ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 805

สรุปบท บทที่ 805 กำหนดตัวอริยะ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 805 กำหนดตัวอริยะ จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 805 กำหนดตัวอริยะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 805 กำหนดตัวอริยะ

“ไม่ได้ จะนั่งรอความตายเช่นนี้ไม่ได้!”

แววตาเทพมารปฐมภพวาวโรจน์ เขาย้อนนึกถึงเรื่องเล่าขานเหล่านั้นของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เขารู้ดีว่าตนไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น

เขาย้อนนึกถึงพลังคำสาปแช่งเมื่อครู่อย่างละเอียด ตกอยู่ในห้วงความคิด

พลังคำสาปแช่งของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเผด็จการและกินเวลานาน แปลกประหลาดอย่างยิ่ง

เขาต้องการรู้ว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งเทพมารต้องสาปใช่หรือไม่ แล้วสาปแช่งด้วยวิธีใด

อีกอย่าง เขาต้องหาทางหลบเลี่ยงการสาปแช่งนี้ให้ได้!

เทพมารปฐมภพหลับตาลง เริ่มโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บ

รักษาตัวให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว นานมากแล้วที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมยังทำให้มหามรรคเสียหายอีกด้วย

เทพมารปฐมภพไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว กลับถูกกระตุ้นความอยากเอาชนะ

ในที่สุดก็ได้พบคู่ต่อสู้แล้ว!

….

แดนเซียน สุดเขตตะวันออก

ใต้บรรพตใหญ่มหึมาตั้งตระหง่าน ชายคนหนึ่งนั่งสมาธิพิงผนังเขา ยันต์อาคมมากมายแปะอยู่บนร่างของเขารวมถึงบนผนังภูเขารอบข้าง

ชายคนนี้ก็คือฉินหลิง ผมสยายกระเซิง เสื้อผ้าขาดวิ่น

เขาถูกสะกดไว้ที่นี่มาหลายหมื่นปีแล้ว แต่เขาไม่เคยหยุดฝึกบำเพ็ญเลย ตลอดช่วงเวลาที่ถูกสะกดไว้ ถึงแม้ตบะของเขาจะไม่ก้าวหน้าขึ้น แต่ความเข้าใจกลับเพิ่มมากขึ้น

ในเวลานี้ ชายหญิงคู่หนึ่ง เดินมาตามเส้นทางภูเขา

บุรุษหล่อเหลา สตรีเยือกเย็น

เป็นหานอวี้และสตรีชุดเขียว

สตรีชุดเขียวมองฉินหลิงอยู่ไกลๆ ถามด้วยความอยากรู้ “ผู้อาวุโส เขาคือฉินหลิงบุตรแห่งสวรรค์ผู้เลิศล้ำชื่อเสียงก้องคนนั้นใช่หรือไม่”

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด สตรีชุดเขียวรู้สึกว่าฉินหลิงค่อนข้างคุ้นตา ราวกับเคยพบที่ไหนมาก่อน

หานอวี้ไม่ได้ตอบ ค่อยๆ เดินเข้าไปหาฉินหลิง

ฉินหลิงหลับตาอยู่ ไม่ได้มองอีกฝ่าย ในช่วงเวลาอันยาวนานมีคนมาหาเขาแทบทุกปี บ้างก็มาเพราะชื่นชม บ้างก็มาเพราะเลื่อมใส บ้างก็มาเยาะเย้ยทับถม

ตอนที่เขาประกาศท้ารบกับสำนักพุทธ สรรพสิ่งคาดหวังในตัวเขามากเหลือเกิน แต่เขากลับพ่ายแพ้

พ่ายแพ้อย่างราบคาบ

หานอวี้เอ่ยถาม “นึกเสียใจหรือไม่”

“ไม่เสียใจ”

ฉินหลิงตอบโดยไม่ลืมตาขึ้นเลย

คำถามเช่นนี้เขาตอบไปนับร้อยนับหมื่นครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะตอบ ทุกครั้งที่ตอบล้วนเป็นการยืนหยัดในปณิธานของตน

หานอวี้ไม่ได้ถามต่อ แต่มองดูฉินหลิงเงียบๆ

หากมองเผินๆ ฉินหลิงดูทุกข์ระทมอย่างยิ่ง ทุกข์ระทมยิ่งกว่าสรรพสิ่งทั้งหมด

แต่เขาทราบดีว่าเรื่องราวกลับตรงกันข้าม ฉินหลิงโชคดีกว่าสรรพสิ่งทั้งปวง สรรพสิ่งมองว่าเขาคือความหวังในการกอบกู้โลก หารู้ไม่ว่า เขาเป็นเพียงตัวหมากที่อริยะใช้ชำระล้างความขุ่นข้องของสรรพสิ่ง และทันทีที่ตัวหมากตัวนี้ทำสำเร็จ ก็จะหลุดพ้นจากสถานะตัวหมาก ถึงขั้นที่หลุดพ้นจากมรรคาสวรรค์ด้วย

สรรพสิ่งยังคงเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์ ทว่าฉินหลิงจะเสาะแสวงหาเส้นทางของตนในฟ้าบุพกาลต่อไป

