ตอน บทที่ 89 คุณสมบัติเทพตื่นตัว พบผู้มีดวงชะตาอีกแล้ว จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 89 คุณสมบัติเทพตื่นตัว พบผู้มีดวงชะตาอีกแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เขาเดินออกจากถ้ำเทวา มายืดเส้นยืดสายหน้าต้นฝูซัง
สวินฉางอันและไก่คุกรัตติกำลังฝึกฝน ต้นฝูซังกับน้ำเต้าพิภพเซียนเติบโตได้ไม่เลว ด้วยกานเสริมส่งของพวกมัน พลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนก็เพิ่มทวีอย่างมั่นคง
หานเจวี๋ยมองดูด้วยความพอใจ สมกับเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ พลังชีวิตก็เหนือกว่าของล้ำค่าฟ้าดินอื่นๆ เป็นอย่างมาก
หลังจากไก่คุกรัตติกาลครอบครองต้นฝูซังแล้ว ต้นฝูซังก็ไม่สั่นไหวกลางดึกอีก อย่าว่าแต่สัตว์เทพเลย แม้แต่สัตว์ปีศาจก็ไม่ถูกเรียกมา
หานเจวี๋ยเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์อย่างเคยชิน
[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของสัตว์ปีศาจ] x5877
[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย พบกับการช่วยเหลือของผู้ทรงพลังเผ่าปีศาจ หนีพ้นจากความตายมาได้]
[หยางเทียนตงศิษย์ของท่านปิดด่านมุมานะฝึกฝน เข้าใจมรรคปีศาจ พลังมรรคเพิ่มพูน]
[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายหลัก] x3119
[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายหลัก] x3028
[เซียนซีเสวียนสหายของท่านพบกับโอกาสวาสนา ดวงชะตาสูงขึ้น]
[เซียวเหยาสหายของท่านเผชิญกับคำสาปเทพเซียน ได้รับความทรมานมาก] x5
[ซูฉีศิษย์ของท่านฝึกฝนวิชามาร คุณสมบัติเทพเริ่มตื่นตัว]
……
หานเจวี๋ยจนคำพูด
จริงๆ เลย!
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นทำอะไรอยู่กันแน่
เอาแต่ถูกโจมตี เพิ่งบาดเจ็บสาหัสไปไม่นานก็กลับมาบาดเจ็บสาหัสอีกแล้ว โชคดีที่มันเป็นสัตว์เทพโชคชะตา หากเป็นคนอื่นคงตายไปเสียนานแล้ว
โม่ฟู่ฉวกับโจวฟานคงอยู่ด้วยกัน จำนวนครั้งในการถูกโจมตีของทั้งสองใกล้เคียงกันมาก เท่าที่หานเจวี๋ยรู้จักพวกเขาทั้งสอง คนที่หาเรื่องจะต้องเป็นโจวฝานอย่างแน่นอน
คนที่มีชื่อฝานมักจะไม่ยอมเป็นคนธรรมดา บางทีนี่อาจจะเป็นชะตาชีวิต
หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าเซียนซีเสวียนได้รับโอกาสวาสนาอีกแล้ว
ในช่วงเวลาหลายสิบปีนี้ เซียนซีเสวียนไปหาประสบการณ์ด้านนอกตลอด ตบะของนางก็เพิ่มขึ้นตลอดเวลา มีความหวังที่จะทะลวงถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณแล้ว
ขณะที่สำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ตบะของผู้อาวุโสจำนวนมากก็เริ่มเพิ่มพูน นี่กลับเป็นเรื่องที่ดี
เซียวเหยาเผชิญกับคำสาปเทพเซียนโดยเฉลี่ยปีละครั้ง เจ้าหมอนี่เป็นอะไรกันแน่
หานเจวี๋ยพลันรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา สำนักหยกพิสุทธิ์รับเซียวเหยาไว้จะนำมาซึ่งภัยพิบัติหรือไม่
และก็ซูฉี คุณสมบัติเทพเพิ่งเริ่มตื่นตัวหรือ
โชคร้ายของเจ้าหมอนี่ก็น่ากลัวพอแล้ว หลังจากตื่นตัวมันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าตัวเองทำถูกที่ส่งซูฉีออกไป หากรั้งอยู่ในสำนักหยกพิสุทธิ์นานเข้า อาจจะสร้างหายนะให้สำนักหยกพิสุทธิ์ได้ในไม่ช้าก็เร็ว
แต่จะว่าไปแล้ว การดำรงชีวิตของคนอย่างซูฉีนี้ แท้จริงแล้วมันน่าเศร้ายิ่งนัก คนรอบกายล้วนตายเพราะเขา และเขากลับไม่รู้สถานะในชาติก่อนของตัวเองอย่างชัดเจน อาจจะคิดว่าสวรรค์กำลังพุ่งเป้าไปยังเขา
หานเจวี๋ยสงสัยเป็นอย่างมากว่าสวรรค์ส่งเขาลงมาจุติในโลกมนุษย์เพื่อประสงค์ใด
พอหวนคิดดูอีกที โลกมนุษย์มีสัตว์เทพภัยพิบัติอย่างจูโต้วได้ การปรากฏตัวของดาวตัวซวยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
