ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 783

บทที่ 783 จอมเทพซิ่นอวี่

ผ่านไปอีกหนึ่งหมื่นปี

หนึ่งหมื่นปีสำหรับมนุษย์ธรรมดายาวนานยิ่งนักสำหรับหนุ่มสาวในห้วงรักยาวไกลเกินเอื้อมคว้า แต่สำหรับผู้บำเพ็ญแล้ว หมื่นปีเสมือนหนึ่งวัน

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับการเข้าฝันจากเหล่าจื่อเลย และไม่ทราบว่าเหล่าจื่อปฏิบัติอย่างไรต่อเจียงอี้

เขาเริ่มตรวจดูจดหมาย

[หานทั่วบุตรชายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสิ่งอัปมงคลลึกลับ] x103932

[อี๋เทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[เจียงอี้สหายของท่านก่อสังขารขึ้นอีกครั้ง หลอมสร้างร่างเทพสุริยันมิวางวาย]

[เต้าจื้อจุนศิษย์ของท่านเข้าสู่แดนมายาบุพกาล]

[จ้าวเซวียนหยวนศิษย์ของท่านเข้าสู่แดนมายาบุพกาล]

[ฉู่ซื่อเหรินศิษย์หลานของท่านมีสาวกเกินหลักร้อยล้าน ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[ต้นฝูซังสหายของท่านตระหนักรู้ในมิติต้นกำเนิด พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[จอมเทพข่งเซวี่ยสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสหัส]

….

เจียงอี้ได้รับวาสนาในคราเคราะห์เข้าจริงๆ!

หานเจวี๋ยถูกชะตากับเหล่าจื่อมากขึ้น เหล่าจื่อแตกต่างกับอริยะมหามรรคคนอื่นๆ ดูเหมือนไร้ความปรารถนาอย่างแท้จริง

หากเปลี่ยนเป็นอริยะมหามรรครายอื่น อาจมาหาหานเจวี๋ยด้วยเรื่องนี้ ต่อให้ไม่ต้องการผลประโยชน์ ก็ต้องการสร้างสัมพันธไมตรี

บางทีอาจเป็นเพราะแบบนี้ เหล่าจื่อถึงได้แยกตัวออกจากเหล่าอริยะมหามรรคในแดนเทพหวนปัจฉิม ใจใฝ่หามรรค จึงก้าวหน้าพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

หานเจวี๋ยไล่อ่านลงไปเรื่อยๆ ในระยะหมื่นปีมานี้ศิษย์คนอื่นๆ ต่างมีโอกาสวาสนาเป็นของตัวเอง นับว่าใช้ชีวิตกันได้ไม่เลวเลย

อาการบาดเจ็บสาหัสของจอมเทพข่งเซวี่ยดึงดูดความสนใจของหานเจวี๋ยได้

สำหรับจอมเทพข่งเซวี่ย หานเจวี๋ยยังคงให้การยอมรับยิ่งนัก หากมิใช่เพราะจอมเทพข่งเซวี่ยตามพัวพันเทพมารต้องสาปอยู่หลายแสนปี เทพมารต้องสาปคงไม่สิ้นชีพลงง่ายๆ เช่นนั้น

หานเจวี๋ยคิดเล็กน้อย ตัดสินใจว่าจะให้ความสนใจจอมเทพข่งเซวี่ยสักหน่อย

เขาเริ่มเข้าฝันจอมเทพข่งเซวี่ย ปรากฏตัวขึ้นในแดนความฝันด้วยรูปลักษณ์ของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

แดนความฝันคือห้วงดารางดงามผืนหนึ่ง ธารดารางามสกาว แสงหมอกแบ่งชั้น

จอมเทพข่งเซวี่ยลืมตาขึ้น เมื่อเห็นหานเจวี๋ย เขาพลันตื่นเต้นปรีดาขึ้นมาในทันใด

“เจ้าแดนต้องห้าม ในที่สุดท่านก็ปรากฏตัวแล้ว!”

