ดวงตาของหลิ่วปู๋เมี่ยเบิกกว้าง สีหน้าตกตะลึง
ต้าเยี่ยนยังมีคนระดับนั้นอยู่ด้วยหรือ
นักพรตเต๋าชิงเสียนกัดฟันเอ่ยตอบ “ข้าพ่ายแพ้จนมีสภาพเช่นนี้ยังไม่จริงอีกหรือ”
หลิ่วปู๋เมี่ยนนิ่งเงียบ
ก่อนที่จะเชิญแขกระดับรวมกายามา นักพรตเต๋าชิงเสียนนับว่าเป็นผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต ที่หลิ่วปู๋เมี่ยสามารถขึ้นเป็นเจ้าสำนักได้ ก็เพราะได้ความช่วยเหลือจากนักพรตเต๋าชิงเสียน
เดิมทีคิดว่ายุครุ่งเรืองของสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตกำลังจะมาถึงแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่านักพรตเต๋าชิงเสียนจะแพ้ไม่เป็นท่าในสำนักหยกพิสุทธิ์
หลิ่วปู๋เมี่ยกัดฟันเอ่ยถามขึ้น “คนผู้นั้นคือคือใคร”
นักพรตเต๋าชิงเสียนถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์ หากเจ้าส่งคนไปสืบข่าว บางทีอาจจะสามารถรู้ได้ถึงชื่อเสียงอำนาจของเขา คนผู้นี้ถ่อมตนเป็นยิ่งนัก แต่สำนักหยกพิสุทธิ์สามารถกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งได้ของต้าเยี่ยนได้ เขาย่อมมีส่วนสำคัญ!”
หลิ่วปู๋เมี่ยขมวดคิ้ว
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดต้าเยี่ยถึงมีผู้แข็งแกร่งทรงพลังเช่นนั้นได้
“ช่างเถอะ ไม่ยุ่งเกี่ยวต้าเยี่ยน เช่นนั้นเรามาเริ่มที่เขตแก่นประจิมก่อนก็ได้” หลิ่วปู๋เมี่ยเอ่ยอย่างทอดถอนใจ
นักพรตเต๋าชิงเสียนพยักหน้า
ในสมองของเขาหวนนึกถึงใบหน้าของหานเจวี๋ยอีกครั้ง
คนผู้นี้ก็อย่าไปข้องแวะเป็นอันขาด!
……
ปีที่สี่หลังจากสังหารนักพรตเต๋าชิงสียน ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ทะลวงระดับสุญตาขั้นเจ็ดได้สำเร็จ
หลังจากทะลวงระดับแล้ว เขาจึงตรวจสอบค่าความสัมพันธ์
นักพรตเต๋าชิงเสียนยังมีชีวิตอยู่
หานเจวี๋ยรู้สึกกลัดกลุ้มขึ้นมาแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัดกลุ้มแบบนี้
เห็นได้ชัดว่าเขาฆ่าอีกฝ่ายแล้ว แล้วเหตุใดอีกฝ่ายถึงยังมีชีวิตอยู่
[นักพรตเต๋าชิงเสียน: ระดับสุญตาขั้นเก้า ผู้อาวุโสสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต ด้วยถูกท่านโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรู้สึกหวาดกลัวท่านเป็นอย่างมาก ไม่กล้ามาเผชิญหน้าท่านเพียงลำพังอีก ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 2 ดาว]
สิ่งเดียวที่สามารถเป็นการปลอบประโลมหานเจวี๋ยได้ก็คือนักพรตเต๋าชิงเสียนมีความรู้สึกหวาดกลัวต่อเขาแล้ว
บางครั้งระดับความประทับใจก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ!
หานเจวี๋ยคิดว่าระดับความประทับใจนี้คงมาจากความประทับใจในหน้าตาที่นักพรตเต๋าชิงเสียนมีต่อเขา เพราะว่าหวาดกลัวจนถึงขีดสุด จึงไม่กล้าเกลียดชังเขา เพราะเช่นนั้นจึงรักษาความประทับใจเช่นนี้มาโดยตลอด
นักพรตเต๋าชิงเสียนทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกตัวขึ้นมา
บางทีเขาอาจจะสามารถบดขยี้ศัตรูได้ แต่ไม่แน่ว่าจะทำให้ศัตรูตกตายเสมอไป
ในแดนบำเพ็ญพรตนั้น มีคนที่มีความสามารถมากมาย หลังจากนี้คงได้พบกับวิธีเอาชีวิตรอดที่มีประสิทธิภาพมากมายหลายประเภท
หลังจากนี้จะฆ่าสังหารศัตรูก็ต้องระวังให้มากๆ
ทางที่ดีคือต้องซุ่มโจมตี โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
หานเจวี๋ยตรวจสอบอย่างละเอียด
เขารู้สึกว่าบางทีปัญหาอาจมาจากการลงมือของเขาเองถึงสองครั้ง
อืม
ต้องเป็นแบบนั้นแน่!
คงต้องฆ่าสังหารพวกในชั่วพริบตา ไม่ให้ศัตรูได้มีเวลาสูดลมหายใจแม้ครึ่งนาที
สะเพร่าเกินไปแล้ว!
หลังจากนี้จะชะล่าใจไม่ได้ ความประมาทจะกลายเป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรงที่สุด
หลังจากที่พบปัญหาของตนเองแล้ว นัยน์ตาของหานเจวี๋ยก็แปรเปลี่ยนเป็นความเด็ดเดี่ยว
ลงมือครั้งหน้าจะต้องรีบจัดการทันที อย่าได้ลังเล!
เพียงไม่นาน หานเจวี๋ยก็หลับตาลงและฝึกฝนต่อไป
……
ทางตอนเหนือของต้าเยี่ยน มีหิมะน้ำแข็งทอดยาวต่อเนื่องหลายร้อยลี้
ท่ามกลางหิมะสีขาวสุดลูกหูลูกตา มีเงาร่างน่าสะพรึงกลัวสูงราวหนึ่งร้อยจั้ง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสูดอากาศ หางขนาดใหญ่มหึมาทั้งสี่สบัดไปมาตามอำเภอใจ ทำให้เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ
หยางเทียนตงพร้อมด้วยราชาปีศาจแปลงกายหลายสิบตัว คุกเข่าลงคารวะเงาร่างที่น่าสะพรึงกลัวร่างนั้น
เงาร่างที่น่าสะพรึงกลัวนี้ก็คือราชาปีศาจเตี่ยนซู่ มารปีศาจหมื่นปี!
หยางเทียนเหลือบสายตาขึ้นมองราชาปีศาจเตี่ยนซู่ ตัวอยู่ในพื้นที่ที่หนาวเย็นเช่นนี้ ทว่าที่หน้าผากของเขากลับอดที่จะมีเหงื่อซึมออกมาไม่ได้
ไอปีศาจที่น่าหวาดกลัวจนทำลายล้างไปทั่วโลกันตร์ของราชาปีศาจเตี่ยนซู่นี้ ทำให้เหล่าราชาปีศาจที่อยู่ในที่นี่หวาดกลัวจนถึงขีดสุด
นอกจากตบะแล้ว ยังมีสิ่งที่สืบทอดมาจากสายเลือดด้วย
ก่อนที่ราชาปีศาจเตี่ยนซู่จะฟื้นคืนชีพนั้น หยางเทียนตงมีความคลางแคลงใจมาโดยตลอด ในใจไม่ยอมรับ มักจะรู้สึกว่าตนเองต่างหากที่ควรจะเป็นราชาปีศาจอันดับหนึ่งของต้าเยี่ยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...