บทที่ 734 ความร้อนใจของหานเจวี๋ย
‘หากข้าสังหารดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวัง จะกระตุ้นโทสะของจอมเทวาฟ้าบุพกาลหรือไม่’
หานเจวี๋ยถามในใจ เขายังไม่ถูกจิตสังหารครอบงำสมอง
หากผลีผลามไปในชั่วขณะ แล้วชักนำภัยถึงชีวิตที่ใหญ่หลวงกว่าเข้ามา เช่นนั้นถึงไม่ดี
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ไม่]
หานเจวี๋ยอดโล่งใจไม่ได้
ช้าก่อน
หรือว่าจอมเทวาฟ้าบุพกาลจะไม่ได้สนใจดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังเลย แต่เจ้าสิ่งนี้ทำตัวเป็นจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ
‘ทำอย่างไรถึงจะไปกระตุ้นโทสะจอมเทวาฟ้าบุพกาลเข้า’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ขอเพียงมีอันตรายคุกคามฟ้าบุพกาล จอมเทวาฟ้าบุพกาลถึงจะลงมือด้วยความพิโรธ]
อันตรายคุกคามฟ้าบุพกาล
เห…
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงทำสิ่งใดเล่า
หานเจวี๋ยอดนึกถึงปรมาจารย์ลัญจกรสรวงที่ถูกเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลจองจำ ปรมาจารย์ก็ดูเป็นคนดียิ่งนัก
กำจัดดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังก่อน แล้วค่อยกลับมาทำนายเรื่องปรมาจารย์ลัญจกรสรวงอีกที
หานเจวี๋ยเข้าฝันจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายทันที
ในแดนความฝัน
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเพิ่งลืมตาขึ้น หานเจวี๋ยก็เอ่ยว่า “อัญเชิญข้า!”
จากนั้นก็สิ้นสุดแดนความฝัน
ในห้วงมิติแห่งเดิม จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วแน่น
สิ่งมีชีวิตของเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่และวังสวรรค์รวมตัวกันอยู่รอบๆ ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเกราะป้องกันขนาดใหญ่ยักษ์ลูกหนึ่ง เหล่าอริยะมหามรรคกำลังปิดล้อมโจมตีเงาร่างหนึ่งที่มีไอดำพัวพันกาย
เงาร่างนั้นแข็งแกร่งกำยำ มองไม่เห็นเนื้อหนัง ทว่ามองเห็นชุดเกราะที่ส่องประกายเยียบเย็นอยู่รางๆ บนหน้าเขาสวมหน้ากากทองสัมฤทธิ์ไว้ ดูคล้ายปีศาจวัว แต่ก็ดูดุร้ายเยี่ยงหมาป่า
“เป็นอะไรไป”
โจวฝานสังเกตเห็นความผิดปกติของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย อดถามขึ้นมาไม่ได้
การต่อสู้ดำเนินมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แม้จะมีเหล่าอริยะมหามรรคคอยช่วยเหลือ แต่พวกเขายังคงได้รับความเสียหายจากการต่อสู้อยู่ดี
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายไม่ได้เอ่ยต่อ เขายังคงลังเลอยู่
จะอัญเชิญหานเจวี๋ยดีหรือไม่
ตอนนั้นหานเจวี๋ยตกใจจนเตลิดหนีไป กลับมาในเวลานี้ยังไม่แข็งแกร่งขึ้นแน่นอน เวลาเพิ่งผ่านไปไม่เท่าไร น่าจะทนเห็นพวกเขาได้รับอันตรายไม่ไหว ถึงได้อยากกลับมา
พลังของดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังแข็งแกร่งกว่ามิ่งมากนัก แม้จะเผชิญหน้ากับอริยะมหามรรคยี่สิบสามราย ก็ยังรับมือได้สบายๆ
อีกด้านหนึ่ง
หานเจวี๋ยรอมาสักพักแล้ว ยังคงไม่ได้รับการอัญเชิญ
เขานึกว่าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายประสบเหตุ จึงรีบเข้าฝันโจวฝาน ให้โจวฝานใช้วิชาอัญเชิญ
หลังตื่นจากฝัน โจวฝานเริ่มดำเนินการร่ายวิชาอัญเชิญเทพทันที
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสังเกตเห็นการกระทำของเค้า เดาได้ทันทีว่าเขาจะทำอะไร จึงรีบห้ามไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อีกฝ่ายพุ่งเป้าไปที่อาจารย์ของเจ้า หากอาจารย์ของเจ้ามา ต้องกลายเป็นเป้าหมายของอีกฝ่ายแน่ หากเขาไม่มา ดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังต่อสู้กับอริยะมหามรรคสักพักก็คงแยกย้ายไป”
โจวฝานได้ฟัง ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
ถึงอย่างไรดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังก็เป็นดวงจิตมหามรรค ส่วนเหล่าอริยะมหามรรคแต่ละคนล้วนเป็นตัวตนที่อยู่เหนือกว่าสรรพสิ่ง จะถูกสังหารทิ้งง่ายๆ ได้อย่างไร
โจวฝานอยู่ในฟ้าบุพกาลเป็นระยะเวลายาวนานยิ่ง นอกจากพวกมิ่งที่บ้าคลั่งแล้ว ยามที่ผู้ทรงพลังประมือกัน มักจะไม่กลายเป็นศึกที่ถึงความเป็นความตาย ยิ่งตบะสูงเท่าไรก็ยิ่งใส่ใจศักดิ์ศรีหน้าตามากเท่านั้น การต่อสู้เบื้องหน้าก็เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีเท่านั้น
ดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวังสังหารหานเจวี๋ยไม่ได้ ถูกเล่าอริยะมหามรรคยั่วโทสะ จึงรู้สึกเสียหน้า
ส่วนเหล่าอริยะมหามรรคก็รู้สึกคับข้องใจมานานแล้ว หลังจากด่าทอยั่วโทสะ ย่อมไม่มีทางยอมก้มหัวให้ สุดท้ายแล้ว ก็เป็นเพียงศึกแห่งศักดิ์ศรีเท่านั้น
โจวฝานนึกสงสัยอย่างเป็นจริงเป็นจังว่า หลังจบศึกนี้แล้วคนเหล่านี้จะกลับมาพูดคุยยิ้มแย้มกันอีกครั้ง
ก็เหมือนจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายกับเหล่าอริยะมหามรรค ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องบาดหมางกัน
หานเจวี๋ยก็นับเคยมีเรื่องกับเหล่าอริยะมหามรรคเช่นกัน ผลคือช่วงก่อนหน้านี้เหล่าอริยะมหามรรคช่วยออกหน้าให้เขา ทำราวกับหานเจวี๋ยเป็นสหายรักของพวกเขาก็มิปาน
หลังจากคิดกระจ่างแล้ว โจวฝานก็ล้มเลิกความคิดที่จะร่ายวิชาอัญเชิญเทพ
….
ภายในอารามเต๋า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...