อ่านสรุป บทที่ 731 วังสวรรค์เงียบสงัด! จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 731 วังสวรรค์เงียบสงัด! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 731 วังสวรรค์เงียบสงัด!
ภายในอารามเต๋า หานเจวี๋ยทำกายบริหารไปหลายสิบรอบแล้ว ซ้ำยังตรวจดูจดหมายไปแล้วด้วย
ทำไมยังไม่เรียกตัวข้าอีกนะ!
หานเจวี๋ยกำสองมือแน่น หงุดหงิดอยู่ในใจ
จักรพรรดิสวรรค์ตัวร้าย
ถ้าเรียกหาเขากะทันหันยังพอว่า อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถรักษาความตื่นตัวในระดับสูงไว้ได้ ไปจัดการศัตรูแล้วหนีกลับเลย
ตอนนี้กลับดีนัก มาแจ้งให้เขารู้ล่วงหน้า ทำให้เขาสงบใจฝึกบำเพ็ญไม่ได้
ขณะที่หานเจวี๋ยบ่นอยู่ในใจ ทันใดนั้นคลื่นวนสีดำพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
หานเจวี๋ยตื่นเต้นขึ้นมาทันที
มาแล้ว!
หานเจวี๋ยเปิดใช้งานสมบัติวิเศษทั่วร่าง เตรียมพร้อมออกศึกได้ทุกเมื่อ
เขาสูดหายใจลึกๆ กระโดดเข้าไปในคลื่นวนสีดำ
….
ณ วังสวรรค์
หน้าตำหนักหลังหนึ่ง
หานทั่วมองคลื่นวนสีดำตรงหน้า อดตกตะลึงไม่ได้
วิชานี้มิใช่ว่า…
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายร่ายวิชาอัญเชิญเทพเป็นครั้งแรก รู้สึกประหม่าอยู่บ้าง กลัวว่าจะทำไม่สำเร็จ
จากสถานการณ์ตอนนี้ หากหานเจวี๋ยไม่มา มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะถูกจัดการกันหมด
ตอนนี้เหล่าอริยะมหามรรคยังคงดิ้นรนอยู่ มิ่งจึงยังไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พวกเขา จึงยังพอจะคิดหาทางหลบเลี่ยงพลังอันธการได้ รอจนเหล่าอริยะมหามรรคถูกสะกดควบคุมไว้หมดแล้ว ย่อมถึงคราวของพวกเขา!
เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในคลื่นวนสีดำ ค่อยๆ ก้าวออกมา
เป็นหานเจวี๋ย!
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของหานเจวี๋ย จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ท่านพ่อ…”
หานทั่วมองหานเจวี๋ยด้วยความตื่นเต้น ทว่าหานเจวี๋ยไม่ได้สนใจเขา กำลังตรวจสอบหายอดฝีมือในบริเวณรอบข้างอย่างบ้าคลั่ง
เทพสูงสุดหยวนสื่อ เจ้าแม่หนี่ว์วา โพธิสัตว์เจียอิ๋น ฝูซีเทียน จักรพรรดินีผืนพิภพ…
มีคนคุ้นเคยมากมายนัก!
คงมิใช่ว่าคนเหล่านี้รวมหัวกันมารุมโจมตีข้ากระมัง
หานเจวี๋ยพลันประหม่าขึ้นมา
ไม่นานนัก เขาก็มองเห็นแจ้งเตือนแถวหนึ่ง
[มิ่ง: ระดับมหามรรคเบิกฟ้าระยะปลาย ไม่ทราบประวัติความเป็นมา]
หานเจวี๋ยให้ระบบจับพิกัดของมิ่ง
หาใช่เงาร่างยักษ์ใหญ่หมื่นพันกรตนนั้นไม่ แต่กลับอยู่ในซอกมุมหนึ่ง
หืม
สายตาของหานเจวี๋ยมองไปที่เทพมารสังหาร
นับตั้งแต่มิ่งปรากฏตัวขึ้น ความสนใจของทุกคนล้วนจดจ่ออยู่ที่มิ่งหรือไม่ก็พลังอันธการรอบข้าง ส่วนเทพมารสังหารกลับหลุดจากความสนใจของทุกคนไป
ตอนนี้เทพมารสังหารกำลังนั่งสมาธิฟื้นตัวอยู่ที่ชายขอบของวังสวรรค์
เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาหานเจวี๋ย เทพมารสังหารเงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ
ดวงตาสองคู่ประสานกัน!
