ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 721

สรุปบท บทที่ 721 โอกาสวาสนามากมาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

อ่านสรุป บทที่ 721 โอกาสวาสนามากมาย จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บทที่ บทที่ 721 โอกาสวาสนามากมาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 721 โอกาสวาสนามากมาย

ท่ามกลางสายฟ้า ร่างสองร่างที่กำลังต่อสู้กันอยู่มิได้ใหญ่โตมโหฬารจนสะท้านสายตา พวกเขาสูงเพียงหมื่นจั้งเท่านั้น รวดเร็วสุดขีด พลังวิเศษต่างๆ ปะทุออกมาไม่หยุด

ห้วงมิติพังถล่มอย่างต่อเนื่อง และก่อตัวขึ้นใหม่อีกอย่างต่อเนื่อง

พลังเวทมหาศาลต่อให้อยู่ห่างไกลกันยิ่ง ยังทำให้คนอกสั่นขวัญผวา

ในละแวกนี้นอกจากสวีตู้เต้าแล้ว ยังมีผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ ด้วย แต่คนที่มีตบะต่ำกว่าครึ่งอริยะลงไป จะสลายกลายเป็นเถ้าธุลีไปทันที

หานเจวี๋ยสังเกตการณ์อย่างจริงจัง

มิ่งและเทพมารฟ้าบุพกาลล้วนเป็นตัวตนระดับอริยะมหามรรค หานเจวี๋ยสัมผัสได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวง

แน่นอน ค่าตัวก็สูงกว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวงและเหล่าอริยะมหามรรคในแดนเทพหวนปัจฉิมด้วย

เทพมารฟ้าบุพกาลตนนั้นรูปร่างเหมือนมนุษย์ ศีรษะเหมือนเสือดาว ช่วงเอวมีงูเหลือมดุร้ายเลื้อยพันอยู่ ด้านหลังมีหัวกะโหลกใหญ่โตหลายสิบอันลอยอยู่ รูปร่างลักษณะแตกต่างกันไป แวบแรกที่เห็น ดูราวกับมารร้ายกระหายเลือดที่มาจากนรกอเวจี

ส่วนร่างของคู่ต่อสู้เป็นสีดำสนิทไปทั้งตัว ดูคล้ายกับเงาขนาดมหึมา มองเห็นเพียงว่าเขามีสี่กร แต่ละมือถือสมบัติวิเศษไว้ ต่อสู้กดดันเทพมารฟ้าบุพกาล

มีฝีมืออยู่บ้าง!

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าเมื่อการโจมตีของเทพมารฟ้าบุพกาลพุ่งเข้าใส่ร่างของมิ่ง ก็เสมือนโจมตีใส่เงามายา ทะลุผ่านไปตรงๆ ไม่สามารถทำอันตรายได้เลย

หานเจวี๋ยจดจำรูปพรรณสัณฐานของมิ่งเอาไว้เงียบๆ เอาไว้ลองทีหลังว่าจะทำนายถึงได้หรือไม่

“จงยอมสยบต่อข้าแต่โดยดี กลายเป็นทาสรับใช้ของข้าเสีย!”

เสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์พลันแว่วดังขึ้น ชวนผวาอย่างยิ่ง

ทันใดนั้นมองเห็นมิ่งกระโดด สี่แขนเงื้อขึ้นสูง แสงเจิดจ้าพร่างตาพลันสาดส่อง ทำให้ทุกสิ่งสิ้นสีสัน

แม้กระทั่งหานเจวี๋ยก็อดหลับตาไม่ได้

ภาพลวงตาวิวัฒนาการพังทลายลง

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น

เขาขมวดคิ้ว สิ้นสุดลงเร็วขนาดนี้ หรือว่าเทพมารฟ้าบุพกาลจะพ่ายแพ้หลังจากการโจมตีครั้งนั้น

หานเจวี๋ยถามในใจ ‘เงาร่างนี้ที่อยู่ในสมองของข้ามีฐานะตัวตนอย่างไร’

