ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 744

บทที่ 744 เทวีตราวินัย

ภายในอารามเต๋า หานเจวี๋ยยังอยู่ระหว่างฝึกบำเพ็ญ

ทันใดนั้นเขาลืมตาขึ้น เงยหน้ามองขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

มองเห็นสายพิรุณหอกนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งทะลวงชั้นฟ้าที่สามสิบสามอยู่ ชั้นฟ้าที่สามสิบสองกำลังจะเผชิญภัยแล้ว ชั้นฟ้านี้มีตะวันจันทราอยู่ หากพังถล่มไปด้วย เช่นนั้นแล้วพลังต้นกำเนิดของมรรคาสวรรค์จะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

เขารับรู้ได้ชัดเจนว่าม่านพลังของมรรคาสวรรค์ถูกทำลาย กล่าวอีกนัยคืออริยะฟ้าบุพกาลสามารถบุกเข้ามาในมรรคาสวรรค์ได้

หานเจวี๋ยปรากฏตัวขึ้นในชั้นที่สามสิบสามทันที ร่างจำลองเทพมารร่างแล้วร่างเล่าปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของเขา ทั้งหมดผสานเข้าสู่ร่างของเทพมารตนหนึ่ง เทพมารยอดอัคคี

เทพมารยอดอัคคีคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางซัดหมัดออกไป เปลวเพลิงร้อนแรงไร้สิ้นสุดพวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้า ไม่อาจหยุดยั้งได้

พิรุณหอกทั่วนภาปะทะเข้ากับเพลิงร้อนแรงไร้สิ้นสุด ก่อนจะระเหิดไปทันที

พลังกดดันอันน่าหวาดผวาสั่นสะเทือนชั้นฟ้าที่สามสิบสาม สั่นไหวถล่มรุนแรง ผืนแผ่นดินด้านล่างเองก็เป็นเช่นเดียวกัน

สรรพสิ่งในแดนเซียนล้วนได้ยินเสียงคำรามกร้าวของเทพมารยอดอัคคี ต่างตื่นตกใจพากันเงยหน้ามองขึ้นไป เห็นเพียงว่าขอบฟ้ากลายเป็นสีแดงก่ำ มวลเมฆาไหวกระเพื่อมราวกับจะพลิกฟ้า แรงกดดันน่าหวาดผวาเข้าปกคลุมทั่วทั้งแดนเซียน

สรรพสิ่งแตกตื่นฮือฮา

เกิดอะไรขึ้น

พวกเขาเพิ่งเคยพบเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก

แรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นทำให้พวกเขารู้สึกกระวนกระวายและตื่นกลัว ถึงขั้นที่รู้สึกสิ้นหวังด้วย

“สรรพสิ่งทั้งหลายอย่าได้ตื่นตระหนก ปรากฏการณ์นี้เกิดจากอริยะสวรรค์เกรียงไกรที่กำลังป้องกันการรุกรานของกองกำลังภายนอกอยู่!”

เสียงของจอมอริยะเสวียนตูแว่วดังขึ้น

ชั้นบนสุดของมรรคาสวรรค์เพียงถูกโจมตีโหว่เพียงรูเดียวเท่านั้น มิได้พังทลายไปจนหมดสิ้น ดังนั้นเหล่าอริยะจึงกำลังเร่งฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

เพียงได้ยินนามของอริยะสวรรค์เกรียงไกร สรรพสิ่งก็สงบใจได้ทันที

ด้วยการผลักดันในช่วงเกือบแสนปีมานี้ของเหล่าอริยชน อริยะสวรรค์เกรียงไกรกลายเป็นเทพสงครามไร้พ่ายในใจของสรรพสิ่งมรรคาสวรรค์ไปแล้ว หากกล่าวกันถึงคุณูปการ ถึงขั้นที่สูงส่งกว่าผานกู่เสียด้วยซ้ำ ในโลกมนุษย์มักจะเปรียบเทียบระหว่างอริยะสวรรค์เกรียงไกรและผานกู่อยู่เสมอว่าผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้ใดสร้างคุณูปการให้มรรคาสวรรค์มากกว่า นับเป็นสิ่งที่พบเห็นได้เป็นเรื่องปกติ

พวกมนุษย์ชมชอบถกเถียงเรื่องพวกนี้เป็นที่สุด

ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสอง ระลอกเพลิงสลายหายไป พิรุณหอกทั่วนภาก็หายไปแล้ว

หานเจวี๋ยตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียงทันที ไม่ปรากฏผู้แข็งแกร่ง

เขากลับไปที่อารามเต๋าอย่างรวดเร็ว

‘ข้าอยากทราบว่าการกระทำเมื่อครู่นี้เป็นฝีมือของผู้ใด’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

หานเจวี๋ยใจหายวาบ

ค่าตัวระดับนี้เป็นยอดมหามรรคแน่นอน!

