บทที่ 729 มิ่ง ลงมือ! – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 729 มิ่ง ลงมือ! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 729 มิ่ง ลงมือ!
เทพมารสังหารถูกฟันขาดสองท่อน เพิ่งจะฟื้นฟูร่างกายกลับมา จู่ๆ หานทั่วก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง สองปีกห่อหุ้มเขาไว้
โครม!
เทพมารสังหารฉีกกระชากสองปีกของหานทั่วพุ่งตัวออกมา แต่กลับมีโลหิตท่วมตัวแล้ว
หานทั่วแบมือซ้ายออก ทวนวิเศษหมุนวนด้วยความเร็วสูง
เขาปล่อยพลังออกมาจากสองมือ มังกรทองใต้เท้ามุดหายเข้าไปในทวนวิเศษ เงาดำสายหนึ่งพุ่งออกมาจากภายในร่างเขา เหมือนกับร่างจำลองเทพมารของหานเจวี๋ย
เงาดำนี้ก็พุ่งหายเข้าไปในทวนวิเศษเช่นกัน ทันใดนั้นมีคลื่นแสงสีดำแผ่เป็นวงออกมาจากทวนวิเศษอย่างต่อเนื่อง สั่นคลอนค่ายกลคุ้มกันของตำหนักทั้งหมด
“นั่นคืออะไร”
“เทพมารฟ้าบุพกาล!”
“ผิดปกติ เงาดำนั้นมีกลิ่นอายแตกต่างไปจากเขา!”
“หรือว่าในร่างเขายังซุกซ่อนเทพมารฟ้าบุพกาลอีกตนไว้”
“เป็นไปไม่ได้กระมัง เทพมารฟ้าบุพกาลสองตนจะรวมอยู่ในร่างเดียวกันได้อย่างไร”
ผู้ทรงพลังทั้งหลายพูดคุยกัน ส่วนใหญ่ล้วนค่อนข้างตกตะลึง
พลังของหานทั่วอาจจะไม่เข้าตาพวกเขา แต่เทพมารฟ้าบุพกาลคือคุณสมบัติที่เลิศล้ำที่สุดในฟ้าบุพกาล เป็นหนึ่งมิมีสอง
อย่าคิดว่าจะเป็นเหมือนเทพมารฟ้าบุพกาลเหล่านั้นที่มิ่งและวังสวรรค์โจมตีได้ เทพมารฟ้าบุพกาลเหล่านั้นบ้างก็เป็นซากสังขาร บ้างก็เพิ่งฝึกบำเพ็ญได้ไม่นาน เทพมารฟ้าบุพกาลในยุคโบราณเป็นตัวตนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ในฟ้าบุพกาล เพียงแต่เหล่าเทพมารฟ้าบุพกาลล้วนมองเห็นกันและกันเป็นศัตรู ดังนั้นเทพมารฟ้าบุพกาลจึงไม่มีการสนับสนุนเกื้อกูลกัน
หานทั่วเพ่งสี่เนตร แทงทวนวิเศษใส่เทพมารสังหาร ห้วงมิติรอบข้างแตกละเอียดกระจัดกระจาย กลายเป็นความมืดมิด
เทพมารสังหารหลบไม่ทัน ทำได้เพียงใช้พลังวิเศษต้านรับ ทว่าทวนวิเศษกลับแทงทะลุได้
ทวนวิเศษหยุดอยู่ที่แผ่นหลังของเขา เริ่มดูดซับพลังเวทของเขา
เทพมารสังหารราวกับถูกโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นพันธนาการไว้ ไม่สามารถดิ้นรนให้หลุดพ้นได้
“เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าในสังกัดของเจ้าก็มีเทพมารฟ้าบุพกาลด้วย มิน่าเล่าถึงได้มั่นใจปานนั้น”
เสียงของมิ่งดังขึ้น นับตั้งแต่การต่อสู้เปิดฉากขึ้น เขาก็เงียบมาตลอด น้ำเสียงในยามนี้เจือความตกตะลึงอยู่บ้าง แต่ยังคงไร้ซึ่งความตระหนก
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เตรียมรับความพ่ายแพ้หรือยังเล่า”
มิ่งหัวเราะหยัน “พ่ายแพ้อย่างนั้นหรือ บุตรแห่งสวรรค์ของเจ้ากำลังจะตายแล้ว!”
พอเขาพูดจบ เทพมารสังหารพลันคำรามออกมา สั่นสะเทือนแก้วหู
หกแขนของเขาขยับไหวอย่างบ้าคลั่ง ปัดป่ายดิ้นรนให้พ้นจากการปักตรึงของทวนวิเศษ พุ่งเข้าใส่หานทั่วตรงๆ
ทวนวิเศษแทงเข้าใส่อีกครั้ง พุ่งทะลุร่างของเขา แต่เขาไม่สนใจ พุ่งเข้าใส่หานทั่วเสมือนบ้าคลั่งไปแล้ว
หานทั่วโบกมือขวา เศษซากแตกละเอียดทั้งหมดของห้วงมิติที่ปลิวว่อนอยู่ทั่วฟ้ากลายเป็นเงากระบี่ พุ่งเข้าใส่เทพมารสังหาร
พลังวิเศษมหามรรค หมื่นกระบี่ก่อกำเนิด!