[อีกฝ่ายครอบครองยอดสมบัติพิเศษ ไม่สามารถวิวัฒนาการได้]

‘เช่นนั้นข้าสามารถสังหารเขาในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’

[อีกฝ่ายครอบครองยอดสมบัติพิเศษ ไม่สามารถวิวัฒนาการได้]

หานเจวี๋ยล้มเลิกความคิดจะทำนายถึงตัวตนของมิ่งอย่างสิ้นเชิงแล้ว

จากการต่อสู้ที่เห็นมาเมื่อครู่นี้ มิ่งแข็งแกร่งจริงๆ แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะแข็งแกร่งเกินไปกว่าขอบเขตความเข้าใจของหานเจวี๋ย

ต้องสู้ดู!

หากอาศัยความได้เปรียบของมรรคาสวรรค์ มิ่งไม่มีทางบุกเข้ามาในมรรคาสวรรค์ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น หานเจวี๋ยยังมีเวลาเพิ่มความแข็งแกร่งอยู่

‘ต้องฝึกบำเพ็ญต่อไป พยายามสังหารเขาให้ได้ในเร็ววัน’

หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้

….

เวลาผ่านไปรวดเร็วยิ่ง

ผ่านไปอีกหนึ่งหมื่นปี

หานเจวี๋ยมายังอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง ปล่อยลี่เหยาออกมา

ลี่เหยากลายเป็นเทพมารอมตะแล้ว หานเจวี๋ยถอดเสื้อคลุมออก ให้นางสวมไว้

“รู้สึกอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยถามด้วยรอยยิ้ม

เขาถอดถอนสิทธิ์ในการเข้าถึงแบบจำลองการทดสอบรวมถึงหมื่นโลกาฉายชัดในอาณาเขตเต๋าหลักของลี่เหยาแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะเป็นความลับ

ลี่เหยาจัดแจงเสื้อผ้า เอ่ยอย่างจริงจัง “ดีมาก เทียบกับก่อนหน้านี้ เสมือนถอดร่างผลัดกระดูก ขอบคุณท่านมาก”

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ระหว่างเจ้ากับข้ายังต้องขอบคุณอะไรอีก ต่อไปเจ้าก็ฝึกบำเพ็ญอยู่ในอารามเต๋าของข้าเถอะ”

ลี่เหยาพิจารณารอบข้าง ถามด้วยความแปลกใจ “ที่นี่คือที่ใด”

หานเจวี๋ยอธิบายถึงอาณาเขตเต๋าแห่งที่สองเล็กน้อย ลี่เหยาตะลึงยิ่ง ไม่สามารถรักษากริยาได้อีกต่อไป

นางส่งกระแสจิตออกไป ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม

เมื่อนับรวมนางเข้าไป อาณาเขตเต๋าแห่งที่สองมีเทพมารฟ้าบุพกาลสิบเอ็ดตนแล้ว!

หานเจวี๋ยโบกมืออีกครั้ง ปล่อยเทพมารสุญตาออกมา

ลี่เหยาตะลึงงัน ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในโลกอนธการ มีปราณเทพมารมากมายขวางกั้นระหว่างนางและเทพมารสุญตา จึงไม่สังเกตเห็นกันและกันเลย

เทพมารสุญตาที่เพิ่งถือกำเนิดสนใจใคร่รู้ในทุกสิ่งยิ่งนัก อย่างไรก็ตามเทพมารฟ้าบุพกาลมิใช่วิญญาณสามัญ หลังฟูกฟักสำเร็จก็ได้ครอบครองพรสวรรค์ด้านภาษา ด้วยพรสวรรค์ด้านภาษาชนิดนี้ทำให้สามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตใดก็ได้

หานเจวี๋ยพาพวกเขาเดินออกมานอกอารามเต๋า เรียกเทพมารฟ้าบุพกาลทั้งหมดมารวมตัวกันหน้าอารามเต๋า

เมื่อพวกมู่หรงฉี่ กวนปู้ไป้และเทพมารขุนพลสวรรค์มองเห็นลี่เหยาและเทพมารสุญตา ต่างก็ตื่นเต้นนัก

มีสมาชิกใหม่อีกแล้ว!