จอมเทพข่งเซวี่ยเอ่ยด้วยความตื่นเต้น เข้ามาหาหานเจวี๋ยทันที

“ไม่รู้ว่าเทพมารต้องสาปหายตัวไปด้วยเหตุใด ข้าหาเขาไม่พบเลย” จอมเทพข่งเซวี่ยกล่าวด้วยความหดหู่

หานเจวี๋ยตอบว่า “เทพมารต้องสาปตายแล้ว”

“ตายแล้วอย่างนั้นหรือ”

จอมเทพข่งเซวี่ยตะลึงงัน เขาตามพัวพันเทพมารต้องสาปมานานขนาดนั้น ทราบถึงความร้ายกาจของเทพมารต้องสาปดี พลังเวทของเจ้าคนผู้นี้อาจจะธรรมดาทั่วไป แต่ความสามารถในการเอาชีวิตรอดยังคงแกร่งกล้ายิ่ง

หรือว่า…

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะลงมือด้วยตัวเอง

จอมเทพข่งเซวี่ยเกิดความเลื่อมใสขึ้นในใจ

หานเจวี๋ยก็ไม่อธิบายมากเช่นกัน เปิดปากถาม “ช่วงที่ผ่านมาเจ้าบาดเจ็บได้อย่างไร”

จอมเทพข่งเซวี่ยเดือดดาลขึ้นมาทันที ร้องด่าว่า “เป็นเพราะคนผู้นั้น เขานามว่าจอมเทพซิ่นอวี่ เป็นอริยะมหามรรคคนหนึ่ง เข้าร่วมกลุ่มอิทธิพลมิ่ง โอหังอย่างยิ่ง เขาต้องการให้ข้าสยบต่อเขา แถมตอนนี้ข้ายังถูกเขาสะกดจองจำด้วย”

จอมเทพซิ่นอวี่…

หานเจวี๋ยไม่เคยได้ยินมาก่อน อีกเดี๋ยวต้องสอบถามจากความสามารถวิวัฒนาการดู

“เจ้าแดนต้องห้าม ในเมื่อท่านมาก็แปลว่าต้องการช่วยข้า รีบลงมือเถิด คนผู้นี้ทรมานข้าทุกวัน ข้ากำลังจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ” จอมเทพข่งเซวี่ยเอ่ยด้วยความอับจนหนทาง

หากไม่ใช่เพราะเผชิญหน้ากับอริยะมหามรรค เขาก็นับเป็นตัวตนที่ท่องไปทั่วฟ้าบุพกาลได้อย่างไร้สิ่งให้กริ่งเกรง

จนปัญญาที่ว่าเขาประสบความสำเร็จเพราะคุณสมบัติ แต่ก็พ่ายแพ้เพราะคุณสมบัติเช่นกัน

ปกติก็มีอริยะมหามรรคหมายตาเขา คิดจะสยบเขาอยู่เสมอ

แต่รูปการณ์ของเขานับว่าหาได้ยากที่สุดในหมู่อริยะเสรี

ขอเพียงอริยะมหามรรคช่วยหนุนหลัง จอมเทพข่งเซวี่ยก็พร้อมพิสูจน์มหามรรคได้ทุกเมื่อ จนปัญญาที่คนผู้นี้หัวแข็ง ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “เจ้าได้ทราบข้อมูลของกลุ่มอิทธิพลมิ่งจากปากของจอมเทพซิ่นอวี่บ้างหรือไม่”

จอมเทพข่งเซวี่ยใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยตอบว่า “เขาเอ่ยถึงบรรพชนมาร บอกว่าบรรพชนมารมีบุตรแห่งสวรรค์ใต้บัญชาสองคน มาจากมรรคาสวรรค์ มีพรสวรรค์ไม่ด้อยไปกว่าข้าเลย ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเข้าสู่กลุ่มมิ่ง หากสุดท้ายแล้วข้ายังไม่ยอมสยบ เขาจะชิงมรรคผลของข้าไป มอบให้บุตรแห่งสวรรค์สองคนนั้น ช่วยให้พวกเขาได้ครอบครองคุณสมบัติที่เลิศล้ำยิ่งขึ้น

“ไร้สาระทั้งเพ ไม่มีพรสวรรค์ของผู้ใดเหนือล้ำไปกว่าข้าแล้ว ต่อให้เป็นเทพมารฟ้าบุพกาลก็ไม่มี!”

จอมเทพข่งเซวี่ยเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง

หานเจวี๋ยเงียบไป

แม้ว่าจะจอมเทพข่งเซวี่ยจะร้ายกาจ แต่หากว่ากันตามจริงแล้ว หานเจวี๋ยไม่รู้สึกว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามจอมเทพซิ่นอวี่หมายตาหานทั่วและอี๋เทียนแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