บทที่ 743 มรรคาสวรรค์ล่มสลาย
“เป็นแค่มดปลวกก็กล้ามาแตะต้องมรรคาสวรรค์แล้วหรือ”
หานเจวี๋ยพ่นลมหายใจด้วยความเหยียดหยาม เป็นแค่อริยะคนหนึ่งก็กล้าเล่นงานมรรคาสวรรค์ รนหาที่ตายเสียจริง!
เขาเข้าฝันโจวฝานทันที ถ่ายทอดรูปประจำตัวของอริยะรายนี้รวมถึงบ่วงกรรมไปให้โจวฝาน ให้โจวฝานไปสังหารทิ้ง
หานเจวี๋ยเองก็สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ แต่เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเลย
ระดับห่างชั้นกันมากเกินไป ผู้ทรงพลังจะถือสาหาความกับผู้น้อยได้อย่างไร
โจวฝานตอบรับเรื่องนี้ทันที เขาตื่นเต้นยิ่ง น้อยครั้งนักที่หานเจวี๋ยจะมอบหมายงานให้เขา เขาย่อมต้องการพิสูจน์ตัวเองอยู่บ้าง
จากนั้น หานเจวี๋ยเข้าฝันอู้เต้าเจี้ยน
เมื่อครู่นี้เขาทำนายถึงอู้เต้าเจี้ยน อีกฝ่ายยังคงปลอดภัยอยู่ กำลังซ่อนตัวฟื้นฟูอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง
จากเหตุการณ์ที่เกือบทำร้ายโจวฝานจนตายในครานั้น ทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกผิดนัก ไม่อยากทำพลาดซ้ำรอยเดิมอีก
แดนความฝันคือใต้ต้นฝูซัง
ยามนี้อู้เต้าเจี้ยนมิใช่สาวน้อยเยือกเย็นใสซื่อเช่นในอดีตอีกต่อไป แต่ดูคล้ายไท่ซู่เทียนในสมัยก่อนยิ่ง บุคลิกงามสง่า ใบหน้างดงามเย็นชา ท่วงท่าเหนือสามัญ มีมาดของยอดฝีมือยิ่งนัก ต่อให้หลับตาอยู่ก็ยังทำให้คนรู้สึกว่าถึงเขาไท่ซานจะถล่มลงตรงหน้าสีหน้านางก็ไม่แปรเปลี่ยน
อู้เต้าเจี้ยนลืมตาขึ้น หลังจากมองเห็นหานเจวี๋ยนางก็อดตะลึงไม่ได้
นางกะพริบตา ไม่อยากเชื่อสายตาของตนอยู่บ้าง
ในมุมมองของหานเจวี๋ย เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วยิ่ง แต่ในมุมมองของอู้เต้าเจี้ยน ในมุมมองของเหล่าศิษย์ที่อยู่นอกสำนัก เวลานั้นช่างเชื่องช้านัก นับตั้งแต่พบกันครั้งล่าสุดก็ล่วงเลยมานานนมแล้ว
อู้เต้าเจี้ยนรีบทำความเคารพทันที “นายท่าน!”
