บทที่ 699 ปฏิญาณต่อมหามรรค
เมื่อได้ฟังวาจาของสิงหงเสวียน เหล่าศิษย์สืบทอดต่างสะท้อนใจอย่างยิ่ง ด้วยนิสัยของหานเจวี๋ย คาดว่านายน้อยคนนี้คงไม่ได้ออกไปแสดงคุณสมบัติของตนให้เป็นที่ประจักษ์จริงๆ
แต่พวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยงงอนในจุดนี้เลย หากไม่มีกฎแสนเผด็จการที่หานเจวี๋ยตั้งไว้ ในหมู่พวกเขาคงมีคนที่สิ้นชีพไปแล้วอยู่ด้านนอกมากมาย
และเป็นเพราะเพียรบำเพ็ญกันมายาวนาน พวกเขาถึงได้มีตบะเช่นในวันนี้
พวกเขาไม่กล้าเอ่ยถึงหานเจวี๋ยมากนัก หัวข้อสนทนาจึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
หลี่เสวียนเอ้าร้องจุ๊ๆ พลางเอ่ยว่า “คุณสมบัติของฉินหลิงทำให้ทั่วทั้งแดนเซียนตกตะลึง ตบะระดับจักรพรรดิเซียน แต่ต่อกรกับระดับเทพได้ ทั้งยังสะกดไว้ได้อย่างทรงพลังอีกด้วย ศิษย์พี่ วิสัยทัศน์ของท่านยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเคย”
หลี่เต้าคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พอใช้ได้เท่านั้น คนที่สั่งสอนฉินหลิงเป็นหลักคือศิษย์ของข้า ไม่เกี่ยวกับข้าเลย”
ทันใดนั้นโจวฝานพลันปรากฏตัวขึ้น ก่อนถามด้วยความอยากรู้ “ศิษย์ของเจ้าก็เป็นเชื้อสายของอาจารย์เช่นกันกระมัง”
ส่วนฐานะของหานทั่ว ไม่ได้เป็นความลับมานานแล้ว
โดยเฉพาะเมื่อเหล่าศิษย์สืบทอดออกไปด้านนอกแล้วบังเอิญพบหานอวี้เข้า ต่างตกตะลึงยิ่งนัก เรื่องนี้ปิดไว้ไม่มิดอย่างสิ้นเชิง สิงหงเสวียนก็แสดงทีท่าว่าทราบเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นเหล่าศิษย์ก็ยิ่งไม่ต้องพะวงแล้ว
หลี่เต้าคงพยักหน้ารับ
ศิษย์สืบทอดคนอื่นๆ พากันพูดถึงเรื่องหานอวี้และหานทั่ว
ท่าทีที่หานเจวี๋ยมีต่อหานทั่วผิดแผกไปจากปกติอย่างยิ่ง ให้อิสระอย่างสมบูรณ์ ทำให้พวกเขาคาดเดาไปมากมายหลากหลาย
สวินฉางอันเอ่ยยิ้มๆ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉินหลิงก็นับว่าเป็นศิษย์ของสำนักซ่อนเร้นเรา วันหน้าพวกเจ้าที่อยู่ข้างนอกก็ช่วยดูแลให้มากหน่อยเถิด บุตรแห่งสวรรค์มักจะถูกเพ่งเล็งได้ง่ายยิ่ง อย่าให้ถูกจัดการตั้งแต่ยังไม่เติบโต”
หลี่เต้าคงพยักหน้าเห็นด้วย สื่อว่าต้องการแบบนี้เช่นกัน
เขาเป็นอริยะ มีศิษย์ในสังกัดเพียงคนเดียว มีมากมายหลายเรื่องที่สอดมือเข้ายุ่งไม่ได้ ทำได้เพียงพึ่งอำนาจของสำนักซ่อนเร้น
หลังจากสำเร็จอริยะ หลี่เต้าคงยังคงมองว่าตนเป็นคนของสำนักซ่อนเร้น อย่างไรเสียที่เขาสำเร็จเป็นอริยะได้ก็เพราะพึ่งพาหานเจวี๋ยทั้งสิ้น
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พัฒนากลุ่มอิทธิพลของตนขึ้น แต่ตั้งใจฝึกบำเพ็ญ เขารู้ดีว่าสิ่งที่หานเจวี๋ยต้องการมิใช่กลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นกำลังรบชั้นยอดของสำนักซ่อนเร้น
บทสนทนาภายในหมื่นโลกาฉายชัดเป็นเพียงภาพสะท้อนมุมเล็กๆ ของยุคสมัยอันยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่จากจุดนี้มองเห็นได้ว่าพิธีบวงสรวงหมื่นราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ของเผ่ามนุษย์ประสบความสำเร็จยิ่ง!
