เขาเดินออกจากถ้ำเทวา มายืดเส้นยืดสายหน้าต้นฝูซัง
สวินฉางอันและไก่คุกรัตติกำลังฝึกฝน ต้นฝูซังกับน้ำเต้าพิภพเซียนเติบโตได้ไม่เลว ด้วยกานเสริมส่งของพวกมัน พลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนก็เพิ่มทวีอย่างมั่นคง
หานเจวี๋ยมองดูด้วยความพอใจ สมกับเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ พลังชีวิตก็เหนือกว่าของล้ำค่าฟ้าดินอื่นๆ เป็นอย่างมาก
หลังจากไก่คุกรัตติกาลครอบครองต้นฝูซังแล้ว ต้นฝูซังก็ไม่สั่นไหวกลางดึกอีก อย่าว่าแต่สัตว์เทพเลย แม้แต่สัตว์ปีศาจก็ไม่ถูกเรียกมา
หานเจวี๋ยเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์อย่างเคยชิน
[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของสัตว์ปีศาจ] x5877
[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย พบกับการช่วยเหลือของผู้ทรงพลังเผ่าปีศาจ หนีพ้นจากความตายมาได้]
[หยางเทียนตงศิษย์ของท่านปิดด่านมุมานะฝึกฝน เข้าใจมรรคปีศาจ พลังมรรคเพิ่มพูน]
[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายหลัก] x3119
[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายหลัก] x3028
[เซียนซีเสวียนสหายของท่านพบกับโอกาสวาสนา ดวงชะตาสูงขึ้น]
[เซียวเหยาสหายของท่านเผชิญกับคำสาปเทพเซียน ได้รับความทรมานมาก] x5
[ซูฉีศิษย์ของท่านฝึกฝนวิชามาร คุณสมบัติเทพเริ่มตื่นตัว]
……
หานเจวี๋ยจนคำพูด
จริงๆ เลย!
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นทำอะไรอยู่กันแน่
เอาแต่ถูกโจมตี เพิ่งบาดเจ็บสาหัสไปไม่นานก็กลับมาบาดเจ็บสาหัสอีกแล้ว โชคดีที่มันเป็นสัตว์เทพโชคชะตา หากเป็นคนอื่นคงตายไปเสียนานแล้ว
โม่ฟู่ฉวกับโจวฟานคงอยู่ด้วยกัน จำนวนครั้งในการถูกโจมตีของทั้งสองใกล้เคียงกันมาก เท่าที่หานเจวี๋ยรู้จักพวกเขาทั้งสอง คนที่หาเรื่องจะต้องเป็นโจวฝานอย่างแน่นอน
คนที่มีชื่อฝานมักจะไม่ยอมเป็นคนธรรมดา บางทีนี่อาจจะเป็นชะตาชีวิต
หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าเซียนซีเสวียนได้รับโอกาสวาสนาอีกแล้ว
ในช่วงเวลาหลายสิบปีนี้ เซียนซีเสวียนไปหาประสบการณ์ด้านนอกตลอด ตบะของนางก็เพิ่มขึ้นตลอดเวลา มีความหวังที่จะทะลวงถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณแล้ว
ขณะที่สำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ตบะของผู้อาวุโสจำนวนมากก็เริ่มเพิ่มพูน นี่กลับเป็นเรื่องที่ดี
เซียวเหยาเผชิญกับคำสาปเทพเซียนโดยเฉลี่ยปีละครั้ง เจ้าหมอนี่เป็นอะไรกันแน่
หานเจวี๋ยพลันรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา สำนักหยกพิสุทธิ์รับเซียวเหยาไว้จะนำมาซึ่งภัยพิบัติหรือไม่
และก็ซูฉี คุณสมบัติเทพเพิ่งเริ่มตื่นตัวหรือ
โชคร้ายของเจ้าหมอนี่ก็น่ากลัวพอแล้ว หลังจากตื่นตัวมันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าตัวเองทำถูกที่ส่งซูฉีออกไป หากรั้งอยู่ในสำนักหยกพิสุทธิ์นานเข้า อาจจะสร้างหายนะให้สำนักหยกพิสุทธิ์ได้ในไม่ช้าก็เร็ว
แต่จะว่าไปแล้ว การดำรงชีวิตของคนอย่างซูฉีนี้ แท้จริงแล้วมันน่าเศร้ายิ่งนัก คนรอบกายล้วนตายเพราะเขา และเขากลับไม่รู้สถานะในชาติก่อนของตัวเองอย่างชัดเจน อาจจะคิดว่าสวรรค์กำลังพุ่งเป้าไปยังเขา
หานเจวี๋ยสงสัยเป็นอย่างมากว่าสวรรค์ส่งเขาลงมาจุติในโลกมนุษย์เพื่อประสงค์ใด
พอหวนคิดดูอีกที โลกมนุษย์มีสัตว์เทพภัยพิบัติอย่างจูโต้วได้ การปรากฏตัวของดาวตัวซวยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
เป็นเพราะมีการดำรงอยู่ของจูโต้วและดาวตัวซวย ถึงจะไม่ปรากฏนักคิดผู้ยิ่งใหญ่อย่างทานอส
บางทีนี่อาจจะเป็นเจตนาที่ลึกซึ้งของสวรรค์
หานเจวี๋ยคาดเดาเช่นนี้
ไม่นาน เขาก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งเฒ่าประหลาดอู้เต้า จูเชวี่ย สลับกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาห้าวัน
ขณะเดียวกันนั้น
บนยอดเขาหลัก
หลี่ชิงจื่อ ผู้อาวุโสสูงสุด เซียวเหยา และบรรดาผู้อาวุโสต่างก็มารวมตัวบนตำหนักอย่างพร้อมเพรียง
พวกเขาต่างมองไปยังคนผู้หนึ่งที่อยู่บนตำหนัก คนผู้นี้มาจากสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต นามว่านักพรตเต๋าเหยียนหลิน เป็นผู้บำเพ็ญระดับสุญตา มีสถานะอยู่ระดับผู้อาวุโส
นักพรตเต๋าเหยียนหลินแอบรู้สึกมึนงง
สำนักหยกพิสุทธิ์อ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือ
นอกจากเซียวเหยาแล้ว คนอื่นๆ รวมตัวกันทั้งหมดยังไม่สามารถขู่ขวัญเขาได้
เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านเจ้าสำนักต้องบากหน้ามาพึ่งสำนักหยกพิสุทธิ์ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังบอกจุดประสงค์ที่มาแต่โดยดี
สำนักสวรรค์เพลิงโลหิตได้มาถึงจุดที่ชีวิตแขวนอยู่บนหน้าผาแล้ว ได้แต่รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น[1]
พอเขากล่าวจบ ผู้คนทั้งหลายต่างมองหน้าสบตากัน ประจักษ์ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตจะบากหน้ามาพึ่งพาสำนักหยกพิสุทธิ์
หลี่ชิงจื่อขมวดคิ้วกล่าว “สำนักของท่านกำลังทำศึกใหญ่กับสำนักไร้ลักษณ์ สำนักหยกพิสุทธิ์ก็ไม่อยากมีส่วนร่วมในหายนะครั้งนี้ด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...