ต่อหน้าหานเจวี๋ย นางไม่เหลือมาดของเจ้าสำนักสตรีศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป แต่เหมือนศิษย์น้อยที่ตกใจเพราะได้รับความเอ็นดู
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เผชิญอันตราย เหตุใดถึงไม่ขอความช่วยเหลือ นอกจากข้าแล้วเจ้ายังสามารถขอความช่วยเหลือผ่านหมื่นโลกาฉายชัดได้ จะรั้นไปไย”
อู้เต้าเจี้ยนรู้สึกละอายใจ และเต็มไปด้วยความตื้นตัน นางหลงนึกว่าหานเจวี๋ยลืมเลือนนางไปนานแล้ว
นางตอบว่า “ข้าคิดว่าข้ายังควบคุมได้ ถึงอย่างไรคนอื่นๆ ก็ล้วนก้าวหน้าไปยอดเยี่ยมยิ่ง โจวฝานก่อตั้งเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ก็พึ่งพากำลังของตัวเอง เฮ่าเอ๋อร์ปกครองเผ่ามังกร ซูฉีควบคุมวัฏจักรยมโลก ข้า…”
หานเจวี๋ยแค่นเสียง “หากข้าไม่ช่วยโจวฝาน เขาไหนเลยจะได้เจดีย์มรรคายิ่งใหญ่มา ส่วนหลงเฮ่าและซูฉี หากไม่มีข้าคอยหนุนหลัง ไหนเลยจะรอดชีวิตมาถึงวันนี้ได้ เจ้าควรรู้ได้แล้วว่าประโยชน์ของการมีกลุ่มอิทธิพลคืออะไร นั่นคือเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน วันนี้เจ้าหน้าบางจึงไม่ไปหาพวกเขา ส่วนพวกเขาก็เนื่องจากไม่เคยช่วยเหลือเจ้า พอเกิดเรื่องจึงไม่กล้ามาหาเจ้าเช่นกัน เช่นนี้สายสัมพันธ์สำนักเดียวกันจะมีไว้ทำไม มีไว้เพียงเพื่อเสพสุขสำราญ ประชันขันแข่งกันเอง มิใช่เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันหรอกหรือ”
อู้เต้าเจี้ยนรู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง อยากแทรกแผ่นดินใจแทบขาดแล้ว
สติของนางเองก็ถูกดึงกลับมาแล้วเช่นกัน
ตนตื้นเขินและขี้ระแวงเกินไปจริงๆ
เพราะความรักหน้าของนาง ทำให้ศิษย์สิ้นชีพอย่างน่าอนาถไปมากมาย
อู้เต้าเจี้ยนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ คุกเข่าลงบนพื้น แนบหน้าผากจรดพื้น เอ่ยสะอื้น “ขอนายท่านโปรดช่วยเหลือสำนักสตรีศักดิ์สิทธิ์ด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”
หานเจวี๋ยแค่นเสียงเอ่ย “ข้าสั่งการโจวฝานไปแล้ว หากเผชิญกับศัตรูที่สู้ไม่ไหวจริงๆ ก็ร่ายวิชาอัญเชิญเทพซะ
“หากรู้สึกเหนื่อยก็กลับมาได้ทุกเมื่อ ส่วนสำนักสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยกให้เหล่าศิษย์ดูแลไป ขอเพียงเจ้าอยากละวางเท่านั้น ”
แดนความฝันพังทลายลง
อู้เต้าเจี้ยนตื่นขึ้นมาทันที เบื้องหน้าคือถ้ำที่พวกนางซ่อนตัวอยู่ มีแสงสลัว ศิษย์หญิงหลายร้อยคนกำลังนั่งสมาธิฟื้นฟูอาการบาดเจ็บอยู่บนพื้น
ศิษย์หญิงนางหนึ่งที่อยู่ด้านข้างถามด้วยความกังวล “เจ้าสำนัก ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ”
อู้เต้าเจี้ยนได้สติกลับมา กวาดตามองศิษย์ทั้งหมด แววตาฉายแววมุ่งมั่นขึ้นมา นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีอะไร จากนี้ไปพวกเราจะไม่ต้องลำบากอีก ที่ผ่านมาเป็นเพราะอาจารย์ใจแคบถือทิฐิ แท้จริงแล้วอันตรายที่เผชิญอยู่ไม่นับเป็นอันใดเลยด้วยซ้ำ”
เหล่าศิษย์มองหน้ากันเหลอหลา ค่อนข้างเป็นกังวล
เจ้าสำนักธาตุเข้าแทรกไปแล้วกระมัง
….
หลังจากสิ้นสุดแดนความฝัน หานเจวี๋ยก็เข้าสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...