บทที่ 845 มรรคาสวรรค์รุ่งโรจน์ จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายตกตะลึง
“ขอรับ!”
จอมเทพข่งเซวี่ยตอบรับคำหนึ่ง ในใจหวั่นวิตกขึ้นมา
เขาเองก็รู้สึกขายหน้าเช่นกัน การแสดงออกในช่วงสองล้านปีมานี้สู้ในอดีตไม่ได้เลย ถ้อยคำที่เขาเคยกล่าวไว้ล้วนดูเป็นการคุยโม้ทั้งสิ้น
หานเจวี๋ยไม่พูดไร้สาระอีก สลายแดนความฝันลง
เมื่อจิตรับรู้กลับสู่ความเป็นจริง หานเจวี๋ยเริ่มสอดส่องมรรคาสวรรค์
หลังสิ้นสุดมหาเคราะห์ มีตำแหน่งอริยะมรรคาสวรรค์เพิ่มขึ้นมาสองที่ หานเจวี๋ยไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
หานเจวี๋ยทอดมองฟ้าบุพกาล
เขาค้นหาหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ กำลังเดินทางอย่างองอาจอยู่ในฟ้าบุพกาล ยังอยู่ไกลจากมรรคาสวรรค์ แต่อยู่ใกล้กับอาณาเขตปฐมภพยิ่งนัก
เทพมารฟ้าบุพกาลหลายสิบตนรวมตัวกันอยู่ในอาณาเขตปฐมภพ แม้แต่ผานกู่ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ผานกู่ที่ฟื้นคืนชีพอีกครั้งพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าเมื่อก่อน สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อยู่ภายในอาณาเขตปฐมภพถูกอพยพออกไปแล้ว เหลืออยู่เพียงเหล่าเทพมาร รอคอยศึกตัดสินชะตา
เหล่าขุนพลศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับสัมผัสได้ถึงเทพมารฟ้าบุพกาล ลาดตระเวนเข้าใกล้อาณาเขตปฐมภพราวกับไม่ได้ตั้งใจ
หานเจวี๋ยตั้งตารอศึกนี้ยิ่งนัก
หลังจากมองอยู่สักพักหนึ่ง หานเจวี๋ยถอนสายตากลับมา จากนั้นก็จมจ่อมอยู่กับการฝึกบำเพ็ญต่อ
….
ในส่วนลึกของฟ้าบุพกาล ณ แดนต้องห้ามอันธการ
แสงรุ้งสายหนึ่งพุ่งฉิวไป
เป็นเจียงเจวี๋ยซื่อ
จู่ๆ เจียงเจวี๋ยซื่อก็หยุดลง แววตาคมปลาบทอดมองไปด้านหน้า ห้วงมิติมืดมิดไหวกระเพื่อม เงาร่างหนึ่งค่อยๆ เดินออกมา
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวง!