เทพมารสังหารพลันใจสั่นขึ้นมา
คนผู้นี้เป็นใครกัน
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ทันทีที่เห็นหานเจวี๋ย เขาก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ราวกับเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ
เทพมารสังหารแสร้งไม่สะทกสะท้าน
หานเจวี๋ยถอนสายตากลับมา มองไปทางหานทั่วพลางถามว่า “เจ้าไม่เป็นไรกระมัง”
“ไม่เป็นไรขอรับ”
หานทั่วฝืนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม วิญญาณเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก คาดว่าต้องใช้เวลาพักฟื้นสักระยะหนึ่ง
“อาจารย์!”
โจวฝานร้องเรียกด้วยความตื่นเต้นยินดี ทำให้พวกฉู่ซื่อเหรินหันไปมองตาม
มิใช่แค่พวกเขาเท่านั้น คนอื่นๆ ก็มองไปที่หานเจวี๋ยเช่นกัน
“นั่นคือบิดาของหานทั่วหรือ” อี๋เทียนตกตะลึงกับรูปโฉมของหานเจวี๋ย
มิน่าเล่าหานทั่วถึงได้หล่อเหลาเช่นนี้…
ฉินหลิงเบิกตากว้าง สีหน้าเหมือนเห็นผี
เขานึกว่าได้เห็นอาจารย์ปู่หานอวี้
ไม่สิ!
คนผู้นี้หล่อเหลากว่าอาจารย์ปู่ของเขาเสียอีก!
หานเจวี๋ยทักทายสอบถามหานทั่วและจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายไปพลาง สังเกตพลังอันธการที่อยู่รอบข้างไปพลาง
ทันทีที่เขามาถึงที่นี่ก็พบว่าพลังอันธการนั้นไม่ธรรมดาเลย
พลังอันธการคล้ายคลึงกับปราณอนธการอยู่เล็กน้อย…
โลกอนธการที่อยู่ในส่วนลึกในวิญญาณของเขาเต็มไปด้วยปราณอนธการ ซึ่งขัดแย้งต่อต้านกับปราณฟ้าบุพกาลที่เกิดจากปฐมศิลาฟ้าบุพกาล แต่ถึงอย่างไรก็เป็นของเขาทั้งคู่ ดังนั้นจึงไม่ได้เกิดการปะทะกัน
พลังอันธการที่คล้ายคลึงกับปราณอนธการกำลังกลืนกินห้วงมิติฟ้าบุพกาลอย่างบ้าคลั่ง!
พลังอันธการที่อยู่บนร่างเทพมารสังหารนั้นเข้มข้นที่สุด
หานเจวี๋ยต้องคิดหาทางสังหารเทพมารสังหารให้ได้ในเสี้ยววินาที
ตอนนี้เขาจงใจทำให้เทพมารสังหารตายใจก่อน กำลังใคร่ครวญอยู่ว่าจะลงมืออย่างไร
บ้างก็ตื่นตะลึง บ้างก็ขมวดคิ้ว บ้างก็ดีใจ อารมณ์แตกต่างกันไป
เงาร่างใหญ่ยักษ์สูงหมื่นจั้งของมิ่งจ้องมองหานเจวี๋ยด้วยความโกรธ ตะคอกว่า “บังอาจ!”
