หลี่ชิงจื่อส่ายหน้ายิ้มกล่าว เขาฟังความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของหานเจวี๋ยออก
เขารู้สึกทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้
พรสวรรค์ของผู้อาวุโสหานเป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากในใต้หล้าจริงๆ
หลายสิบปีผ่านไป ตบะของเขาจะต้องก้าวกระโดดมากอย่างแน่นอน
หานเจวี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่จำเป็นต้องหนีแล้ว”
ทั้งสองมองหน้าสอบตากันแล้วหัวเราะ
โดยไม่รู้ตัวหานเจวี๋ยก็กลายเป็นคนที่หลี่ชิงจื่อพึ่งพาได้มากที่สุด
แม้ว่าทั้งสองจะพูดคุยกันไม่มาก แต่ทุกครั้งยามที่สำนักหยกพิสุทธิ์เผชิญกับวิกฤต คนแรกที่หลี่ชิงจื่อนึกถึงก็คือหานเจวี๋ย
“จริงสิ ศิษย์ของข้าเล่า หลังจากหายตัวไปพวกท่านไม่ได้ไปหาเขาหรือ” หานเจวี๋ยเอ่ยปากถาม
จะว่าไปแล้วเหตุผลที่หยางเทียนตงหายตัวไปนั้นก็เพราะเขาติดตามสำนักหยกพิสุทธิ์ไปงานประชุมใหญ่การบำเพ็ญเซียน
หลี่ชิงจื่อกล่าวด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “ไป และก็หาเจอแล้ว ทว่าเขาไม่ยอมกลับมา ตอนนี้เขาได้กลายเป็นราชาปีศาจ มีชื่อเสียงในเผ่าปีศาจของแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนเป็นอย่างมาก คาดว่าอีกร้อยปีเขาอาจจะกลายเป็นราชาปีศาจอันดับหนึ่งในต้าเยี่ยนก็ได้”
หานเจวี๋ยหมดคำพูด
คิดไว้แล้วต้องเป็นเช่นนี้
หลี่ชิงจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ช่วงนี้สำนักหยกพิสุทธิ์ต้อนรับระดับปราณก่อกำเนิดมาเข้าร่วมหลายท่าน ทั้งข้ายังเกลี้ยกล่อมระดับเปลี่ยนวิญญาณอีกสองท่าน อย่างมากสุดพวกเขาจะเข้าร่วมกับสำนักหยกพิสุทธิ์ในไม่กี่ปีข้างหน้า”
มนุษย์มุ่งเดินสู่ที่สูง
สำนักหยกพิสุทธิ์ในขณะนี้ เป็นสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนบำพรตต้าเยี่ยน พลังวิญญาณในสำนักเหนือกว่าสำนักอื่นจนมองไม่เห็นฝุ่น
หานเจวี๋ยพยักหน้า
ยิ่งสำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นเท่าใด ก็เป็นผลดีกับเขาเท่านั้น
กล่าวตามตรงแล้วเขาเป็นผู้อาวุโสที่สบายที่สุดในสำนัก ในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีก็ลงมือเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ละครั้งก็ไม่ได้เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
เหล่าพืชวิญญาณและบุปผาวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนล้วนมีลูกศิษย์ที่มาดูแลโดยเฉพาะ เรื่องเดียวที่หานเจวี๋ยต้องทำก็คือ
การบำเพ็ญเพียร
“ผ่านไปนานขนาดนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับผู้อาวุโสสังหารเทพของท่านเกือบจะถูกลืมเลือนแล้ว มีแค่คนรุ่นเก่าอย่างพวกเราเท่านั้นที่ยังพร่ำพรรณนาถึงลักษณะอันน่าเกรงขามของท่าน ยามนี้ล้วนเป็นโลกของบุตรผู้ภาคภูมิแห่งสวรรค์อย่างพวกโจวฝาน โม่ฟู่โฉวและหยางเทียนตง ทั้งสามคนนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นบุรุษแห่งยุค น่าเสียดาย พวกเขาล้วนไม่อุทิศตนรับใช้สำนัก จริงสิ เมื่อหลายสิบปีก่อนมีสุนัขปีศาจตัวหนึ่งก่อความเดือดร้อนในแดนบำเพ็ญพรต ข้าคาดเดาจากการบรรยายรูปพรรณสัณฐานของศิษย์แล้ว ดูเหมือนว่าสุนัขปีศาจตัวนั้นจะเป็นตัวเดียวกับที่ท่านเลี้ยงไว้?”
หลี่ชิงจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้นมา
มาถึงเขาเพียรบำเพ็ญเซียน เขาก็ยังไม่เห็นสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเลย
หานเจวี๋ยเอ่ยตอบว่า “ไม่ต้องสนใจมันหรอก มันจะออกไประเหเร่ร่อนในโลกกว้างให้ได้ รอมันเกิดความหวาดกลัวแล้ว ย่อมจะกลับมาเอง”
หลี่ชิงจื่อส่ายหน้าอดยิ้มไม่ได้
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง หลี่ชิงจื่อก็ไม่รบกวนเขาอีก
หานเจวี๋ยดูดซับปราณไปพลางเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์ไปด้วย
[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญการโจมตีจากสัตว์ปีศาจ] x578
[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับโอกาสวาสนาครั้งใหญ่ ได้รับสมบัติวิญญาณบรรพกาล]
[เซียนซีเสวียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x33
[กวนโยวกังสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x421
[ซูฉีศิษย์ของท่านได้ซาบซึ้งมรรคาสวรรค์ เข้าใจพลังวิเศษ]
[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายหลัก] x798
[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านถูกลัทธิสัจจะยุทธ์จับเป็นเชลย]
……
หานเจวี๋ยไม่เห็นสถานการณ์ของหยางเทียนตง แต่รูปของเจ้าเด็กนี่ยังคงอยู่ ดูท่าแล้วคงจะปิดด่านอยู่กระมัง
เช่นนี้ก็ดี
หานเจวี๋ยยังรู้สึกกลัวจริงๆ ว่าเขาจะระหกระเหินจนไปตายที่ไหน
หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าซูฉีเข้าใจพลังวิเศษแล้ว
น่าสนใจดี
ไม่ใช่แค่ซูฉีเท่านั้น ก่อนหน้านั้นก็มีคนเข้าใจพลังวิเศษในขณะบำเพ็ญเพียรด้วย
ตั้งแต่ที่หานเจวี๋ยฝึกฝนมาจนถึงตอนนี้ เขาล้วนอาศัยรางวัลจากระบบมาโดยตลอด กำลังวังชาของเขาล้วนใช้ไปกับการดูดซับปราณบำเพ็ญเพียร ยังไม่เคยเข้าใจพลังวิเศษด้วยตัวเองมาก่อน
หรือว่าจะลองดูสักหน่อย?
หานเจวี๋ยเข้าใจมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด การที่จะเข้าใจพลังวิเศษมรรคกระบี่คงไม่ใช่เรื่องยาก
เอาแต่ฝึกฝนก็ออกจะน่าเบื่ออยู่บ้าง ลองทำความเข้าใจพลังวิเศษเล่นๆ ก็ดี
การสร้างพลังวิเศษโดยไม่มีมูล จำเป็นต้องใช้จินตนาการ
ไม่สู้ยกระดับพลังวิเศษจะดีกว่า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...