บทที่ 805 กำหนดตัวอริยะ
“ไม่ได้ จะนั่งรอความตายเช่นนี้ไม่ได้!”
แววตาเทพมารปฐมภพวาวโรจน์ เขาย้อนนึกถึงเรื่องเล่าขานเหล่านั้นของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เขารู้ดีว่าตนไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น
เขาย้อนนึกถึงพลังคำสาปแช่งเมื่อครู่อย่างละเอียด ตกอยู่ในห้วงความคิด
พลังคำสาปแช่งของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเผด็จการและกินเวลานาน แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
เขาต้องการรู้ว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งเทพมารต้องสาปใช่หรือไม่ แล้วสาปแช่งด้วยวิธีใด
อีกอย่าง เขาต้องหาทางหลบเลี่ยงการสาปแช่งนี้ให้ได้!
เทพมารปฐมภพหลับตาลง เริ่มโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บ
รักษาตัวให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว นานมากแล้วที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมยังทำให้มหามรรคเสียหายอีกด้วย
เทพมารปฐมภพไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว กลับถูกกระตุ้นความอยากเอาชนะ
ในที่สุดก็ได้พบคู่ต่อสู้แล้ว!
….
แดนเซียน สุดเขตตะวันออก
ใต้บรรพตใหญ่มหึมาตั้งตระหง่าน ชายคนหนึ่งนั่งสมาธิพิงผนังเขา ยันต์อาคมมากมายแปะอยู่บนร่างของเขารวมถึงบนผนังภูเขารอบข้าง
ชายคนนี้ก็คือฉินหลิง ผมสยายกระเซิง เสื้อผ้าขาดวิ่น
เขาถูกสะกดไว้ที่นี่มาหลายหมื่นปีแล้ว แต่เขาไม่เคยหยุดฝึกบำเพ็ญเลย ตลอดช่วงเวลาที่ถูกสะกดไว้ ถึงแม้ตบะของเขาจะไม่ก้าวหน้าขึ้น แต่ความเข้าใจกลับเพิ่มมากขึ้น
ในเวลานี้ ชายหญิงคู่หนึ่ง เดินมาตามเส้นทางภูเขา
บุรุษหล่อเหลา สตรีเยือกเย็น
เป็นหานอวี้และสตรีชุดเขียว
สตรีชุดเขียวมองฉินหลิงอยู่ไกลๆ ถามด้วยความอยากรู้ “ผู้อาวุโส เขาคือฉินหลิงบุตรแห่งสวรรค์ผู้เลิศล้ำชื่อเสียงก้องคนนั้นใช่หรือไม่”
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด สตรีชุดเขียวรู้สึกว่าฉินหลิงค่อนข้างคุ้นตา ราวกับเคยพบที่ไหนมาก่อน
หานอวี้ไม่ได้ตอบ ค่อยๆ เดินเข้าไปหาฉินหลิง
ฉินหลิงหลับตาอยู่ ไม่ได้มองอีกฝ่าย ในช่วงเวลาอันยาวนานมีคนมาหาเขาแทบทุกปี บ้างก็มาเพราะชื่นชม บ้างก็มาเพราะเลื่อมใส บ้างก็มาเยาะเย้ยทับถม
ตอนที่เขาประกาศท้ารบกับสำนักพุทธ สรรพสิ่งคาดหวังในตัวเขามากเหลือเกิน แต่เขากลับพ่ายแพ้
พ่ายแพ้อย่างราบคาบ
หานอวี้เอ่ยถาม “นึกเสียใจหรือไม่”
“ไม่เสียใจ”
ฉินหลิงตอบโดยไม่ลืมตาขึ้นเลย
คำถามเช่นนี้เขาตอบไปนับร้อยนับหมื่นครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะตอบ ทุกครั้งที่ตอบล้วนเป็นการยืนหยัดในปณิธานของตน
หานอวี้ไม่ได้ถามต่อ แต่มองดูฉินหลิงเงียบๆ
หากมองเผินๆ ฉินหลิงดูทุกข์ระทมอย่างยิ่ง ทุกข์ระทมยิ่งกว่าสรรพสิ่งทั้งหมด
แต่เขาทราบดีว่าเรื่องราวกลับตรงกันข้าม ฉินหลิงโชคดีกว่าสรรพสิ่งทั้งปวง สรรพสิ่งมองว่าเขาคือความหวังในการกอบกู้โลก หารู้ไม่ว่า เขาเป็นเพียงตัวหมากที่อริยะใช้ชำระล้างความขุ่นข้องของสรรพสิ่ง และทันทีที่ตัวหมากตัวนี้ทำสำเร็จ ก็จะหลุดพ้นจากสถานะตัวหมาก ถึงขั้นที่หลุดพ้นจากมรรคาสวรรค์ด้วย
สรรพสิ่งยังคงเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์ ทว่าฉินหลิงจะเสาะแสวงหาเส้นทางของตนในฟ้าบุพกาลต่อไป
หานอวี้รู้สึกโศกหมอง
โศกหมองแทนสรรพสิ่ง
ขณะเดียวกัน หานอวี้ได้เกิดปณิธานอย่างหนึ่งขึ้น
มองด้วยตาเปล่ายังไม่แน่ว่าจะได้เห็นความเป็นจริง สิ่งที่แสวงหามาทั้งชีวิตก็เป็นเพียงความเลื่อนลอย
หากมิใช่เพราะหานอวี้มีหานเจวี๋ยหนุนหลัง เขาอาจจะมองเห็นทุกสิ่งภายใต้มรรคาสวรรค์ได้ไม่กระจ่าง
หลังจากความโศกเศร้าผ่านพ้นไป หานอวี้ตัดสินใจได้แน่วแน่ยิ่งขึ้น
การเดินทางครั้งนี้เขามิได้มาเพื่อพบฉินหลิงเพียงอย่างเดียว แต่อยากเห็นสภาพของสรรพสิ่งในยุคมหาเคราะห์ครานี้ด้วย
เขาต้องการพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นอริยะ!
เขาต้องการสร้างคุณประโยชน์ต่อสรรพสิ่งอย่างแท้จริง!
แววตาของหานอวี้เด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้น
เขาตัดสินใจได้แล้วว่าจะบำเพ็ญเพียรเพื่อสิ่งใด
สตรีชุดเขียวจ้องมองฉินหลิง กระจ่างขึ้นมาในทันใด นี่ไม่ใช่ผู้ทรงพลังที่มาเยี่ยมเยือนหานอวี้ในปีนั้นหรอกหรือ
นางอดไม่ได้ที่จะมองหานอวี้และฉินหลิงด้วยสายตาแปลกพิกล
ในเวลานี้เอง หานอวี้ก้าวจากไป สตรีชุดเขียวรีบไล่ตามไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...