ในใจเขาคิดว่าหากใช้โอกาสนี้กุมสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนไว้ในกำมือ เช่นนั้นยามที่สำนักสวรรค์เพลิงโลหิตบุกโจมตีแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนคงง่ายดายดั่งล้วงของออกจากกระเป๋า
ก่อนที่จะแอบเข้ามาในสำนักหยกพิสุทธิ์นั้น นักพรตเต๋าชิงเสียนก็ไม่ได้ใส่ใจสำนักหยกพิสุทธิ์นัก แต่เพื่อกระทำการอย่างไม่ประมาท เช่นนั้นเขาจึงซ่อนตัวอยู่ระยะหนึ่ง
ในแดนบำเพ็ญพรต ความประมาทมักเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรงที่สุดของนักบำเพ็ญ
หลังจากสืบสาวข้อมูลภายในของสำนักหยกพิสุทธิ์อย่างแน่ชัดแล้ว นักพรตเต๋าชิงเสียนก็วางใจ
เขารู้สึกว่าสำนักเช่นนี้ไม่มีทางที่จะมีผู้ปกครองที่สูงส่งเช่นเขาอาศัยอยู่
แล้วเหตุใดนักพรตเต๋าจิ่วติ่งถึงได้ไม่ยอมอยู่ที่สำนักหยกพิสุทธิ์
ก็อาจจะเป็นเพราะว่าหากยังรั้งอยู่ที่สำนักหยกพิสุทธิ์ การฝึกบำเพ็ญของเขาคงไม่มีทางก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้!
นักพรตเต๋าชิงเสียนครุ่นคิดไปพลางห้อทะยานไปยังเขาเพียรบำเพ็ญเซียน
ขณะที่มองเห็นยอดเขาที่มีพลังวิญญาณสูงเสียดฟ้าจากที่ไกลๆ นั้น เขาพลันเริ่มรู้สึกกังวลใจขึ้นบ้าง
นักพรตเต๋าชิงเสียนหยุดนิ่งกลางอากาศในทันที คิ้วขมวดแน่นเป็นปม
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
นักพรตเต๋าชิงเสียนแอบคิดอย่างตื่นตระหนก
เดินทางในแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนมานานหลายปีเพียงนี้ เขาก็เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนเองมากกว่าสิ่งไหน
นี่ก็คือกลิ่นอายของพลังวิญญาณที่ต้องผ่านความยากลำบากในการฝึกฝนมานับไม่ถ้วนจึงจะหล่อหลอมออกมาได้
คิดไม่ถึงว่าเขาเพียรบำเพ็ญเซียนจะทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความอันตราย
หรือว่าผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์จะไม่ธรรมดาจริงๆ?
แต่พิจารณาตามหลักเหตุผลทั่วไป ต่อให้แข็งแกร่งมากกว่านี้เพียงใดก็ไม่มีทางที่แข็งแกร่งไปได้ถึงไหน
หรือนี่จะไม่ใช่เหตุผลทั่วไป?
นักพรตเต๋าชิงเสียนครุ่นคิดอยู่สักพัก นิ้วมือขวาดีดสะบัด พุ่งจิตสายหนึ่งออกไป
เช่นนี้ถึงแม้ว่าเขาจะตาย ก็สามารถเกิดใหม่ได้อีกครั้ง!
นักพรตเต๋าชิงเสียนปรับสภาพจิตใจแล้ว ก็รีบเร่งเดินทางไปเขาเพียรบำเพ็ญเซียนต่อ
ยิ่งเข้าใกล้เขาเพียรบำเพ็ญเซียนเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกกังวลใจมากขึ้นเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ
ผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์แท้จริงแล้วเป็นสัตว์ประหลาดประเภทใดกันแน่
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
ณ เขาเพียรบำเพ็ญเซียน หานเจวี๋ยยืนรอคอยอย่างสงบนิ่งอยู่บนขอบหน้าผา
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังของนักพรตเต๋าชิงเสียนที่ใกล้เข้ามา อดนึกสนุกขึ้นมาไม่ได้
เขากำลังกังวลอยู่ว่าจะจัดการกับคนผู้นี้อย่างไร กลับคิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะมาหาถึงที่
สายลมเย็นพัดพาอาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทองของหานเจวี๋ยให้ปลิวไสว ภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณที่ผูกอยู่กับมงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์โบกสะบัดตามแรงลม ทั่วทั้งร่างของเขาแฝงไว้ด้วยความสูงศักดิ์ดุจเทพเซียน
นักพรตเต๋าชิงเสียนก็มองเห็นเขาจากที่ไกลๆ แล้ว
ชายหนุ่มผู้นี้ช่างสง่างามยิ่งนัก!
แต่เขาเพิ่งจะมีตบะระดับสร้างฐานขั้นเก้า หรือว่าจะเป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสสังหารเทพ?
นักพรตเต๋าชิงเสียนครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
ตบะของหานเจวี๋ยถูกระบบเก็บซ่อนไว้ แม้แต่นักพรตเต๋าชิงเสียนที่อยู่ระดับสุญตาก็ไม่สามารถมองทะลุได้
นักพรตเต๋าชิงเสียนเหาะทะยานไปยังเขาเพียรบำเพ็ญเซียน มือขวาของเขาร่ายวิชาพุ่งออกไปข้างหน้า ค่ายกลใหญ่ที่ป้องกันภูเขาก็พลันเกิดรอยแยกแหวกอย่างเงียบ ๆ เขาเดินผ่านรอยแยกนั้นเข้ามา
นักพรตเต๋าชิงเสียนทะยานลงข้างกายหานเจวี๋ย เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสสังหารเทพอยู่ที่นี่หรือไม่”
กายหยาบดีๆ เช่นนี้ เก็บไว้ดีหรือไม่ เผื่อภายภาคหน้าจำเป็นต้องใช้ประโยชน์
นักพรตเต๋าชิงเสียนคิดอย่างเงียบๆ
[นักพรตชิงเสียนเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 2 ดาว]
เมื่อมองข้อความแจ้งเตือนที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า หานเจวี๋ยถึงกับพูดไม่ออก
พวกเห็นความงามละทิ้งปณิธานอีกแล้วหรือ
หานเจวี๋ยพลิกมือขวาเพียงครั้ง หยิบกระบี่พิพากษาอนธการออกมา
เมื่อเห็นกระบี่พิพากษาอนธการแล้ว นักพรตเต๋าชิงเสียนดวงตาเบิกโพลง
กระบี่เล่มนี้…
ช้าก่อน!
ร่างนี้ของเขา… ดูเหมือนจะเป็นสมบัติวิญญาณทั้งร่าง?
หรือเขาก็คือผู้อาวุโสสังหารเทพ?
นักพรตเต๋าชิงเสียนตกตะลึง
ชั่วพริบตาที่หานเจวี๋ยกระชับจับกระบี่ก็พลันพุ่งไปทางเขาทันที
ปราณกระบี่สีดำย้อมผืนนภากว้าง ประหนึ่งว่าพลันเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์เสี้ยวถูกบดทับด้วยรัศมีสีดำ ตื่นตะลึงจนถึงขีดสุด
เสียงตูมดังขึ้น!
นักพรตเต๋าชิงเสียนถูกปราณกระบี่ของกระบี่ฟ้าสังหารเทพปีศาจประหัตประหารฟาดฟัน โลหิตสาดกระเซ็นท่วมกาย สำรอกโลหิตกระจายฟุ้ง
“ปราณกระบี่รุนแรงเกินไปแล้ว!”
นักพรตเต๋าชิงเสียนจิตใจสะท้านสั่นไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...