ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 703

บทที่ 703 ลบเลือนอดีต

หลังจากต้าซั่นเทียนออกไป หานเจวี๋ยก็สอดส่องเริ่นกังและอิ่นหงเฉินที่เคยชุบเลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้

เมื่อแดนเซียนพิภพเชื่อมต่อกับแดนเซียน กระแสการบำเพ็ญได้รับการยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มิติวัฏจักรได้เพิ่มของรางวัลเป็นทรัพยากรบำเพ็ญจำนวนมากให้ผู้กลับชาติมาเกิด ในฐานะผู้กลับชาติมาเกิดที่ติดอันดับต้นๆ อย่างเริ่นกังและอิ่นหงเฉินจึงได้เสพสุขมากที่สุด

ตบะของทั้งสองบรรลุถึงระดับจักรพรรดิเซียน ถึงแม้จะห่างจากระดับเทพอีกไกล แต่อย่างน้อยก็อยู่ระหว่างพัฒนา

คุณสมบัติของพวกเขาไม่นับว่าแข็งแกร่งนัก เพราะทั้งหมดล้วนพึ่งพาทรัพยากรของมิติวัฏจักร

ระยะนี้พวกเขาใช้ชีวิตไม่ราบรื่นยิ่ง ด้วยการมาถึงของผู้บำเพ็ญแดนเซียนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในบรรดานั้นมีกลุ่มอิทธิพลและตระกูลต่างๆ ร่วมด้วย ย่อมทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น

ในแดนเซียน ผู้บำเพ็ญยังคงต้องพะวงถึงเหล่าอริยะ แต่ในแดนเซียนพิภพกลับไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาล้วนไม่ทราบว่าเป็นอริยะรายใดที่ควบคุมแดนเซียนพิภพอยู่

ถึงขั้นที่เกิดสถานการณ์อย่างหนึ่งขึ้น เมื่อกลุ่มอิทธิพลจากแดนเซียนเกิดความขัดแย้งที่ไม่อาจแก้ไขได้ พวกเขาจะนัดหมายมาต่อสู้กันที่แดนเซียนพิภพตัดสินแพ้ชนะ เพื่อยุติข้อพิพาท

เหล่าอริยะมองเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ล้วนทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง หากระงับความขัดแย้งไว้มากจนเกินไป กลับจะทำให้ความขัดแย้งปะทุรุนแรงขึ้น มีสถานที่ให้ระบายออกบ้างก็ถือเป็นเรื่องดี

หานเจวี๋ยเข้าฝันเริ่นกังและอิ่นหงเฉิน อยากถามพวกเขาว่าพร้อมจะละทิ้งอิสระของตนหรือไม่

ผลคือหลังจากทั้งสองผ่านการต่อสู้ดิ้นรนมา ล้วนเลือกที่จะรอไปก่อน

พวกเขายังไม่ยอมถอดใจ อยากลองพึ่งพาตัวเอง ดูว่าสุดท้ายจะไปได้ถึงขั้นไหน

สำหรับเรื่องนี้หานเจวี๋ยก็เลือกที่จะเคารพการตัดสินใจของทั้งสอง ไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด

มีเพียงผู้ที่ตระหนักเข้าใจทุกสิ่งแล้ว ถึงสามารถมานะบำเพ็ญอย่างแท้จริงได้ มิเช่นนั้นต่อให้หานเจวี๋ยบังคับพาตัวพวกเขาไปที่อาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง จิตใจของพวกเขาไม่หนักแน่นพอ ฝึกบำเพ็ญไปก็รังแต่จะเกิดจิตมาร

เมื่อตบะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จิตใจของหานเจวี๋ยก็ค่อยๆ เปิดกว้างขึ้นเช่นกัน ในอดีตเกรงว่าศิษย์จะชักนำความวุ่นวายมาให้ตน ยามนี้หากมีศิษย์มาหาตนเพื่อร้องขอออกไปด้านนอก เขาย่อมไม่มีทางขัดขวางอย่างเข้มงวดอีก

แต่ระยะนี้กลับไม่มีศิษย์สืบทอดต้องการออกไปเลย อาจเป็นเพราะพวกเขาเคยชินกับการอยู่ในเขตเซียนร้อยคีรีแล้ว

หานเจวี๋ยกลับมาที่เขตเซียนร้อยคีรี มองเห็นหลี่เสวียนเอ้ารออยู่หน้าอารามเต๋าพอดี เขาเตรียมตัวจะออกไปอีกครั้ง