บุตรแห่งสวรรค์หลายร้อยคนปรากฎตัวขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงของแต่ละคนเป็นที่รู้จักของสิ่งมีชีวิตอย่างน้อยๆ ก็หลักร้อยล้านแล้ว หมื่นราชวงศ์มาจากดินแดนที่แตกต่างกัน สิ่งที่เผ่ามนุษย์และสิ่งมีชีวิตของดินแดนต่างๆ ใส่ใจที่สุดย่อมเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่เป็นตัวแทนของดินแดนตน ดังนั้นต่อให้ติดลำดับรายชื่อเลขสองหลัก ก็นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของทั้งดินแดนอยู่ดี
อาณาเขตหนึ่งดินแดน ไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตแค่หลักร้อยล้านเท่านั้น แต่เป็นหลักล้านล้านขึ้นไป!
ฉินหลิงก็สร้างชื่อสะท้านโลกาเช่นกัน แต่เป็นเพราะตบะต่ำเกินไป ไม่อาจกลบประกายแสงของบุตรแห่งสวรรค์คนอื่นๆ ได้ ยังห่างชั้นจากอันดับหนึ่งมากนัก
หลังสิ้นสุดพิธีบวงสรวงหมื่นราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ แดนเซียนเกิดคลื่นลมปั่นป่วน บุตรแห่งสวรรค์มากมายถูกปล้นชิงเข่นฆ่า ความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ต่างๆ ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ภาพรวมส่วนใหญ่ยังนับว่าสงบสุขดีอยู่
ในมุมมองของเหล่าอริยะ ขอเพียงไม่เกิดสงครามวุ่นวายระดับดินแดนขึ้น ก็นับว่าสงบสุขดี
แดนเซียนใหญ่โตถึงเพียงนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกิดสงครามขึ้นเลย
….
ช่วงเที่ยงของวันนี้
หานเจวี๋ยค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็หมายความว่าเวลาผ่านพ้นไปอีกห้าพันปี สำหรับสิ่งมีชีวิตในแดนเซียนอาจเป็นหนึ่งชาติภพ แต่สำหรับมนุษย์ธรรมดากลับเป็นร้อยภพร้อยชาติ
เขาเข้าใกล้มหามรรคอย่างยิ่ง
แทบห่างจากบานประตูเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
เขาไม่ได้ตรวจดูจดหมาย ไม่ได้สอดส่องแดนเซียน แต่นึกย้อนถึงมหามรรคต้นกำเนิดของตน
ระดับมหามรรค ในขั้นของการหลุดพ้น หานเจวี๋ยไม่จำเป็นต้องสั่งสมตบะอีก เพียงต้องใช้วิญญาณพุ่งฝ่าประตูมหามรรคบานนั้นไปให้ได้เท่านั้น
ท่ามกลางความมืดมิด เขาสัมผัสได้ว่ามีพลังลึกลับบางอย่างดันประตูมหามรรคไว้ ทำให้เขาเปิดประตูไม่ได้
แต่หานเจวี๋ยไม่เชื่อ เขาต้องการใช้มหามรรคต้นกำเนิดบังคับพิสูจน์มรรคให้จงได้!
ก็แค่ประตูผุๆ บานหนึ่ง!
ทำไมจะทะลวงผ่านไปไม่ได้!
หานเจวี๋ยตั้งสมาธิ โคจรพลังแห่งมหามรรคต้นกำเนิด วิญญาณของเขาพุ่งเข้าสู่ห้วงความเวิ้งว้างอันลึกลับ ด้านหน้าปรากฏเงาร่างขึ้นร่างแล้วร่างเล่า ทั้งหมดล้วนหันหน้าไปทางประตูมหามรรค
ประตูมหามรรคตั้งอยู่กลางความเวิ้งว้าง สูงนับหมื่นจั้ง ใหญ่ไพศาลทรงพลัง ราวกับเป็นตัวแทนของแดนนิพพาน เพียงเห็นก็ทำให้คนหวาดหวั่นได้
หานเจวี๋ยยกเท้าก้าวเดิน เดินผ่านผู้แสวงหามรรคไปทีละคนๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...