แขนมากมายนับไม่ถ้วนบนร่างของเขาซัดเข้าใส่หานเจวี๋ย บดฟ้าบังตะวัน เสียงดังกัมปนาท
เงาดำร่างหนึ่งผุดออกมาจากร่างของหานเจวี๋ย เหมือนยักษ์ที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมา กำหมัดชกเข้าใส่เงาร่างใหญ่ยักษ์สูงหมื่นจั้ง
เทพมารขุนพลสวรรค์!
หมัดหนักทรงพลังชกแหวกอากาศ ตรงเข้าทำลายล้างทุกสิ่ง!
แขนของเงาร่างใหญ่ยักษ์สูงหมื่นจั้งสลายเป็นเถ้าธุลีปลิดปลิวไป จากนั้นร่างก็พังทลายตามไปด้วย
หานเจวี๋ยยกมือซ้ายขึ้น ดูดดึงดวงวิญญาณที่อยู่เบื้องหน้าเข้าสู่ฝ่ามือ
เป็นมิ่ง!
ส่วนวิญญาณของเทพมารสังหาร ถูกดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพทำลายไปแล้ว หากมิใช่เพราะหานเจวี๋ยตั้งใจจะเก็บมิ่งไว้ มิ่งก็ต้องตายเช่นกัน!
หานเจวี๋ยลงมือไปเพียงสองครั้ง วังสวรรค์พลันเงียบสงัดขึ้นมาในทันใด
อี๋เทียนเบิกตากว้าง มองท้องนภาที่ปั่นป่วนเละเทะไปหมด ก่อนพึมพำออกมา “แค่นี้ก็จบแล้วหรือ”
เหล่าอริยะมหามรรคล้วนเงียบงันพูดไม่ออกเช่นกัน ตกตะลึงกันอย่างยิ่ง
ในเวลาเดียวกันนี้
สือตู๋เต้าที่อยู่ในสระน้ำลึกลับปรบมือขึ้นมาในทันใด หัวเราะดังลั่นพลางเอ่ยว่า “ข้ารู้แล้ว! ข้าก็ว่าแล้วเชียว!”
เขาจ้องมองหานเจวี๋ยที่อยู่ในจอแสงเขม็ง
เจ้าคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจริงๆ ด้วย!
หลี่เต้าคงก็ตื่นเต้นยินดีเช่นกัน แต่เขาก็ฉงนยิ่งนัก เจ้าก็เป็นคนสำนักซ่อนเร้นหรืออย่างไร
เจ้ารู้อะไร
….
“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่”
วิญญาณของมิ่งอยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์ หน้าตาดูธรรมดาสามัญยิ่ง รูปร่างก็ไม่นับว่าแข็งแกร่งกำยำ
เขาจ้องมองหานเจวี๋ยด้วยความตระหนกโกรธเกรี้ยว เขาคิดไม่ออกเลยว่าเหตุใดพลังอันธการถึงถูกกำจัดไปง่ายๆ เช่นนี้
หานเจวี๋ยไม่สนใจเขา กำวิญญาณเขาไว้ด้วยมือเดียว กลับไปอยู่เบื้องหน้าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย
“ท่านจะเก็บเขาไว้ หรือจะให้ข้าพาตัวไป” หานเจวี๋ยถาม
นี่เป็นข้อตกลงที่พวกเขาคุยกันไว้กันแล้ว เก็บชีวิตมิ่งไว้ สืบข้อมูลให้มากขึ้น
ขณะที่จักรพรรดิสวรรค์กำลังจะอ้าปากพูด จู่ๆ มิ่งก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งพลางเอ่ยว่า “พวกเจ้าคิดว่าจะจบลงเท่านี้เช่นนั้นหรือ มิ่งมิได้มีเพียงข้า!”
“ออกมาเถอะ!”
“ข้าต้องการให้พวกเขาตาย!”
“ข้าต้องการสังหารพวกเขาทั้งหมดให้ตาย!”
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...