ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 846

สรุปบท บทที่ 846 เสื้อคลุมเลิศธุลีแดง เตรียมออกศึก: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 846 เสื้อคลุมเลิศธุลีแดง เตรียมออกศึก จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 846 เสื้อคลุมเลิศธุลีแดง เตรียมออกศึก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 846 เสื้อคลุมเลิศธุลีแดง เตรียมออกศึก

“บรรพชนเต๋าหรือ หมายความว่าอย่างไร หนึ่งในขุนพลศักดิ์สิทธิ์มีรูปโฉมเหมือนบรรพชนเต๋า หรือจะพูดว่าบรรพชนเต๋าเป็นผู้นำทัพขุนพลศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ”

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วเอ่ยถาม ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ในภาพลวงตาวิวัฒนาการมาแล้ว ขุนพลศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผู้นำ และไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันดูเหมือนเครื่องจักรสงคราม

จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายกล่าวว่า “เราก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่เราพบบรรพชนเต๋าอยู่ในหมู่ขุนพลศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เรื่องนี้แปลกประหลาดโดยแท้ เราจะหาวิธีสืบดู”

หานเจวี๋ยพยักหน้ารับ จดจำเรื่องนี้ไว้

ทั้งสองพูดคุยกันอีกสักพัก หานเจวี๋ยถึงสลายแดนความฝัน

เขาลืมตาขึ้น ถามในใจ ‘ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดบรรพชนเต๋าถึงไปอยู่ในหมู่ขุนพลศักดิ์สิทธิ์’

[ไร้ซึ่งบ่วงกรรม ไม่สามารถวิวัฒนาการได้]

ไร้ซึ่งบ่วงกรรมหมายความว่าอย่างไร

หานเจวี๋ยเริ่มสอบถามถึงบรรพชนเต๋าด้วยวิธีต่างๆ แต่ไม่ว่าจะถามอย่างไร ล้วนไม่สามารถวิวัฒนาการได้

ราวกับไม่เคยมีตัวตนของบรรพชนเต๋าอยู่!

เรื่องนี้น่าสนใจอยู่บ้าง

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าบรรพชนเต๋าอยู่ในจอค่าความสัมพันธ์ของเขามาตลอด เหตุใดถึงทำนายไม่พบเล่า

ดูเหมือนในช่วงเวลาที่ผ่านมา บรรพชนเต๋าจะไม่ได้อยู่ว่างๆ แต่มานะทำงานอย่างเงียบเชียบมาตลอด

หานเจวี๋ยส่ายหน้า ไม่คิดเรื่องนี้อีก

จากนั้น เขาก็จมจ่อมสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญอีกครั้ง

….

ณ อาณาเขตปฐมภพ เหล่าเทพมารชุมนุมกันอยู่ในตำหนัก

ข้างกายเทพมารปฐมภพมีเงาร่างบึกบึนกำยำร่างหนึ่งนั่งสมาธิอยู่ เป็นผานกู่

ผานกู่ปล่อยผมสยายรุงรัง กลิ่นอายป่าเถื่อนแผ่ออกมาจากทั่วร่าง ยามที่หายใจเข้าไป ราวกับสูดกลิ่นควันเทียน

ในเวลานี้เอง ผานกู่พลันลืมตาขึ้น

เทพมารตนอื่นก็คล้ายจะสัมผัสถึงบางอย่างได้ พากันลืมตาขึ้น แต่ละคนมีสีหน้าตึงเครียด

เทพมารปฐมภพขมวดคิ้ว “จะมาแล้ว”

เทพมารตนอื่นๆ ก็พากันเปิดปากเอ่ย

“เหตุใดจู่ๆ ถึงเปลี่ยนทิศทางมายังอาณาเขตปฐมภพเล่า”

“ที่แท้ก็มีตัวตนลึกลับคอยชักใยอยู่เบื้องหลังขุนพลศักดิ์สิทธิ์ คงเกรงกลัวว่าอำนาจของพวกเราเหล่าเทพมารจะเพิ่มขึ้นอีก”

“น่าเสียดาย เดิมทียังคิดจะชักจูงผู้ทรงพลังบางส่วนมาเข้าร่วมเพิ่ม”

“มักจะมีคนรักตัวกลัวตายอยู่เสมอ ศึกครั้งนี้ หากพวกเราชนะ ภายหน้าฟ้าบุพกาลก็จะขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว!”

