บทที่ 804 มหามรรคต้องสาป
[เทพมารปฐมภพต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
[เทพมารปฐมภพต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
….
แจ้งเตือนแถวแล้วแถวเล่าปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหานเจวี๋ยไม่ขาดสาย ทำเอาเขาพูดไม่ออกเลย
อริยะทำพฤติกรรมเช่นนี้ก็พอว่า ทว่ายอดมหามรรคก็ยังรัวมาเช่นนี้หรือ!
เป็นอะไรไปเสียแล้ว
หานเจวี๋ยคิดไปคิดมา ยังคงเลือกยอมรับการเข้าฝัน
แดนความฝันคือพระราชวังในอาณาเขตปฐมภพ
หานเจวี๋ยมองเห็นเทพมารปฐมภพ นั่งสมาธิอยู่ห่างออกไปนับหมื่นจั้ง
ทั้งคู่สบตากัน ต่างฝ่ายล้วนไม่ยอมเป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นมาก่อน
บรรยากาศแปลกประหลาดและน่ากระอักกระอ่วนยิ่ง
ผ่านไปเนิ่นนาน
เทพมารปฐมภพเอ่ยขึ้นว่า “หานเจวี๋ย เจ้าทราบการกระทำของบุตรชายเจ้าหรือไม่”
หานเจวี๋ยตอบว่า “ทราบ เขาถูกบรรพชนมารล่อลวง จนปัญญาที่บรรพชนมารแกร่งเกินไป บิดาอย่างข้าไร้ความสามารถและกำลัง”
เมื่อเอ่ยเรื่องนี้ เขาอดถอนหายใจไม่ได้ ละอายใจอย่างยิ่ง
เทพมารปฐมภพจ้องมองหานเจวี๋ย ซักถามว่า “ความหมายของเจ้าคือตอนนี้เขาถูกบรรพชนมารควบคุม ถึงขั้นที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองแล้วเช่นนั้นหรือ”
“ถูกต้อง มิเช่นนั้นข้าจะปล่อยให้เขาไปติดตามบรรพชนมารได้อย่างไร”
หานเจวี๋ยพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็ทำท่าทางทอดถอนใจพร้อมเอ่ยไปว่า “เดิมทีไม่อยากนำเรื่องนี้มารบกวนเผ่าเทพมารเลย ถึงอย่างไรบรรพชนมารก็ไม่ได้โจมตีมรรคาสวรรค์ เพียงลักพาตัวบุตรชายคนหนึ่งของข้าไปเท่านั้น ข้าไม่สะดวกจะออกปาก ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสปฐมภพจะเป็นฝ่ายเอ่ยถึงขึ้นมาก่อน ทำให้ข้าตื้นตันจริงๆ ที่มีมากยิ่งกว่าคือความละอายใจ ข้าประเมินความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเผ่าเทพมารและความเย่อหยิ่งของเทพมารฟ้าบุพกาลไว้ต่ำเกินไป”
เทพมารปฐมภพเงียบไป
หานเจวี๋ยตกอยู่ในความเศร้าหมอง อับจนหนทาง ได้แต่ถอนหายใจซ้ำๆ
ผ่านไปพักใหญ่
เทพมารปฐมภพเอ่ยขึ้นว่า “เผ่าเทพมารจะประกาศศึกกับบรรพชนมาร ข้าจะช่วยเหลือบุตรชายของเจ้า เจ้าจงรอฟังคำสั่ง”
พอเอ่ยจบ แดนความฝันก็สลายไป
[เทพมารปฐมภพเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 2 ดาว]
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เมื่อเห็นแจ้งเตือนนี้ ก็แทบจะหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเสียเดี๋ยวนั้น
ชัดเจนยิ่งนักว่าเทพมารปฐมภพเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ไม่ได้เชื่อคำพูดของหานเจวี๋ยเลย แต่ก็ไม่มีหนทางจะถามไถ่เอาผิดได้
เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ใช้เผ่าเทพมารข่มบรรพชนมารเอาไว้ หากทั้งสองฝ่ายต่อสู้จนบาดเจ็บเสียหายกันไปข้างหนึ่งได้จะดีที่สุด จากนั้นหานเจวี๋ยก็ค่อยเล่นลูกไม้ลับหลัง ประวิงมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่เอาไว้ตลอด ให้เวลามรรคาสวรรค์ได้ผงาดขึ้นมา
หานเจวี๋ยเข้าฝันหานทั่วต่อ
แดนความฝันคือบนกำแพงเมืองแห่งหนึ่ง เป็นเมืองที่หานทั่วเคยอาศัยอยู่ในยามเยาว์วัย
หานทั่วลืมตาขึ้น เมื่อเห็นฉากที่ปรากฏเบื้องหน้าก็อดเหม่อลอยไม่ได้
เขาสังเกตเห็นหานเจวี๋ย จึงรีบดึงสติกลับมาก่อนคุกเข่าคารวะ
“ท่านพ่อ!”
