บทที่ 857 สุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งฟ้าบุพกาล
“ขุนพลศักดิ์สิทธิ์พ่ายแพ้แล้ว”
บรรพชนมารลู่หยวนตอบ น้ำเสียงราบเรียบ
หานทั่วและอี๋เทียนสบตากัน ต่างมองเห็นความตื่นเต้นในดวงตาของกันและกัน
เมื่อแสนกว่าปีก่อน เขาเคยได้ยินเสียงของหานเจวี๋ย เพียงแต่ไม่กล้ายืนยันสถานการณ์ศึก
“สมกับเป็นท่านพ่อบุญธรรมของข้า ร้ายกาจจริงๆ!”
อี๋เทียนเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ หานทั่วฟังแล้วกลอกตาใส่
บรรพชนมารลู่หยวนกล่าวว่า “พวกเจ้าไปพร้อมกับข้าเถอะ”
หานทั่วและอี๋เทียนไม่ได้คัดค้านอะไร พยักหน้ารับทันที เหาะตามไป
ทั้งสามออกจากโลกใบนี้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง อี๋เทียนตื่นเต้นยิ่ง สอบถามบรรพชนมารลู่หยวนอยู่ตลอดว่าขุนพลศักดิ์สิทธิ์ตายอย่างไร เป็นอย่างที่หานเจวี๋ยกล่าวไว้จริงหรือไม่ ที่ว่ามีขุนพลศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นมาอีกสองหมื่นคน
บรรพชนมารลู่หยวนตอบไปตามความจริง ทั้งสองฟังแล้วเลือดลมพลุ่งพล่าน
….
ผ่านไปอีกหนึ่งแสนปี
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น
ตบะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่นับว่าเร็ว แต่มีความก้าวหน้าจริงๆ ตอนนี้เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะทะลวงขั้น
โลกอนธการยังคงขยายตัวอยู่ ขณะนี้ยังคงไร้ขีดจำกัดเช่นกัน อีกทั้งเหลือเวลาอีกนานกว่าจะถึงศึกตัดสินกับผู้นำดวงจิตมหามรรค หานเจวี๋ยยังมีโอกาสสำหรับทะลวงสองขั้นย่อย ถึงขั้นที่อาจมากกว่านั้น
หานเจวี๋ยตรวจดูจดหมายตามความเคยชิน
มีโชควาสนาต่างกันไป บ้างก็ถูกทุบตีหรือไม่ก็บุกเบิกแผนที่ใหม่
หลังจากบรรลุถึงยอดมหามรรค ถึงแม้หานเจวี๋ยจะสามารถสอดส่องทั่วฟ้าบุพกาลได้ แต่ในฟ้าบุพกาลยังมีเขตพื้นที่ที่ถูกปิดกั้นด้วยพลังลึกลับอยู่อีกมาก มองเห็นเพียงขอบเขตกว้างใหญ่เพียงใด มองไม่เห็นทุกสิ่งที่ถูกซ่อนเร้นไว้ภายในขอบเขต ดังนั้นหากว่ากันในอีกมุมหนึ่งแล้ว ยอดมหามรรคก็ไม่สามารถสอดส่องฟ้าบุพกาลอย่างครบถ้วนได้
หลังอ่านจดหมายเสร็จ หานเจวี๋ยสอดส่องมรรคาสวรรค์ต่อ
เส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาลทั้งสองสายสร้างเสร็จแล้ว มีผู้บำเพ็ญสัญจรไปมาไม่ขาดสาย รุ่งเรืองยิ่งกว่าช่วงก่อนขุนพลศักดิ์สิทธิ์บุกมาโจมตี
โลกพุทธะและโลกหงหยวนก็เชื่อมต่อกับแดนเซียนเช่นกัน ดวงชะตามรรคาสวรรค์โคจรอยู่ในสามโลก
รุ่งเรืองสดใส!
หานเจวี๋ยพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นก็เริ่มเทศนาธรรมให้ศิษย์ภายในเขตเซียนร้อยคีรี
ปัจจุบันนี้ เหล่าศิษย์ในเขตเซียนร้อยคีรีทะลุถึงสิบห้าล้านรายแล้ว ยังคงอยู่ในขอบเขตที่ตั้งใจควบคุมไว้
หานตั้วเทียนและหลี่เสวียนเอ้ายังคงกุมอำนาจส่วนใหญ่ของสำนักซ่อนเร้นไว้ หานเจวี๋ยก็ยังคงไว้วางใจพวกเขายิ่งนัก คอยตรวจสอบดูเป็นครั้งคราวก็พอแล้ว
การเทศนาธรรมดำเนินอยู่หนึ่งร้อยปี
หานเจวี๋ยมายังอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง เทศนาธรรมให้เทพมารฟ้าบุพกาลทั้งสี่สิบเจ็ดตนต่อ
ร้อยปีต่อมา เทพมารขุนพลสวรรค์ มู่หรงฉี่และจิ้งจอกชาดเริ่มมุ่งหน้าสู่ระดับเสรีแล้ว
หานเจวี๋ยพอใจมาก ในที่สุดสมาชิกชุดแรกของกองทัพเทพมารก็ไล่ตามทันแล้ว อีกไม่นานก็สามารถแซงหน้าศิษย์คนอื่นๆ ในสำนักซ่อนเร้นได้แล้ว
เช่นนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ ต่อให้โจวฝานและพวกเต้าจื้อจุนจะมีโชควาสนายิ่งใหญ่แค่ไหน เรื่องคุณสมบัติก็เทียบกับเทพมารฟ้าบุพกาลไม่ได้
หลังเทศนาธรรมจบ หานเจวี๋ยก็ไม่ได้รบกวนลี่เหยาและอู้เต้าเจี้ยนเลย จากไปเงียบๆ
เมื่อกลับมาถึงอาณาเขตเต๋าหลักไอรีนโนเวล
ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังจะฝึกบำเพ็ญ ทันใดนั้นเขารับรู้ถึงบางสิ่งได้
เขาทอดสายตาออกไป มองไปที่มุมหนึ่งของชายขอบฟ้าบุพกาล เขามองเห็นห้วงจักรวาลแห่งหนึ่ง
จักรวาลนั้นแปรสภาพมาจากดาวดวงหนึ่งที่หานเจวี๋ยโยนออกไปในตอนที่เขาพิสูจน์ยอดมหามรรคสำเร็จ ตอนนี้ กฎแห่งการสรรค์สร้างได้แผ่สายใยเส้นหนึ่งเชื่อมต่อเข้ากับจักรวาลแห่งนั้นแล้ว สายใยนี้กำลังขยายใหญ่ขึ้น
หานเจวี๋ยหรี่ตาลง
นี่คือความการุณของกฎแห่งการสรรค์สร้างหรือ
เมื่อมีพลังแห่งการสรรค์สร้างเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วห้วงจักรวาลแห่งนั้นจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต อีกทั้งจะวิวัฒนาการกลายเป็นห้วงจักรวาลแบบปกติทั่วไปอย่างรวดเร็ว
หานเจวี๋ยใจเต้นแรงเล็กน้อย
บางทีเขาอาจจะพึ่งพาห้วงจักรวาลแห่งนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งการสรรค์สร้างได้
หานเจวี๋ยทิ้งกระแสจิตไว้ จากนั้นจิตรับรู้ก็กลับเข้าร่างจริง ฝึกบำเพ็ญต่อไป
….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...