“ฮ่าๆๆ มาเถอะ ฟ้าบุพกาลเดิมทีก็เป็นของเทพมารฟ้าบุพกาลอยู่แล้ว ในอดีตครานั้นหากพวกเราลงสนามแย่งชิง ไหนเลยจะยังมีดวงจิตมหามรรคอันใด ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงขุนพลศักดิ์สิทธิ์เลย”

เหล่าเทพมารฟ้าบุพกาลแสดงความองอาจห้าวหาญออกมา ไร้ซึ่งความหวาดกลัว

พวกเขาเตรียมใจให้พร้อมนานแล้ว ก่อนจะออกศึกย่อมห้ามทำลายขวัญกำลังใจกันเอง

สิ่งสำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่เหลือทางถอยแล้ว!

ผานกู่เอ่ยขึ้นว่า “เตรียมออกศึกเถอะ”

เทพมารปฐมภพพยักหน้ารับ จากนั้นลุกขึ้นมา

มหาศึกบรรพกาลที่ยากจะพบเห็นได้ในรอบหลายล้านปีกำลังจะอุบัติขึ้นแล้ว!

….

ณ มรรคาสวรรค์

เวลาไหลผ่านไป

หลังจากหานเจวี๋ยปิดด่านครบห้าหมื่นปี ก็ปิดด่านต่อไป ไม่หยุดพักเลย

ถึงอย่างไรมรรคาสวรรค์ก็พัฒนาไปอย่างราบรื่น อีกทั้งมีอริยะมหามรรคและยอดมหามรรคคอยเฝ้าอยู่นอกมรรคาสวรรค์ มีเพียงขุนพลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นปัญหาในอนาคต

เขาปิดด่านฝึกบำเพ็ญเช่นนี้มาตลอด โลกอนธการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปราณอนธการที่ผสานรวมอยู่ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พลังยอดมหามรรคของเขาเพิ่มพูนแข็งแกร่งขึ้น

ไม่ทราบเช่นกันว่าผ่านไปนานแค่ไหนไอรีนโนเวล

ทันใดนั้นหานเจวี๋ยรับรู้ถึงบางอย่างได้ ลืมตาขึ้นทันที

เขารับรู้ได้ว่ามีสงครามใหญ่อุบัติขึ้นในฟ้าบุพกาล!

เขาสงบใจลงพลางคำนวณเวลาดู การปิดด่านครั้งนี้เพิ่งผ่านไปเก้าหมื่นกว่าปี ขุนพลศักดิ์สิทธิ์ไปถึงอาณาเขตปฐมภพแล้วหรือ

เร็วไปหน่อยแล้ว!

กล่าวอีกนัยคือ ขุนพลศักดิ์สิทธิ์จะมาถึงมรรคาสวรรค์เร็วกว่ากำหนด!

หานเจวี๋ยสูดลมหายใจ เขาพร้อมจะต่อสู้มานานแล้ว จึงไม่หวาดกลัว

เขาทอดสายตามองไปยังอาณาเขตปฐมภพ เทพมารฟ้าบุพกาลหลายสิบตนถูกหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ปิดล้อมไว้ นอกสนามรบ สิบสองบรรพชนจอมเวทนำเผ่าจอมเวทมุ่งหน้ามา แต่ลังเลไม่กล้าเข้าไป