หานเจวี๋ยมองหานทั่วที่แข็งแกร่งกำยำกว่าแต่ก่อนมากนัก ขณะเดียวกันก็รู้สึกสะท้อนใจยิ่ง
หานทั่วในตอนนี้ดูเหมือนมารมากจริงๆ
หานเจวี๋ยถาม “ระยะนี้สบายดีหรือไม่”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเขา หานทั่วมิได้ปิดบังอำพรางเลย เล่าเรื่องที่ตนผสานรวมกับพลังมาร จากนั้นก็กลืนกินเทพมารฟ้าบุพกาลออกมาจนหมด
นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นเช่นกันว่าหานทั่วมิได้แปรพักตร์ไปจากหานเจวี๋ย
กล่าวโดยสรุปคือ หานทั่วยังคงรักษาปณิธานเดิมไว้ได้ เพียงแต่ขั้นตอนในการพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นไม่ได้ขาวสะอาดโปร่งใสเช่นในอดีตอีก
บรรพชนมารลู่หยวนฟื้นฟูสังขารแล้ว เป้าหมายระยะสั้นคือก่อตั้งเผ่ามารขึ้นอีกครั้ง ส่วนแผนการในอนาคต ขณะนี้หานทั่วยังไม่ทราบ
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เหล่าเทพมารฟ้าบุพกาลจะร่วมกันไล่ล่าเจ้าและบรรพชนมาร เรื่องนี้เพราะเจ้าก่อปัญหาขึ้น เจ้าต้องระวังไว้ให้มาก”
หานทั่วมีสีหน้าตื่นตะลึง ทว่าก็มิได้ตระหนกลนลานเช่นกัน
เทพมารฟ้าบุพกาลหนึ่งตน กับเทพมารฟ้าบุพกาลทั้งหมดรวมตัวกัน ระดับความทรงพลังแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
อีกทั้งเทพมารฟ้าบุพกาลที่พวกเขาต่อสู้ด้วยก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเป็นตัวตนระดับกลางค่อนไปล่างๆ ในหมู่เทพมารหรือไม่ก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสทั้งสิ้น
“ลูกเข้าใจแล้วขอรับ”
หานทั่วตอบรับ
หานเจวี๋ยเห็นว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตน ในใจรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เอ่ยทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่งก่อนจะสลายแดนความฝัน “จำไว้ อย่าบอกว่าได้ข่าวมาจากข้า หากต้านไม่อยู่จริงๆ เรียกหาข้าได้ทุกเมื่อ”
…..
หานทั่วลืมตาขึ้น เขานั่งสมาธิอยู่บนโครงกระดูกที่ใหญ่มหึมาราวกับทิวเขาลูกหนึ่ง มีอี๋เทียนอยู่ด้านข้าง
อี๋เทียนเอ่ยยิ้มๆ “เมื่อครู่เจ้าตกอยู่ในสภาวะใจลอย หรือว่าบิดาเจ้ามาเข้าฝันเจ้ากัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...