สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกระบี่ทั้งสำนักโบยบินขึ้นสู่ท้องนภา น้อมคำนับไปในทิศทางเดียวกัน
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ…
ทิศทางที่กระบี่เหล่านี้ชี้ไป…
เป็นต้าเยี่ยน!
ในสมองของหวงจี๋เฮ่าผุดการคาดเดาขึ้นมาอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าไม่มีทางเป็นไปไม่ได้เลย
บุรุษอาภรณ์น้ำเงินสูดลมหายใจเข้าลึก กล่าวว่า “มรรคกระบี่หมื่นบรรพกาลเป็นขอบเขตพลังอย่างหนึ่งของพลังวิเศษมรรคกระบี่ หรือกล่าวง่ายๆ นี่ก็คือพลังวิเศษแห่งมรรคกระบี่ที่ยากจะพบในหนึ่งหมื่นปี!”
“คิดไม่ถึงเลยว่ายามนี้ยังมีบุตรแห่งสวรรค์มรรคกระบี่ระดับนี้อยู่…”
พลังวิเศษแห่งมรรคกระบี่ที่ยากจะพบเจอได้ในรอบหนึ่งหมื่นปี!
หวงจี๋เฮ่าตกตะลึงจนร่างสั่นสะท้าน
ในสมองของเขาพลันปรากฏใบหน้างามสง่าเหนือกว่าผู้ใดขึ้นมาใบหน้าหนึ่ง
หรือว่าจะเป็น…
หวงจี๋เฮ่ากัดฟันเอ่ยถามออกไป “หากข้าเข้าร่วมกับลัทธิสัจจะยุทธ์ ข้าจะสามารถบรรลุพลังวิเศษระดับนี้หรือไม่ ”
บุรุษอาภรณ์น้ำเงินนิ่งเงียบ
ท่าทางของเขาทำให้หวงจี๋เฮ่ายิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นไปอีก
……
หานเจวี๋ยใช้เวลาหนึ่งเดือนถึงได้บรรลุพลังวิเศษแห่งมรรคกระบี่นี้
และในที่สุดก็สำเร็จ
เหล่าผู้ฝึกสายกระบี่เองก็บ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว
ทว่าหานเจวี๋ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
ปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในลัทธิสัจจะยุทธ์นี้ก็ได้เกิดขึ้นในสำนักต่างๆ ของแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนด้วย ซึ่งรวมถึงสำนักหยุกพิสุทธิ์
ในสำหนักหยกพิสุทธ์มีกระบี่จำนวนมากมายลอยทะยานเหนือท้องนภา กระบี่เหล่านั้นล้วนสั่นสะท้านส่งเสียงกึกก้อง ปลายกระบี่พุ่งชี้ไปที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียน
ไก่คุกรัตติกาลมองเห็นฉากเบื้องหน้านี้ ก็ตกใจจนร่างกายพลันสั่นเทิ้มไม่หยุด!