ไม่ใช่แค่เผ่าจอมเวท ยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆ มาสังเกตการต่อสู้ด้วย พร้อมลงมือทุกเมื่อ คาดว่าล้วนมีสายสัมพันธ์กับเทพมารฟ้าบุพกาลทั้งสิ้น

สถานการณ์ต่อสู้ดุเดือดอย่างยิ่ง ผานกู่เด่นสะดุดตาที่สุด ต่อสู้กับขุนพลศักดิ์สิทธิ์นับพันด้วยตัวคนเดียว ไม่ตกเป็นรองเลยสักนิด

ส่วนขุนพลศักดิ์สิทธิ์หลังจากถูกสังหาร จะฟื้นคืนชีพในชั่วพริบตา ราวกับเป็นอมตะ

ยังมองไม่ออกชั่วคราวว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายมีชัย

แต่หานเจวี๋ยคิดว่าขุนพลศักดิ์สิทธิ์จะเป็นฝ่ายชนะ

ไปเข้าฝันแจ้งให้หานเจวี๋ยรู้ดีหรือไม่

ไม่ได้!

หานเจวี๋ยต้องทราบถึงมหาศึกที่อุบัติขึ้นแล้วแน่นอน หากข้าไปเข้าฝัน จะไม่ดูตื่นตูมหรอกหรือ

อริยะเทพอวี๋เจี้ยนปรับอารมณ์ให้สงบลง แววตาเปี่ยมด้วยเจตนาต่อสู้อีกครั้ง

“หมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างไรเล่า

“มรรคกระบี่ของข้าจะใช้พวกเจ้าต่างหินลับมีด!”

แววตาอริยะเทพอวี๋เจี้ยนวาวโรจน์ สง่างามองอาจขึ้นมาอีกครั้ง

….

หลายพันปีต่อมา ระหว่างที่หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญอยู่ พลันมีตัวเลือกเด้งขึ้นมาตรงหน้า

[ตรวจสอบพบว่าขุนพลศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเข้าโจมตีมรรคาสวรรค์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง เตรียมพร้อมรับมือขุนพลศักดิ์สิทธิ์ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]

[สอง หลบหนีออกจากมรรคาสวรรค์ทันที หลีกเลี่ยงข้อพิพาท จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน]

เมื่อเห็นตัวเลือกตรงหน้า หานเจวี๋ยเลือกข้อแรกอย่างไม่ลังเลเลย

เลือกตัวเลือกข้อแรกอย่างที่หาได้ยาก!

[ท่านเลือกรับมือขุนพลศักดิ์สิทธิ์ ได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]

[ยินดีด้วยท่านได้รับสมบัติเลิศมรรคา…เสื้อคลุมเลิศธุลีแดง]

[เสื้อคลุมเลิศธุลีแดง: ยอดสมบัติเลิศมรรคาสายป้องกัน ดูดซับพลังธุลีผันแปรสู่ยอดสมบัติ ไร้รูปไร้สี ป้องกันการโจมตีจากระดับผู้สร้างมรรคาได้หนึ่งครั้ง]

หานเจวี๋ยเบิกตากว้าง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมา

ป้องกันการโจมตีจากระดับผู้สร้างมรรคาได้หนึ่งครั้ง!

ถึงแม้จะแค่ครั้งเดียวก็ตาม!

แต่ก็เพียงพอจะทำให้หานเจวี๋ยตื่นเต้นได้!

มีความมั่นใจแล้ว!

สมกับที่เป็นระบบ ห่วงใยใส่ใจตรงจุด!

หานเจวี๋ยนำศิลาก่อวิญญาณออกมา ผสานรวมกับปราณเทพมารกลุ่มหนึ่ง จากนั้นนำเสื้อคลุมเลิศธุลีแดงออกมา ทำให้มันจดจำเจ้าของ

เสื้อคลุมเลิศธุลีแดงที่อยู่ในมือหานเจวี๋ยเป็นปราณสีแดงกลุ่มหนึ่ง ดูไม่เหมือนอาภรณ์เลย

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