หานอวี้รู้สึกโศกหมอง

โศกหมองแทนสรรพสิ่ง

ขณะเดียวกัน หานอวี้ได้เกิดปณิธานอย่างหนึ่งขึ้น

มองด้วยตาเปล่ายังไม่แน่ว่าจะได้เห็นความเป็นจริง สิ่งที่แสวงหามาทั้งชีวิตก็เป็นเพียงความเลื่อนลอย

หากมิใช่เพราะหานอวี้มีหานเจวี๋ยหนุนหลัง เขาอาจจะมองเห็นทุกสิ่งภายใต้มรรคาสวรรค์ได้ไม่กระจ่าง

หลังจากความโศกเศร้าผ่านพ้นไป หานอวี้ตัดสินใจได้แน่วแน่ยิ่งขึ้น

การเดินทางครั้งนี้เขามิได้มาเพื่อพบฉินหลิงเพียงอย่างเดียว แต่อยากเห็นสภาพของสรรพสิ่งในยุคมหาเคราะห์ครานี้ด้วย

เขาต้องการพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นอริยะ!

เขาต้องการสร้างคุณประโยชน์ต่อสรรพสิ่งอย่างแท้จริง!

แววตาของหานอวี้เด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้น

เขาตัดสินใจได้แล้วว่าจะบำเพ็ญเพียรเพื่อสิ่งใด

สตรีชุดเขียวจ้องมองฉินหลิง กระจ่างขึ้นมาในทันใด นี่ไม่ใช่ผู้ทรงพลังที่มาเยี่ยมเยือนหานอวี้ในปีนั้นหรอกหรือ

นางอดไม่ได้ที่จะมองหานอวี้และฉินหลิงด้วยสายตาแปลกพิกล

ในเวลานี้เอง หานอวี้ก้าวจากไป สตรีชุดเขียวรีบไล่ตามไป

หานเจวี๋ยกะพริบตาปริบๆ เหตุใดคำพูดนี้ถึงรู้สึกเหมือนกำลังด่าเขาอยู่กัน

แต่หานเจวี๋ยรับรู้ได้ถึงความตั้งใจเด็ดเดี่ยวของหานอวี้

หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงหาจอมอริยะเสวียนตู กำหนดเรื่องนี้

จอมอริยะเสวียนตูตอบตกลงทันที ไม่พูดมากเลย ว่องไวอย่างยิ่ง

หานอวี้กระวนกระวาย ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ใหญ่โตนัก ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อันดับหนึ่งของมรรคาสวรรค์เลย

ไม่มีผู้ใดไม่ต้องการพิสูจน์มรรค!

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “อืม กำหนดเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว เจ้าจงฝึกบำเพ็ญอยู่ในเขตเซียนร้อยคีรีเป็นระยะเวลาหมื่นปี จากนั้นค่อยไปหาจอมอริยะเสวียนตู ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม”

หานอวี้ตะลึงงัน สารพัดถ้อยคำที่อยู่ในท้องล้วนถูกเก็บกลืนลงไป

หานเจวี๋ยโบกแขนเสื้อ เอ่ยว่า “จงจำคำพูดของเจ้าไว้”

หานอวี้พลันเหม่อลอยไปพักหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็มาอยู่บนยอดเขาเพียรบำเพ็ญเซียนแล้ว ไก่ดำตัวหนึ่งโฉบเข้ามาหาเขา

ภายในอารามเต๋า

หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูจดหมาย ส่วนเรื่องของหานอวี้ถูกเขาโยนออกจากหัวอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ก็แค่ตำแหน่งอริยะ ไหนเลยจะควรค่าให้กังวล

ในแวดวงอริยะปัจจุบันนี้มีอริยะมากน้อยเพียงใดเล่าที่เกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่กลัวจะถูกคนนินทา นี่ก็คือสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอำนาจของเขาเช่นกัน

….

หนึ่งหมื่นปีให้หลัง

หานอวี้มายังชั้นฟ้าที่สามสิบสาม ขอเข้าพบจอมอริยะเสวียนตู อยู่หน้าตำหนักเอกภพ

ประตูใหญ่เปิดออก

หานอวี้เข้าสู่ตำหนัก เขาเห็นว่าที่นี่ไม่ได้มีเพียงจอมอริยะเสวียนตูเท่านั้น ยังมีอริยะอีกห้าท่าน ได้แก่ เทพสูงสุดอู๋ฝ่า ฟางเหลียง จี้เซียนเสิน ผานซินและอริยะหน้าใหม่เทียนจ้าน

เมื่อเห็นหานอวี้ ห้าอริยะมีสีหน้าแตกต่างกันไป

เทียนจ้านไม่เคยพบหานอวี้มาก่อน อย่างไรก็ตามครึ่งอริยะคนหนึ่งสามารถเข้ามาในตำหนักเอกภพได้ ซ้ำยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีอริยะรายอื่นๆ อยู่ด้วย เกรงว่าคงไม่ธรรมดา

จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยขึ้นว่า “หานอวี้ เจ้าจงไปนั่งด้านหลังสหายเต๋าฟางเถิด”

หานอวี้เงยหน้ามอง อยากถามจริงๆ ว่าผู้ใดคือสหายเต๋าฟาง กลับมองเห็นฟางเหลียงกวักมือเรียกตน ไม่วางท่าเป็นอริยะเลยสักนิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