บทที่ 746 อริยะเทพอวี๋เจี้ยน
ค่าตัวสามแสนล้านปี คงมิใช่ว่าเป็นยอดมหามรรคอีกกระมัง
จิตใจหานเจวี๋ยกระสับกระส่าย รีบเลือกดำเนินการต่อ
เงาร่างหนึ่งผุดขึ้นมาในสมองของเขา จากนั้นข้อมูลแถวหนึ่งก็เด้งขึ้นมาตรงหน้า
[อริยะเทพอวี๋เจี้ยน: ระดับเบิกฟ้ามหามรรคระยะสมบูรณ์ เทพมารฟ้าบุพกาล เคยต่อสู้ตัดสินเป็นตายกับผานกู่ เกือบจะดับสูญ ต่อมาผ่านการฝึกบำเพ็ญเป็นเวลานานเกินนับได้ อาศัยมรรคกระบี่ที่เหล่าจื่อสร้างขึ้น พิสูจน์ยอดมหามรรค ภายหลังไปท้าสู้กับดวงจิตมหามรรคโบราณ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ระดับถดถอยลง]
หานเจวี๋ยลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ที่แท้ก็แค่เคยเป็นยอดมหามรรค!
แต่พลังยังคงอยู่ในระดับอริยะมหามรรค!
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘ข้าสามารถสังหารอริยะเทพอวี๋เจี้ยนในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ช้าก่อน!
หากข้าไม่สามารถสังหารนักพรตเต๋าเสินเผาในเสี้ยววินาทีได้ แล้วจะสามารถสังหารอริยะเทพอวี๋เจี้ยนในเสี้ยววินาทีได้อย่างไร
เช่นนี้มิใช่เสียอายุขัยไปเปล่าๆ หรือ
หานเจวี๋ยจึงเปลี่ยนคำถามทันที ‘ข้าสามารถสังหารอริยะเทพอวี๋เจี้ยนได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[อาจจะทำได้]
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วแน่น แค่อาจจะทำได้เท่านั้น
นั่นก็แปลว่ามีโอกาสจะเป็นฝ่ายถูกฆ่า!
หานเจวี๋ยพลันรู้สึกอยากหลบหนีขึ้นมา
มรรคาสวรรค์ในตอนนี้บอกว่าจะพังก็พังได้เลย ไม่สามารถใช้เป็นเกราะป้องกันได้อีกต่อไป
ช้าก่อน หากว่ายอดมหามรรคสามารถทำลายมรรคาสวรรค์ได้ มรรคาสวรรค์ไหนเลยจะรอดมาจนถึงวันนี้
ซึ่งก็แปลว่า ระดับยอดมหามรรคมีจำนวนน้อยนิดยิ่งกระมัง
หานเจวี๋ยตกอยู่ในความสับสนว้าวุ่น
….
ในอาณาเขตมืดมิด เงาร่างสองร่างยืนเคียงข้างกัน เบื้องหน้าพวกเขาคือโพรงแสงแห่งหนึ่ง ภาพจำลองมรรคาสวรรค์ขนาดย่อส่วนฉายชัดอยู่ในโพรงแสง สามารถมองเห็นนักพรตเต๋าเสินเผาที่กำลังเคลื่อนทัพ มุ่งหน้าเข้าใกล้มรรคาสวรรค์ขึ้นเรื่อยๆ
เทพมารต้องสาปรู้สึกประหม่ายิ่ง คนที่อยู่ข้างกายผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ทำให้เขารู้สึกอึดอัด
เขาก็คืออริยะเทพอวี๋เจี้ยน
อริยะเทพอวี๋เจี้ยนสวมอาภรณ์สีดำ ส่วนเหนือลำคอขึ้นไปเป็นโครงกระดูก ใบหน้าไร้ซึ่งเนื้อหนัง แต่มีดวงตาหนึ่งคู่ เรือนผมดำแผ่สยายปลิวตามลม ดูราวกับเปลวไฟ
ด้านหลังเขามีกระบี่ยาวหลายต่อหลายเล่มลอยอยู่ ลอยเรียงตัวเป็นทรงพัด หมุนวนเป็นวง ราวกับบุปผากระบี่พราวพร่างละลานตา
อริยะเทพอวี๋เจี้ยนเปิดปากเอ่ยขึ้น “ที่แท้ก็เป็นมหาอริยะสวีหุน ข้าหลงนึกว่าเขาตายไปนานแล้ว หนีมาพึ่งมรรคาสวรรค์หรอกหรือ”
มหาอริยะสวีหุน?
เทพมารต้องสาปเกิดความสงสัยในใจ เอ่ยไปว่า “ท่านไม่ได้จำคนผิดไปกระมัง หานเจวี๋ยอายุเพียงสี่แสนกว่าปีเท่านั้น ดูเหมือนเขาจะมีอาณาเขตเต๋าพิเศษ สามารถปิดกั้นการสอดแนมและผลกรรมได้ ดังนั้นท่านจึงมองไม่เห็น”
ดวงตาของอริยะเทพอวี๋เจี้ยนฉายแววเย็นชานิดๆ เอ่ยว่า “โอ้ อายุสี่แสนกว่าปีก็สำเร็จเป็นอริยะมหามรรคแล้วอย่างนั้นหรือ เด็กคนนี้น่าจะเป็นยอดมหามรรคคนใดกลับชาติมาเกิดกระมัง”
ยอดมหามรรคอย่างนั้นหรือ
เทพมารต้องสาปขมวดคิ้ว
เขายังไม่เข้าใจว่ายอดมหามรรคเป็นตัวตนเช่นใด
ในมุมมองของเขา อริยะมหามรรคนับเป็นเพดานสูงสุดของฟ้าบุพกาลแล้ว ฝ่ายใดจะเอาชนะได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและจำนวนของอริยะมหามรรค
ก่อนหน้านี้ เขายังคงกังวลอยู่ว่านักพรตเต๋าเสินเผาจะพลาดท่า ดังนั้นเขาจึงหาข้ออ้างหลบเลี่ยงออกมาก่อน เกรงว่าจะถูกหานเจวี๋ยหมายหัว ผลคือนักพรตเต๋าเสินเผาให้เขามารออยู่กับอริยะเทพอวี๋เจี้ยน
เขาถึงได้รู้ว่านักพรตเต๋าเสินเผาที่ดูเหมือนจะบุ่มบ่ามมุทะลุคนนี้ แท้จริงกลับเตรียมการไว้พร้อมแล้ว
เขาไม่เคยได้ยินนามของอริยะเทพอวี๋เจี้ยนเลย แต่สัมผัสได้ว่าอริยะเทพอวี๋เจี้ยนแข็งแกร่งกว่านักพรตเต๋าเสินเผามากนัก
“ประวัติความเป็นมาของหานเจวี๋ยลึกลับจริงๆ ไม่มีผู้ใดคาดเดาได้ เพียงแต่บรรพชนเต๋าเคยทำนายไว้ว่าเขาคือตัวแปร” เทพมารต้องสาปเอ่ยอย่างระมัดระวัง
อริยะเทพอวี๋เจี้ยนพ่นลมออกมาอย่างเหยียดหยาม “คำพูดของบรรพชนเต๋าเชื่อถือได้หรือ ตัวแปรอันใดกัน ในอดีตครานั้นเขายังอ้างว่าตนคือผู้กอบกู้มหามรรคอยู่เลย”
เทพมารต้องสาปเงียบไป ไม่ทราบว่าควรตอบรับอย่างไร เนื่องจากเขาไม่รู้จักบรรพชนเต๋า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...