไม่กระจ่างเลย
นับตั้งแต่หานเจวี๋ยและเจ้าแดนต้องห้ามอันธการปรากฏตัวขึ้นบนโลก ชะตาชีวิตของอริยะมหามรรคอย่างพวกเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นน่าอนาถ บ้างก็ดับสูญ บ้างก็บาดเจ็บสาหัส สภาพที่ดูดีที่สุดคือถูกขับไล่ออกจากแดนเทพหวนปัจฉิม
โพธิสัตว์เจียอิ๋นนึกถึงบรรพชนเต๋า ทันใดนั้นเขาก็เบิกตากว้าง
หรือว่า…
มีความเป็นไปได้สูง!
ความเร็วในการฝ่าทะลวงระดับนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน แม้จะเป็นผานกู่กลับชาติมาเกิด ความเร็วในการบำเพ็ญก็ไม่มีทางเกินจริงได้ถึงขนาดนี้!
‘อาจารย์…สมกับเป็นท่าน…’
โพธิสัตว์เจียอิ๋นรำพันเงียบๆ
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้
น่าขันนัก!
โพธิสัตว์เจียอิ๋นเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน ในใจโศกหมอง
….
หานเจวี๋ยไม่ทราบเลยว่าสถานการณ์ช่วงที่ตนพยายามจะฝ่าทะลวงสู่ระดับมหามรรคถูกเหล่าอริยะมหามรรครายอื่นๆ รับรู้แล้ว
แม้ว่าฟ้าบุพกาลจะกว้างใหญ่ แต่อริยะมหามรรคกลับมีน้อย ทุกครั้งที่มีอริยะมหามรรคกำเนิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องใหญ่ครึกโครมเสมอ
ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างโศกหมอง ร่างกายเพิ่งสัมผัสกับลำแสง ก็สลายเป็นเถ้าธุลีไปในชั่วพริบตา
เสียงแผดร้องของทารกยังคงดังก้องอยู่
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานแค่ไหน พลังวิญญาณฟ้าดินกลับเป็นปกติ ลำแสงหายไป เสียงร้องไห้ก็เงียบไป
แอ๊ด…
ประตูกระท่อมเปิดออก หมอตำแยคนหนึ่งอุ้มทารกน้อยในห่อผ้าเดินออกมา เอ่ยด้วยความยินดี “ต้าหลาง ลูกชาย! เป็นลูกชาย!”
หลังจากนางเดินออกมาก็มองซ้ายมองขวา ทว่าไม่พบเงาร่างของต้าหลางเลย
นางตะลึงงัน
ยามให้กำเนิดเมื่อครู่เกิดเรื่องใหญ่น่าตกตะลึงขึ้นจริงๆ นางก็ตกใจเช่นกัน นางเพิ่งเคยเห็นทารกแผดเสียงร้องไห้ดังลั่นตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์เป็นครั้งแรก ดังลั่นจนหูนางแทบหนวกแล้ว
หรือว่าต้าหลางจะตกใจจนหนีไปแล้ว
หมอตำแยก้มหน้ามองทารกน้อยในห่อผ้า พบว่าเขาหลับสนิทอยู่ ใบหน้าเล็กจ้อยแดงแจ๋ทำให้สตรีทั่วหล้าล้วนใจอ่อนจนเผยรอยยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย
“ฮึ่ม เด็กน้อยที่น่าสงสาร ดันมีบิดาขี้ขลาดเสียได้ หวังว่าเขาจะไม่แพร่ข่าวเรื่องน่าตะลึงในวันนี้ออกไป”
หมอตำแยมีสีหน้ากังวล
การถือกำเนิดของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา หากว่าปรากฏการณ์เมื่อครู่ถูกแพร่ออกไป เขาต้องถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดแน่
ถึงขั้นที่อาจคิดว่าเป็นมารปีศาจกลับชาติมาเกิดด้วยซ้ำ!
แต่หมอตำแยรู้ดีว่าเขามิใช่มารปีศาจ เนื่องจากเมื่อครู่มารดาเขามีอาการคลอดยากขั้นรุนแรง ทันทีที่เขาคลอดออกมา มารดาก็สิ้นใจลง
แต่ในวินาทีนั้นเอง มีแสงสีทองสองสายพุ่งออกมาจากดวงตาของทารกน้อย ส่องไปที่ร่างของมารดาตน ทำให้อาการบาดเจ็บของผู้เป็นมารดาฟื้นฟู ค่อยๆ ปรากฏสัญญาณชีพอีกครั้ง
นี่คือเทวดาน้อย เป็นเซียนน้อย!
ยิ่งคิดหมอตำแยก็ยิ่งเผยสีหน้ารักใคร่เอ็นดูมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้เอง!
สายลมกระโชกพัดโหม ทำให้หมอตำแยเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จากนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้าง ปากอ้ากว้างโดยไม่รู้ตัว
มองเห็นมังกรทองห้าเล็บตัวหนึ่งโผล่เศียรออกมาจากก้อนเมฆ ดวงตาของมังกรใหญ่โตยิ่งกว่าขุนเขา ร่างกายเสมือนจะบดบังครอบครองทั่วท้องนภา น่าตื่นตะลึงยิ่ง
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...