เพียงหานเจวี๋ยใช้ความคิดก็ส่งเขาออกไปได้แล้ว

ถึงแม้การทำเช่นนี้จะวุ่นวาย แต่อย่างน้อยก็ปลอดภัย หานเจวี๋ยไม่มีทางมอบอำนาจให้เหล่าศิษย์เข้าออกได้อย่างอิสระเสรี หากวันใดถูกศัตรูปลอมแปลงเข้ามา เช่นนั้นก็จบเห่

ยิ่งตบะสูงมากเท่าไร หานเจวี๋ยก็ยิ่งต้องระวังมากขึ้นเท่านั้น

ยอดฝีมือมักจะพลาดท่าได้ง่ายๆ เสมอ

หานเจวี๋ยกระตุ้นความกระฉับกระเฉง ฝึกบำเพ็ญต่อ

เรื่องที่เขาพิสูจน์มหามรรคสำเร็จเป็นอริยะมหามรรคไม่ได้ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในมรรคาสวรรค์ เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบเรื่อง

ตอนนี้หานเจวี๋ยเป็นอริยะมหามรรคเพียงหนึ่งเดียวในมรรคาสวรรค์!

….

ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม ตำหนักผานกู่

ผานซินนั่งอยู่บนเบาะสมาธิของตน เขาพรูลมหายใจออกมา หว่างคิ้วเจือแววเหนื่อยล้า

ไม่นานนัก จิ้นเสินและมหาจักรพรรดิเซียวก็เดินเข้ามา

ทั้งสองทำความเคารพผานซิน ผานซินโบกมือ สื่อให้พวกเขานั่งลง

“ไปเยือนฟ้าบุพกาลครานี้ นับว่าได้ผู้สนับสนุนรายใหญ่แล้ว ต่อไปเมื่อพวกเจ้าเดินทางไปยังฟ้าบุพกาลก็จะสะดวกขึ้น แต่ก็แค่สะดวกขึ้นเท่านั้น ระเบียบฟ้าบุพกาลปั่นป่วนวุ่นวาย ยังคงต้องระวังให้มาก” ผานซินเอ่ย

จิ้นเสินและมหาจักรพรรดิเซียวได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ายินดี

การเดินทางในฟ้าบุพกาลได้รับมติเอกฉันท์จากทั่วทั้งมรรคาสวรรค์แล้ว ถึงแม้ก่อนหน้านี้แดนเทพหวนปัจฉิมจะรุกรานมรรคาสวรรค์อยู่หลายครั้ง แต่แดนเทพหวนปัจฉิมมิใช่ตัวแทนของทั่วทั้งฟ้าบุพกาล ฟ้าบุพกาลกว้างใหญ่นัก แดนเทพหวนปัจฉิมเป็นเพียงมุมเล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น

สองอริยะสังเกตเห็นว่าผานซินดูไม่สดใสเลย

มหาจักรพรรดิเซียวเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น”

ผานซินกล่าวว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่พบปัญหาในการบำเพ็ญเท่านั้น ข้าต้องการพิสูจน์อริยะมหามรรคให้ได้ในคราวเดียว แต่ผู้อาวุโสท่านนั้นบอกว่าพื้นฐานของข้ายังไม่เพียงพอ ต้องรอต่อไป”

อริยะมหามรรค!

มหาจักรพรรดิเซียวและจิ้นเสินต่างก็ตกใจยิ่ง

พวกเขาทราบว่าเหนือกว่าอริยะมรรคาสวรรค์คืออริยะเสรี เหนือขึ้นไปอีกถึงจะเป็นอริยะมหามรรค

ผานซินเริ่มมุ่งสู่ระดับนั้นแล้วหรือ

เป็นตัวตนไร้พ่ายในมรรคาสวรรค์อย่างแท้จริง!

มหาจักรพรรดิเซียวหรี่ตาลงพลางถามว่า “อริยะคนอื่นๆ ต้องการเปิดอาณาเขตเต๋าที่ปลายทางของเส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาล ยินยอมหรือไม่”

ผานซินแค่นเสียง “เหตุใดต้องยินยอมเล่า แดนเซียนและปวงสวรรค์หมื่นโลกายังไม่เพียงพอให้พวกเขาแบ่งกันอีกหรือไร ปฏิเสธไปให้หมด! พวกเขาไม่กล้ามาด้วยตัวเองหรอก หากว่ายินยอม วันหน้าก็ยังคงเป็นพวกเราที่ต้องดูแลอาณาเขตเต๋าของพวกเขา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