ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 849

บทที่ 849 หนึ่งกระบี่พิฆาตขุนพลศักดิ์สิทธิ์

หลังจากกำชับอริยะเทพอวี๋เจี้ยนและหงหยวนแล้ว หานเจวี๋ยหายตัวไปจากตำหนักเอกภพทันที

พริบตาต่อมา เขาปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ ใช้แบบจำลองการทดสอบคัดลอกตบะของพวกเขาในชั่วพริบตา จากนั้นก็เลือนหายไป

กระบวนการนี้รวดเร็วเหลือเกิน เร็วจนเหมือนหานเจวี๋ยไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน

เมื่อกลับมาที่ตำหนักเอกภพ อริยะคนอื่นก็ไม่สังเกตเห็นเช่นกันว่าเมื่อครู่เขาหายตัวไป

หานเจวี๋ยคาดการณ์ดูเล็กน้อย ขุนพลศักดิ์สิทธิ์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งก้านธูปกว่าจะมาถึง

เขาเข้าสู่แบบจำลองการทดสอบทันที ท้าสู้หมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์

เมื่อผสานเข้ากับร่างจำลองเทพมารหนึ่งพันเก้าร้อยสี่สิบเก้าร่าง สำแดงโทสะเทพอนธการโดยใช้กระบี่พิพากษาอนธการ ฟันกระบี่ออกไป ปราณยอดกระบี่พุ่งตัดขวาง ทำลายล้างหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์จนสิ้น

สังหารในเสี้ยววินาที!

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น

เขาแอบโล่งใจ

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

เขากลัวจริงๆ ว่าหลังจากผ่านศึกที่อาณาเขตปฐมภพมาแล้ว ขุนพลศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งขึ้น

เขาใช้แบบจำลองการทดสอบอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อน ลองหยั่งเชิงพลังของเหล่าขุนพลศักดิ์สิทธิ์ดู

ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ท่าทางใช้ความคิด

จอมอริยะเสวียนตูหันไปเอ่ยถาม “สหายเต๋าหาน มีความมั่นใจหรือไม่”

พวกเขาสัมผัสถึงกลิ่นอายอันน่าหวาดผวาของหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว เชื่อว่าหานเจวี๋ยก็คงสัมผัสได้เช่นกัน หากว่ากันในแง่ของกลิ่นอาย น่าจะมีพลังล้นเหลือจริงๆ

ถึงกับทำให้จอมอริยะเสวียนตูรู้สึกว่าหากตนออกไปต้องตายแน่

กลิ่นอายของหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ที่รวมตัวเข้าด้วยกัน แข็งแกร่งเกินไปแล้วจริงๆ แกร่งกล้าจนทำลายความหวังทั้งหมดได้!

อริยะรายอื่นก็พากันมองไปที่หานเจวี๋ย ทั้งหมดเต็มไปด้วยความคาดหวังและกระวนกระวาย

เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายของขุนพลศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง พวกเขาหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ แม้กระทั่งพวกโจวฝาน หลงเฮ่าและจ้าวเซวียนหยวนที่ก่อนหน้านี้พูดจาวางโตอยู่ก็ไม่กล้าพูดเสียงดังแล้ว

เมื่อเผชิญกับสายตาของอริยะทั้งหมด หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “หากบอกว่ามั่นใจเต็มที่ คาดว่าทุกท่านก็คงไม่เชื่อ ข้าจะพยายามสุดความสามารถ พวกเจ้าก็อย่าได้ออกไปเลย รอดูข้าต่อสู้กับขุนพลศักดิ์สิทธิ์ก็พอ”

เมื่อเหล่าอริยชนได้ฟังก็แอบโล่งใจ

พวกเขาก็กลัวจะถูกหานเจวี๋ยเรียกออกไปสู้เช่นกัน ถึงแม้จะละอายใจ แต่นี่คือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้

หานเจวี๋ยพลันลุกขึ้นยืน นำกระบี่พิพากษาอนธการออกมา

เมื่อกระบี่นี้ปรากฏขึ้น แสงสีม่วงแดงส่องวาบขึ้นภายในตำหนัก สว่างจนทำให้เหล่าอริยะตาพร่า ขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารอันน่าผวา

ปราณพิฆาต!

ผานซินเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง นึกถึงขวานเบิกฟ้าของตนขึ้นมา

มิ่งที่สมควรถูกสับเป็นพันครั้งบังอาจขโมยยอดสมบัติของข้าไป!

ท่ามกลางสายตาของเหล่าอริยชน หานเจวี๋ยถือกระบี่ไว้ในมือข้างหนึ่ง ปลายกระบี่จ่อชี้ไปทางขุนพลศักดิ์สิทธิ์ในฟ้าบุพกาลที่กำลังมุ่งหน้ามา เงาสลัวสายแล้วสายเล่าผุดออกมาเหนือศีรษะของหานเจวี๋ย จากนั้นมุดหายไปในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว艾琳小說

ภายในชั่วพริบตา หานเจวี๋ยผสานรวมกับร่างจำลองเทพมารหนึ่งพันเก้าร้อยสี่สิบเก้าร่างแล้ว!

เขายกมือซ้ายขึ้น เหยียดนิ้วชี้และนิ้วกลางออกมา ไล้ผ่านคมกระบี่ไปช้าๆ ท่าทางราวกับถือปืนกระบอกหนึ่งอยู่ สายตาและปลายกระบี่เพ่งไปในทิศทางเดียวกัน กำลังเล็งเป้าบางอย่างอยู่

เหล่าอริยชนประหม่ายิ่ง ไม่เข้าใจว่าหานเจวี๋ยกำลังทำอะไร

โจวฝานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “อาจารย์ ท่านจะทำอะไรขอรับ”

คงไม่ใช่ว่าเขาจะลงมือจากที่นี่กระมัง

อริยะทั้งหมดต่างบังเกิดความคิดเหลวไหลเช่นนี้ขึ้นมาในหัว

นั่นคือขุนพลศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ!

อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้ หากโจมตีออกไป จะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือ

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ทุกท่านว่า ข้าจะสังหารหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ในกระบี่เดียวนี้ได้หรือไม่”

เมื่อเขาเอ่ยประโยคนี้ออกมา ทั่วทั้งตำหนักเอกภพตกอยู่ในความเงียบสงัด

อริยะทั้งหมดล้วนเบิกตากว้าง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมา

แม้แต่จอมอริยะเสวียนตูและเหล่าตานเองก็เป็นเช่นนี้

เหล่าตานนิ่งเงียบมาโดยตลอด แต่ขณะที่หมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์มาถึง เขาเตรียมตัวพร้อมสำหรับพาพวกเต้าจื้อจุนทั้งสามหลบหนีออกจากที่นี่แล้ว

ผลคือไม่นึกเลยว่าหานเจวี๋ยจะพูดจาโอหังเช่นนี้!

สังหารหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ในกระบี่เดียวอย่างนั้นหรือ

ไม่มีผู้ใดกล้าถามออกไป ทั้งหมดล้วนจ้องมองกระบี่พิพากษาอนธการในมือหานเจวี๋ยอย่างโง่งม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