เจียงเจวี๋ยซื่อถาม “เหตุใดปรมาจารย์จึงไล่ตามมาปรากฏตัวถึงที่นี่”
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เจ้ารู้แก่ใจดี ข้ามาชี้แนะไม่กี่ประโยคก็จะไปแล้ว ถือเสียว่าข้าไม่เคยตามเจ้ามาแล้วกัน”
เจียงเจวี๋ยซื่อขมวดคิ้ว เริ่มใช้ความคิด
เขาไม่เคยมองปรมาจารย์ลัญจกรสรวงออกเลย ดูเหมือนเขาจะถูกปรมาจารย์ลัญจกรสรวงจับตัวไป แต่หลายปีมานี้ ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงกลับมอบสภาพแวดล้อมฝึกบำเพ็ญที่เงียบสงบไร้การรบกวนให้แก่เขา
เขารู้สึกอยู่ตลอดว่าที่ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเข้าร่วมกลุ่มมิ่ง ด้วยมีเจตนาแอบแฝง艾琳小說
“ถึงแม้มรรคาสวรรค์จะคงอยู่มายาวนาน ผู้เปี่ยมมหาโชคอย่างเจ้ากลับมีน้อยยิ่ง ในอดีตมีเพียงผานกู่และบรรพชนเต๋าที่นำมาเปรียบเทียบกับเจ้าได้ ดวงชะตาของเจ้าไม่ธรรมดา หวังว่าเจ้าจะกระทำการด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในเวลานี้ รูปการณ์ของฟ้าบุพกาลไม่แน่ชัด หากเจ้าเผยคุณสมบัติออกไปด้วยความประมาท มีแต่จะนำพาปัญหาวุ่นวายมาให้”
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยเสียงเบา เจียงเจวี๋ยซื่อฟังแล้วขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
ในมุมมองของเจียงเจวี๋ยซื่อ ฟ้าบุพกาลไม่ได้คึกคักเลย ตรงกันข้าม กลับเงียบเหงาอย่างยิ่ง ผ่านไปหลายร้อยปีก็ยังยากจะพบพานสิ่งมีชีวิตสักตน ภายในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ คุณสมบัติของเขาถูกสอดส่องได้ง่ายยิ่งนักอย่างนั้นหรือ
เจียงเจวี๋ยซื่อตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง หรือฟ้าบุพกาลจะน่ากลัวกว่าที่เขาคาดคิดไว้จริงๆ ท่ามกลางความมืดมิดมีสายตามากมายจับจ้องเขาอยู่เช่นนั้นหรือ
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งนึกหวาดกลัว
ตนประมาทไปแล้วจริงๆ
ถึงอย่างไรการเวียนว่ายตายเกิดมากว่าแสนชาติ ก็ยาวนานเกินไป
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเอ่ยต่อว่า “ในอนาคตมรรคาสวรรค์ยังต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าอยู่ ก่อนจะจากไป ข้าจะถ่ายทอดมหามรรคแห่งกรรมให้เจ้า”
เขาสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าสู่หน้าผากของเจียงเจวี๋ยซื่ออย่างรวดเร็ว ทำให้เขาตอบสนองไม่ทันอย่างสิ้นเชิง
เจียงเจวี๋ยซื่อเหม่อลอยอยู่พักหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงหายไปแล้ว
เขาไม่ได้หยุดนิ่งขบคิดอยู่ที่เดิม จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
….
ท่ามกลางความมืดมิด ในมือข้างหนึ่งของพระพุทธรูปทองสูงใหญ่องค์หนึ่งชักลากโลกใบหนึ่งมุ่งไปข้างหน้า เป็นพุทธสัจจะยุทธ
มรรคาสวรรค์อยู่เบื้องหน้าแล้ว
สายตาของพุทธสัจจะยุทธมองไปที่โลกหงหยวน เขามีสีหน้าตระหนกเล็กน้อย
เขารับรู้ถึงกลิ่นอายน่าหวาดกลัวสายหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในโลกหงหยวน เมื่อก่อนเขาเคยมาเยือนมรรคาสวรรค์ แต่ไม่ได้มีโลกเช่นนี้อยู่
เสียงของฉู่ซื่อเหรินแว่วเข้าสู่หูเขา “ไม่ต้องกังวล นั่นคืออริยะมหามรรคที่อาจารย์ปู่ของข้าเชิญมา โลกพุทธะจะตั้งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของแดนเซียน ตั้งเขตป้องกันสองด้าน”
เมื่อพุทธสัจจะยุทธได้ยินฉู่ซื่อเหรินเอ่ยถึงอาจารย์ปู่ ก็ไม่ถามมากอีก อ้อมผ่านมรรคาสวรรค์ มายังอีกฝั่งหนึ่งของแดนเซียน
เหล่าอริยะทยอยปรากฏตัวขึ้น มองพุทธสัจจะยุทธด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นดฮณ๊ฯดฯฌซ,
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...