บทที่ 798 ปรมาจารย์ท้ารบ
“เจ้ามาเพื่อวังสวรรค์กับเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่กระมัง” ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงถาม
น้ำเสียงเขาฟังดูสบายๆ ยิ่ง ราวกับพูดคุยกับสหายเก่าคนหนึ่ง
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ถูกต้อง มิ่งได้รับคำสั่งให้ลักพาตัวอริยะมรรคาสวรรค์ ยามนี้มาลงมือกับจักรพรรดิสวรรค์และศิษย์ของข้า ข้าจึงไม่สามารถนิ่งดูดายได้”
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงหรี่ตาลงพลางเอ่ยถาม “ดังนั้น เจ้าจึงมาเตือนข้าหรือ”
หานเจวี๋ยส่ายหน้าตอบไปว่า “ไหนเลยจะกล้า เพียงสงสัยเท่านั้น เหตุใดปรมาจารย์ถึงเข้าร่วมกับมิ่ง”
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยว่า “เพราะฟ้าบุพกาลไร้ที่ยืนสำหรับข้าแล้ว”
หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “เช่นนั้นเหตุใดมิ่งถึงรับท่านไว้”
คำถามนี้แฝงความหมายไว้หลายชั้นยิ่ง
หานเจวี๋ยไม่เข้าใจยิ่งนัก มิใช่ว่ามิ่งก็กำลังคุกคามฟ้าบุพกาลอยู่หรอกหรือ เหตุใดจอมเทวาฟ้าบุพกาลยังไม่สอดมือเข้ามายุ่งอีก มิ่งรับตัวปรมาจารย์ลัญจกรสรวงไว้ จอมเทวาฟ้าบุพกาลก็ปล่อยผ่านเรื่องปรมาจารย์ลัญจกรสรวงไปอย่างนั้นหรือ
หรือจอมเทวาฟ้าบุพกาลคือตัวการที่อยู่เบื้องหลังมิ่ง
แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยทำนายมาก่อน เจ้าชะตาอันธการไร้ที่พึ่งพิง
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงจ้องมองหานเจวี๋ย แววตาลุ่มลึกราวกับกำลังมองทะลุหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยเข้าใจดียิ่ง
ยามนี้แม้แต่จอมเทวาฟ้าบุพกาลก็ไม่สามารถโจมตีอาณาเขตเต๋าของเขาได้ เขาจึงไม่เกรงกลัวมากนัก
อย่างไรก็ตามถ้าลดปัญหาลงไปได้บ้าง ย่อมเป็นเรื่องดี
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยเสียงแผ่ว “บางทีนี่อาจจะเป็นเกมรูปแบบหนึ่ง มิ่งก็รวมอยู่ในนั้นด้วย แต่ไม่รู้ตัวเท่านั้น ข้าเอาตัวรอดไปตามกระแส อย่างน้อยก็เพิ่มโอกาสรอดได้มากขึ้น”
หานเจวี๋ยฟังถึงเสี้ยวความโศกเศร้าที่แฝงอยู่ออก
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
หากว่าไม่มีระบบ ไม่มีอาณาเขตเต๋า เขาก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์อันน่าเศร้าแบบนี้เช่นกัน
หานเจวี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “หากว่าปรมาจารย์ไม่รังเกียจ ข้ายินดีจะคุ้มครองท่าน ขอเพียงท่านยินยอม”
“ฮ่าๆๆ…”
จู่ๆ ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงก็หัวเราะดังลั่น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในเสียงหัวเราะเจือแววเยาะหยันเอาไว้
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
เมื่อปรมาจารย์ลัญจกรสรวงหัวเราะจบ ก็ส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “ไม่คิดเลย ไม่เคยคิดเลย ข้านั่งประจำการในมรรคาสวรรค์มาหลายร้อยล้านปี เคยเทศนาธรรมให้ผู้แสวงหามรรคานับไม่ถ้วน ยามนี้กลับได้รับความเวทนาจากชนรุ่นหลังที่เคยเข้ารับการเทศนาธรรมจากข้าเสียแล้ว น่าเศร้านัก น่าสมเพชยิ่ง
“อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนที่กล้ารับตัวข้าไว้ ข้าก็นับลงทุนคุ้มค่าแล้ว ไม่ได้เทศนาธรรมอย่างเสียเปล่า”
เขาพลันจ้องหานเจวี๋ยเขม็ง แววตาคมกล้าขึ้นมาก่อนเอ่ยว่า “หานเจวี๋ย หากเจ้าต้องการช่วยเหลือจักรพรรดิสวรรค์และโจวฝาน เช่นนั้นก็มาเถอะ เอาชนะข้าให้ได้อย่างเปิดเผยชอบธรรม แล้วข้าจะปล่อยพวกเขาไป!”
[ความประทับใจที่ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]
ขณะที่ประกาศศึกอยู่ ระดับความประทับใจก็เพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นนั้นหรือ
หานเจวี๋ยมึนงง
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยอย่างมีนัยลุ่มลึก “มาเถอะ หากว่าเจ้ามา จะไม่ได้มีผลดีต่อจักรพรรดิสวรรค์และศิษย์ของเจ้าเท่านั้น ยังเป็นการเพิ่มทางรอดอีกสายหนึ่งให้ตนด้วย เจ้าดูเหมือนจะแข็งแกร่ง แต่ความจริงยังคงมองทุกสิ่งไม่กระจ่าง”
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว นี่กำลังสื่อถึงจอมเทวาฟ้าบุพกาลเป็นนัยๆ อยู่หรือ
หากเขาไปสู้กับปรมาจารย์ลัญจกรสรวง จะนับเป็นการบอกปัดตัดสัมพันธ์ที่มีต่อปรมาจารย์ลัญจกรสรวงหรือไม่
“ใช่แล้ว ขอเตือนเจ้าเอาไว้ ที่ผ่านมาตัวข้าในมรรคาสวรรค์เป็นเพียงร่างแยกเท่านั้น ข้ากดตบะเอาไว้ตลอดมา เมื่อสู้กับข้า เจ้าต้องทุ่มพลังให้เต็มที่”
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม จากนั้นแดนความฝันก็พังทลายลง
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ดวงตาฉายแววแปลกพิกล
ไม่น่าเชื่อเลยว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวงจะบังคับสลายความฝันอันธการของเขาได้!
เขาเรียกรูปประจำตัวของปรมาจารย์ลัญจกรสรวงออกมาตรวจดู พบว่าตบะของปรมาจารย์ลัญจกรสรวงยังเป็นเบิกฟ้ามหามรรคระยะกลาง
หรือว่านี่จะเป็นการเสแสร้งอำพรางไว้
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘หากว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวงทุ่มพลังทั้งหมดออกมา ข้าจะสามารถสังหารเขาในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
พอๆ กับอริยะเทพอวี๋เจี้ยนเลย!
มีฝีมืออยู่บ้าง!
ดำเนินการต่อ!
[ได้]
หานเจวี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอก
ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...