หานเจวี๋ยแนะนำทั้งสองฝ่ายเล็กน้อย แล้วให้เหล่าเทพมารฟ้าบุพกาลนั่งลง เขาเริ่มต้นเทศนาธรรม

ฉู่ซื่อเหรินไปอยู่กับวังสวรรค์ได้อย่างไร

จักรพรรดิสวรรค์ตัวดี แอบดึงตัวคนของข้าไปตลอด!

หานเจวี๋ยรู้สึกโล่งใจแล้ว

ฉู่ซื่อเหรินติดตามจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย น่าจะไม่เกิดเรื่องขึ้น

เขารู้จักจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายดี ยอมให้ตัวตาย แต่ไม่มีทางส่งคนของตนไปตายเด็ดขาด

หานทั่วฝึกบำเพ็ญก้าวหน้าเร็วเช่นนี้ ถึงขั้นที่ล้ำหน้าศิษย์สืบทอดของหานเจวี๋ยไปแล้ว จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายมีความดีความชอบมากที่สุด

หานเจวี๋ยไล่อ่านต่อไป

เหล่าสหายต่างมีโชควาสนาเป็นของตัวเอง แต่ก็มีบางส่วนที่โชคร้ายอยู่บ้าง

นับตั้งแต่ผสานรวมกับสื่อหยวนหงเหมิง หวงจุนเทียนใจกล้าขึ้นมาก ออกจากมรรคาสวรรค์อยู่บ่อยครั้ง

แต่ตบะของหวงจุนเทียนก็เพิ่มขึ้นจริงๆ ในเมื่อเขาเลือกเส้นทางเองแล้ว หานเจวี๋ยก็ไม่สนใจจะขัดขวาง

หานเจวี๋ยไล่อ่านลงไปเรื่อยๆ อย่างมีอรรถรสนัก

จากจุดนี้จะเห็นได้ว่าอริยะมหามรรคก็ชอบข่าวซุบซิบเช่นกัน

หลังตรวจดูจดหมายเสร็จ หานเจวี๋ยก็กลับสู่สภาวะบำเพ็ญอีกครั้ง

ต้องพยายามทะลวงขั้นให้ได้สักขั้นก่อนที่มิ่งจะมาโจมตี!

….

ในห้วงมิติสีม่วงทั้งผืน เงาร่างนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้อยู่

ห้วงมิติบิดเบี้ยว เหลือบแสงรุ้งพรายสลับซับซ้อนหลากสีสัน ราวกับมิติมายา

ฉู่ซื่อเหรินจำแลงเป็นพุทธะร่างทอง มีพระธาตุเม็ดหนึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะ ทอแสงสีทองเจิดจ้า เผชิญหน้ากับมารปีศาจที่หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วสารทิศ ทว่าเขาสังหารได้อย่างสบายๆ

ถึงแม้จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดอย่างยิ่ง

ศึกครั้งนี้ดำเนินอย่างต่อเนื่องมากว่าห้าพันปี เข้าจะต้านไว้ไม่อยู่แล้ว

เขาหันไปมอง หานทั่วและโจวฝานยังคงอยู่ในการต่อสู้อันดุเดือด

ใช่แล้ว วังสวรรค์และเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ร่วมมือกันอีกครั้ง ครั้งนี้เจดีย์มรรคายิ่งใหญ่พาศิษย์สำนักซ่อนเร้นจำนวนมากมาด้วย ในบรรดานั้นมีฉินหลิงรวมอยู่ด้วย

ท่วงท่าของฉินหลิงก็สะดุดตาเช่นกัน ถือง้าวเล่มยาว ฟาดฟันสังหาร บุกตะลุยไปไม่หยุดยั้ง

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