บทที่ 733 ดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวัง
รอจนกระทั่งทัศนวิสัยของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายและพวกหานทั่วกลับมาเป็นปกติ พวกเขาก็มองไม่เห็นร่างจำลองเทพมารหลายสิบร่างที่อยู่เหนือศีรษะหานเจวี๋ยแล้ว แต่พวกเขามองเห็นไอดำกลุ่มหนึ่งอยู่ในมือของหานเจวี๋ย
ส่วนมิ่งทั้งสิบสาม หายไปหมดแล้ว แม้แต่เถ้าธุลีก็ไม่มีหลงเหลืออยู่!
“เจ้าเป็นใครกันแน่”
ไอดำที่อยู่ในมือหานเจวี๋ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
ต่อให้มิ่งทั้งสิบสามจะขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็มีตบะระดับมหามรรคเชียวนะ!
จะถูกกำจัดทิ้งในชั่วลมหายใจเดียวได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้!
คนผู้นี้ต้องอยู่เหนือกว่าอริยะมหามรรคแน่นอน!
หานเจวี๋ยคร้านจะพูดไร้สาระ สำแดงมหามรรคพันธนาการ มหามรรคเล่ห์ลวงและมหามรรคห้วงมิติเพื่อสะกดไอดำ จากนั้นก็เก็บไว้ในโลกอนธการของตน
เขาหันหลังเตรียมล่าถอย
ในเวลาเดียวกันนี้ อริยะมหามรรคที่เหลือทยอยได้สติขึ้นมา
พวกเขามองไปรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง พบว่าไม่เห็นเงาร่างของมิ่งแล้ว น่าตื่นตะลึงยิ่งนัก
“สหายเต๋าทุกท่านก็เผชิญกับทักษะอันธการของมิ่งด้วยกระมัง”
“ถูกต้อง แต่จู่ๆ ก็ขาดหายไปเลย เกิดอะไรขึ้น”
“มิ่งล่าถอยไปแล้วหรือ”
“พลังวิเศษเหล่านั้นอันตรายเหลือเกิน พวกเราต้องประเมินความสามารถของมิ่งกันใหม่”
“ต่อสู้ตามลำพังกับมิ่งทั้งสิบสาม จะเอาชนะได้อย่างไร โชคดีที่พวกเขาล่าถอยไปแล้ว”
เหล่าอริยะพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ส่วนใหญ่ล้วนยังคงหวาดหวั่นอยู่ในใจ
ทหารสวรรค์หลายสิบล้านนายรวมถึงศิษย์ในสังกัดของพวกเขาต่างมองหน้ากันเหลอหลา พวกเขาอยากจะพูดความจริงออกมายิ่งนัก แต่ก็เกรงว่าจะล่วงเกินอริยะมหามรรคเข้าอีก
มิ่งล่าถอยไปเสียที่ไหนกันเล่า!
มิ่งทั้งสิบสามล้วนถูกกำจัดหมดแล้ว!
ฉากที่หานเจวี๋ยสำแดงร่างจำลองเทพมารหลายสิบร่างออกมานั้น จะประทับอยู่ในสมองของพวกเขาไปอีกเนิ่นนานอย่างไม่สามารถลบเลือนได้
น่าตื่นตะลึงเหลือเกิน!
หานเจวี๋ยมาถึงเบื้องหน้าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายในทันใด เดินตรงไปสู่คลื่นวนสีดำ
เขาเอ่ยทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง “ที่เหลือขอฝากพวกเจ้าด้วย”
ในเวลานี้เอง!
กลิ่นอายอันตรายถึงขีดสุดประการหนึ่งรุกรานเข้ามาจากส่วนลึกของห้วงมิติ รวดเร็วยิ่งนักจริงๆ!
หากว่าหานเจวี๋ยกระโจนเข้าสู่คลื่นวนสีดำโดยตรง คลื่นวนสีดำอาจจะหดตัวลงไม่ทันเวลา และถูกอีกฝ่ายไล่ตามเข้าไปได้
ไม่ได้การแล้ว!
ในชั่วพริบตานั้น หานเจวี๋ยนึกถึงความเป็นไปได้มากมายนับไม่ถ้วน เขาเลือกทางที่ที่ถูกต้องซื่อตรงที่สุด
เขาเรียกร่างจำลองเทพมารหลายต่อหลายร่างออกมา ทั้งหมดต่างโผทะยานออกไปทางด้านหลัง
นอกจากอริยะมหามรรคแล้ว ทุกคนที่เหลือล้วนตอบสนองไม่ทัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป!
ยามนี้เวลาเชื่องช้าลงหลายพันล้านเท่า จากนั้นจึงมองเห็นการปะทะกันระหว่างหานเจวี๋ยและผู้รุกรานลึกลับ
เทพมารร่างใหญ่มหึมาแต่ละร่างถูกลำแสงน่าพรั่นพรึงสายหนึ่งเจาะทะลวง วอดวายลงทันที
เมื่อทำลายร่างจำลองเทพมารไปถึงสิบห้าร่าง ลำแสงอันน่าพรั่นพรึงนี้ถึงได้สลายไป
เดิมทีหานเจวี๋ยคิดจะหลบหนีไปเลย แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย หานทั่ว โจวฝานและพวกฉู่ซื่อเหรินขึ้นมา
อีกฝ่ายแข็งแกร่งยิ่งกว่ามิ่ง แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดที่จะทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังได้
หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบรอบข้างทันที
[ดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวัง: ระดับมหามรรคเบิกฟ้าระยะสมบูรณ์ ดวงจิตมหามรรค]
เป็นเขา!
ครั้งนั้นยามที่หานเจวี๋ยพิสูจน์มหามรรค คิดจะก้าวเข้าสู่ประตูแห่งมหามรรค ตอนนั้นดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังมาขัดขวางเขา ข่มขู่ให้เขายอมสยบต่อจอมเทวาฟ้าบุพกาล
ไม่นึกเลยว่าเจ้าสิ่งนี้จะกล้ามาโจมตีในเวลานี้!
แต่เจ้าสิ่งนี้เป็นแค่มหามรรคเบิกฟ้าระยะสมบูรณ์เท่านั้น มิใช่ยอดมหามรรค
“จอมเทพ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร”
เสียงของโพธิสัตว์เจียอิ๋นพลันแว่วขึ้น
ดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังดังตามมาว่า “หึ คนผู้นี้ฝ่าฝืนระเบียบแห่งมหามรรค ข้ามาเพื่อกำจัดเขา!”
ตี้เจียงเอ่ยเสียงขรึม “เช่นนั้นเหตุใดก่อนหน้านี้ถึงไม่ออกมากำจัดมิ่ง มิ่งประกาศกร้าวว่าจะล้มล้างฟ้าบุพกาล เหตุใดดวงจิตมหามรรคผู้สูงส่งอย่างท่านถึงไม่ทำอันใดเลยเล่า”
เหล่าอริยะมหามรรคก็เอ่ยตามกันขึ้นมาว่า
“ใช่แล้ว จอมเทพ กำจัดมิ่งก่อนเถิด”
“มิ่งมิได้มีเพียงคนเดียว ต้องการวางแผนปลุกปั่นฟ้าบุพกาลให้วุ่นวาย เมื่อครู่นี้คนผู้นี้ร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเรา ไม่สมควรสังหารเขาจริงๆ”
“ถูกต้อง จอมเทพ ยามมาท่านไม่พบมิ่งบ้างหรือ”
“เหตุใดดวงจิตมหามรรคถึงไม่ให้ความร่วมมือในการกำจัดมิ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...