ร่างของเทพมารสังหารถูกฟันจนแหลกเละในชั่วพริบตาเดียว แต่ก็ก่อร่างขึ้นมาใหม่ในทันที เลือดลมแกร่งกล้ายิ่งขึ้น พุ่งมาถึงตรงหน้าหานทั่วอย่างรวดเร็ว เตะต่อยโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เร็วกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
สังขารของหานทั่วแหลกสลาย ดวงวิญญาณหลบหนีไป ก่อนก่อสังขารขึ้นอีกครั้ง ไอดำสายแล้วสายเล่าโผล่ขึ้นมากลางอากาศห้อมล้อมรอบกายเขา มัดตรึงเขาไว้อย่างรวดเร็ว
ร่างของเขากลายสภาพเป็นหินอย่างรวดเร็ว มีเพียงดวงตาทั้งสี่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ
เทพมารสังหารกระโดดขึ้นมากลางอากาศแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม เอ่ยว่า “เจ้าคิดว่าข้าใช้พลังวิเศษไม่เป็นจริงๆ น่ะหรือ แค่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ก็เท่านั้น!
“ผู้เยาว์เอ๋ย เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ คุณสมบัติน่าพรั่นพรึง แต่น่าเสียดายบังเอิญพบข้าเร็วเกินไป แต่เจ้าวางใจเถอะ หลังจากข้ากินเจ้าเข้าไปแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปสร้างชื่อเสียงก้องฟ้าบุพกาลด้วยกัน อยู่เหนือเทพมารฟ้าบุพกาลทั้งปวง!”
ศีรษะทั้งสามของเทพมารสังหารล้วนอ้าออกกว้าง เข้ามาตรงหน้าหานทั่ว ยกหานทั่วขึ้นสูง เริ่มกลืนกินจากปลายเท้า กัดกินจนเศษหินกระจาย
ฉากนี้กระตุ้นอารมณ์ของเหล่าทหารสวรรค์นับร้อยล้านคน แต่ละคนนัยน์ตาแดงก่ำ อยากพุ่งออกไปในทันใดใจแทบขาด
ขณะที่โจวฝานกำลังจะลงมือ กลับถูกจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายรั้งข้อมือไว้
เขาหันไปมองจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายด้วยความโกรธ
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายมีสีหน้าสงบราบเรียบ
ในเวลานี้เอง!
หานทั่วที่กลายเป็นหินไปแล้วพลันแหลกเป็นผุยผง ดวงเนตรทั้งสี่ที่เหลืออยู่ลอยขึ้นมา หนีห่างจากเทพมารสังหาร
หานทั่วรับรู้ถึงอันตรายได้โดยสัญชาตญาณ เขาหันหลังกลับไปคว้าทวนตามจิตใต้สำนึก ผลคือถูกพลังที่มองไม่เห็นสลายเงาดำไป เหลือเพียงตาสี่ข้างลอยอยู่ในอากาศ
มิ่ง ลงมือแล้ว!
ในเวลาเดียวกันนี้ อริยะมหามรรคแต่ละคน ก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นตามมุมต่างๆ ของวังสวรรค์ ต่างยกมือสำแดงพลัง ระเบิดพลังเวทออกมา ปกคลุมทั่วทั้งวังสวรรค์ไว้
ตี้เจียงหัวหน้าเผ่าจอมเวทแค่นเสียง “มิ่ง ยังไม่รีบเผยตัวอีก!”
เทพสูงสุดหยวนสื่อที่ว่างเปล่าไร้กลิ่นอายถือแส้ปัดธุลีไว้ในมือ เอ่ยถากถางว่า “นี่น่ะหรือมิ่งผู้ชอบพนันขันต่อ พอแพ้ก็จะทำลายกติกาอย่างนั้นหรือ ทำตัวน่าขายหน้าจริงๆ ด้วยกำลังของพวกเจ้า คู่ควรจะปกครองฟ้าบุพกาลหรือ ”
“ฮ่าๆ ถูกต้อง!”
“ข้าว่ามิ่งก็คงไม่มีฝีมือเท่าไร เป็นคนถ่อยที่ชอบหลบหัวซุกหางเท่านั้น”
“ดูสิว่าเขาจะกล้าเผยตัวหรือไม่”
“ก่อนหน้านี้เหิมเกริมถึงเพียงนั้น สุดท้ายกลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ น่าขันนัก”
“พวกเรามาเดิมพันกันดีกว่าว่าท่านมิ่งผู้นี้จะร้องขอความเมตตาหรือไม่”
เหล่าอริยะมหามรรคพากันส่งเสียเยาะเย้ยถากถาง เสียงหัวเราะของพวกเขาดังก้องไปทั่ววังสวรรค์ เมื่อเทียบกับเสียงของมิ่งก่อนหน้านี้แล้ว ฟังดูโอหังคลุ้มคลั่งกว่ามากนัก
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายโบกมือ เคลื่อนย้ายหานทั่วมาอยู่ข้างกาย คนอื่นๆ พากันกระจายตัวตั้งแถว โอบล้อมหานทั่วไว้
หานทั่วฟื้นฟูสังขารกลับมาแล้ว สีหน้าซีดขาว ลมหายใจอ่อนระโหย
จักรพรรดิสวรรค์มองเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าทำได้ดีมาก ไม่ทำให้เราต้องขายหน้า”
คนอื่นๆ ก็เอ่ยชื่นชมหานทั่วเช่นกัน
พลังวิเศษคู่ชีพที่หานทั่วสำแดงออกมาแข็งแกร่งจริงๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเทพมารสังหารไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านขัดขืนเลยสักนิด
ครืนๆ….
เหนือวังสวรรค์ ขอบฟ้าที่พังทลายพลันมีเมฆสายฟ้าเคลื่อนมารวมตัวกัน เมฆดำทะมึนมากมายนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากรอยแตกร้าวของห้วงมิติ ซ้ำยังมีสายฟ้าและเพลิงสวรรค์แทรกซึมอยู่ ราวกับวันสิ้นโลกมาเยือนแล้ว
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...