หานเจวี๋ยได้ยินเสียงกระบี่กึกก้องที่ลอยเข้ามาจากนอกถ้ำ ก็พลันลืมตาขึ้นอย่างอดไม่ได้
เขาส่งพลังจิตออกไปสำรวจที่ด้านนอกถ้ำ ก็พลันมองเห็นกระบี่เหล่านั้นที่ลอยขึ้นสูงเหนือท้องฟ้า
เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ปรากฏการณ์นี้เขาก็เป็นคนสร้างขึ้นอย่างนั้นหรือ
เขาก้มหน้าลงมองเงากระบี่ที่อยู่กลางฝ่ามือ มือขวากำเข้าหากันแน่น ชั่วพริบตาเงากระบี่ก็เลือนหานไป
กระบี่ที่ลอยเหนืออากาศทั่วทั้งใต้หล้าต่างร่วงหล่นลงมาตามๆ กัน
สวินฉางอันมองไปยังหานเจวี๋ยอย่างนิ่งอึ้งราวกับท่อนไม้
ในขณะที่หานเจวี๋ยบรรลุพลังวิเศษนี้ ที่หว่างคิ้วของเขาก็ปรากฏแสงกระบี่พวยพุ่ง ลมพายุพัดหมุนวนรอบกาย หลอมรวมเข้ากับสมบัติวิญญาณบนร่าง ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้สวินฉางอันอึ้งตะลึงจนแทนหยุดหายใจ
สวินฉางอันเองก็ได้ยินเสียงร้องกึกก้องของกระบี่ แต่เมื่อหานเจวี๋ยประกบมือเข้าหากัน เสียงร้องของกระบี่ด้านนอกก็หายวับไป ก่อนกระบี่ที่ลอยอยู่เหนืออากาศจะพากันร่วงหล่นลงมา
นี่หมายความว่าอย่างไรกัน
ปรากฏการณ์แปลกประหลาดด้านนอกก็เกิดมาจากหานเจวี๋ยอย่างไรเล่า!
[ยินดีด้วย ท่านบรรลุพลังพิเศษมรรคกระบี่หมื่นบรรพกาล กรุณาตั้งชื่อ]
เมื่อหานเจวี๋ยอ่านอักขระที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้น ก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย
ระดับหมื่นบรรพกาลหรือ
พลังวิเศษยังมีการแบ่งระดับด้วยหรือนี่
เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ในใจพึมพำขึ้นมาเงียบๆ “ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ”
[ตั้งชื่อสำเร็จ เนื่องด้วยท่านบรรลุพลังวิเศษครั้งแรก ดวงชะตายกระดับ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ประกาศตัวทันที ทำให้ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิเกริกก้องทั่วหล้า จะได้รับสมบัติวิญญาณหนึ่งชิ้น]
[สอง ถ่อมตนฝึกฝน พัฒนาให้แข็งแกร่งต่อไป กระทั่งทั่วทั้งโลกาไร้พ่าย จะได้รับสมบัติวิญญาณหนึ่งชิ้น]
ล้วนได้รับสมบัติวิญญาณ!
หาได้ยากนัก!
หานเจวี๋ยเลือกข้อที่สองอย่างเงียบๆ
[ท่านเลือกถ่อมตนฝึกฝน ยินดีด้วย ท่านได้รับสมบัติวิญญาณหนึ่งชิ้น]
[ท่านได้รับสมบัติวิญญาณระดับสาม–ภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณ]
[ภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณ: สมบัติวิญญาณการป้องกันระดับสาม สามารถต้านทานการโจมตีที่จะสร้างความเสียหายแก่เจ้าของอัตโนมัติ]
สมบัติวิญญาณสายป้องกันอีกแล้ว!
ทั้งยังเป็นระดับสามอีกด้วย!
ดีเลย!
ใครจะทำอันตรายข้าได้อีก
ใครจะทำลายการป้องกันข้า
หานเจวี๋ยคิดอย่างปีติยินดี
ทันใดนั้นเขาพลันเกิดความคิดที่อาจหาญขึ้นมาอย่างหนึ่ง
หากจู่ๆ เขาออกไปกระทำการโอ้อวดตอนนี้ ระบบจะยึดสมบัติวิญญาณกลับคืนไปหรือไม่นะ
ช่างเถอะ
เดิมทีเขาก็คิดอยากจะเก็บตัวฝึกเงียบๆ อยู่แล้ว
ระบบเองก็ให้ตัวเลือกตามความชอบของเขาแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะไปลองดี
หานเจวี๋ยนำภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณอกมา
เป็นผ้ายาวผืนหนึ่ง ลักษณะคล้ายกับผ้าไหม สีเหลืองทองอร่ามทั่วทั้งผืน ยามโบกสะบัดดูราวกับเมฆสีรุ่งอรุณกำลังเต้นระบำ งดงามเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...