ดำเนินการต่อ!

เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสมองของหานเจวี๋ย เป็นสตรีรูปร่างอ้อนแอ้นนางหนึ่ง บนร่างมีแสงสว่างส่องพร่างพราว ดูลึกลับและพิสดาร

[เทวีตราวินัย: ระดับยอดมหามรรคระยะปลาย ดวงจิตมหามรรค]

ใช่จริงๆ ด้วย!

หานเจวี๋ยรู้สึกหนักใจขึ้นมา ตัวตนระดับนี้เข้ารุกรานมรรคาสวรรค์ เขาต้านทานไม่ไหว

‘เหตุใดเทวีตราวินัยถึงโจมตีมรรคาสวรรค์’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

หานเจวี๋ยเข้าสู่ภาพลวงตาวิวัฒนาการ

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง หานเจวี๋ยปรากฏตัวขึ้นใต้ท้องนภาคราม ด้านล่างคือผืนสมุทรกว้างไกลไร้สิ้นสุด มองไม่เห็นแผ่นดิน ณ ปลายขอบฟ้าจรดทะเลที่สงบนิ่งมีเงาร่างหนึ่งลอยอยู่ มีเพียงร่างท่อนบนที่โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมา ดวงตะวันส่องเหนือเศียร ยืนค้ำฟ้ามหาสมุทรราวกับเทพผู้สร้างโลก

เทวีตราวินัย!

มีเงาร่างหนึ่งอยู่เบื้องหน้าเทวีตราวินัย เป็นนักพรตเต๋าเสินเผา

เสื้อคลุมตัวหลวมของนักพรตเต๋าเสินเผาไหวกระพือ เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เทวี ท่านช่วยข้าทำลายมรรคาสวรรค์เถอะ ข้าทำไปเพื่อปกป้องกฎระเบียบแห่งฟ้าบุพกาล ช่วยล้างแค้นให้ดวงจิตมหามรรคแห่งความสิ้นหวัง”

เสียงของเทวีตราวินัยแว่วดังขึ้น เคร่งขรึมอย่างยิ่ง “มรรคาสวรรค์คือมหากรรมที่ผานกู่และบรรพชนเต๋าสนับสนุนค้ำจุน ข้าขอเกลี้ยมกล่อมเจ้าในฐานะดวงจิตมหามรรค อย่าได้เข้าไปข้องแวะกับบ่วงกรรมนี้”

นักพรตเต๋าเสินเผาเอ่ยว่า “ข้ามิได้จะทำลายล้างมรรคาสวรรค์ เพียงจะทำลายล้างอริยะมรรคาสวรรค์ ทำให้มรรคาสวรรค์กลับสู่กฎเกณฑ์เดิมในอดีต ปีนั้นบรรพชนเต๋าได้ให้คำมั่นสัญญากับพวกเราเหล่าดวงจิตมหามรรคไว้ว่าจะไม่ให้ทำให้มรรคาสวรรค์แข็งแกร่งเกินไปจนทำร้ายฟ้าบุพกาล ยามนี้บรรพชนเต๋าหายตัวไป ผู้ดูแลมรรคาสวรรค์เหิมเกริมล้ำเส้น จำเป็นต้องสั่งสอน

“เทวี ท่านแค่ต้องทำลายพลังแห่งมรรคาสรรค์ให้ข้าเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของข้าเอง ข้าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปด้วย จะไม่ให้เกี่ยวข้องถึงท่านเลย”

เทวีตราวินัยเงียบงัน

นักพรตเต๋าเสินเผากล่าวว่า “ถือว่าเป็นการช่วยเหลือข้าครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้จะไม่มารบกวนการบำเพ็ญของท่านอีกเลย”

เทวีตราวินัยเอ่ยว่า “ภายในมรรคาสวรรค์ซุกซ่อนอริยะมหามรรคที่แข็งแกร่งยิ่งนักไว้รายหนึ่ง หากเจ้าเผชิญอันตรายระหว่างความเป็นความตาย ข้าจะไม่ออกหน้าช่วย”

“ฮ่าๆ วางใจเถิด ข้าเตรียมการไว้พร้อมหมดแล้ว”

“อืม”

ภาพลวงตาวิวัฒนาการสิ้นสุดลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