เป็นเพราะมีการดำรงอยู่ของจูโต้วและดาวตัวซวย ถึงจะไม่ปรากฏนักคิดผู้ยิ่งใหญ่อย่างทานอส
บางทีนี่อาจจะเป็นเจตนาที่ลึกซึ้งของสวรรค์
หานเจวี๋ยคาดเดาเช่นนี้
ไม่นาน เขาก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งเฒ่าประหลาดอู้เต้า จูเชวี่ย สลับกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาห้าวัน
ขณะเดียวกันนั้น
บนยอดเขาหลัก
หลี่ชิงจื่อ ผู้อาวุโสสูงสุด เซียวเหยา และบรรดาผู้อาวุโสต่างก็มารวมตัวบนตำหนักอย่างพร้อมเพรียง
พวกเขาต่างมองไปยังคนผู้หนึ่งที่อยู่บนตำหนัก คนผู้นี้มาจากสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต นามว่านักพรตเต๋าเหยียนหลิน เป็นผู้บำเพ็ญระดับสุญตา มีสถานะอยู่ระดับผู้อาวุโส
นักพรตเต๋าเหยียนหลินแอบรู้สึกมึนงง
สำนักหยกพิสุทธิ์อ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือ
นอกจากเซียวเหยาแล้ว คนอื่นๆ รวมตัวกันทั้งหมดยังไม่สามารถขู่ขวัญเขาได้
เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านเจ้าสำนักต้องบากหน้ามาพึ่งสำนักหยกพิสุทธิ์ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังบอกจุดประสงค์ที่มาแต่โดยดี
สำนักสวรรค์เพลิงโลหิตได้มาถึงจุดที่ชีวิตแขวนอยู่บนหน้าผาแล้ว ได้แต่รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น[1]
พอเขากล่าวจบ ผู้คนทั้งหลายต่างมองหน้าสบตากัน ประจักษ์ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตจะบากหน้ามาพึ่งพาสำนักหยกพิสุทธิ์
หลี่ชิงจื่อขมวดคิ้วกล่าว “สำนักของท่านกำลังทำศึกใหญ่กับสำนักไร้ลักษณ์ สำนักหยกพิสุทธิ์ก็ไม่อยากมีส่วนร่วมในหายนะครั้งนี้ด้วย”
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างเรียบนิ่ง “หมายความว่าที่จริงแล้วพวกเราไม่มีทางเลือก แม้จะปฏิเสธสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต สำนักไร้ลักษณ์ก็อาจจะล้มล้างแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนอยู่ดี”
หลี่ชิงจื่อพยักหน้าอย่างจนใจ
“เอาเช่นนี้เถอะ รอนักพรตเต๋าเหยียนหลินพ่ายแพ้แล้ว ให้เขากลับไปเชิญเจ้าสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตและนักพรตเต๋าชิงเสียนมาด้วยตัวเอง” หานเจวี๋ยกล่าวพึมพำ
หลี่ชิงจื่อดีใจมาก นี่ผู้อาวุโสหานจะลงมือแล้วหรือนี่
หากจะกลืนกินสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต ก็ต้องโจมตีและกดดันสักหน่อย อย่างไรเสียกำลังของทั้งสองฝ่ายก็ห่างกันมาก ต่อให้ทำการปรับประสานใหม่ ก็ใช่ว่าภายหน้าสำนักหยกพิสุทธิ์จะสามารถควบคุมสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตได้
หลี่ชิงจื่อรีบจากไปทันที
การประลองเวทระหว่างเซียวเหยาและนักพรตเต๋าเหยียนหลินดำเนินติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป การประลองครั้งนี้ทำให้บรรดาศิษย์สำนักหยกพิสุทธิ์ได้เปิดโลกทัศน์เป็นอย่างมาก
ผู้อาวุโสเซียวแข็งแกร่งยิ่งนัก!
ขณะที่เซียวเหยาแสดงร่างออกมานับหมื่นร่าง การต่อสู้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก นักพรตเต๋าเหยียนหลินถูกกดโจมตีโดยสมบูรณ์
หลี่ชิงจื่อบอกความประสงค์ของหานเจวี๋ยให้กับนักพรตเต๋าเหยียนหลิน นักพรตเต๋าเหยียนหลินจากไปด้วยสีหน้าหดหู่
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หานเจวี๋ยลูบปลายคาง กล่าวพึมพำว่า “ไม่ได้ ข้าไม่อาจจำลองการทดสอบกับเฒ่าประหลาดอู้เต้าได้ ไม่รู้พลังที่แน่ชัดของเขา หากเจ้าหมอนี่มีเคล็ดวิชาพิเศษหรือพลังวิเศษเล่า”
พอเปิดศึก หานเจวี๋ยจำเป็นต้องสังหารเฒ่าประหลาดอู้เต้า ไม่อาจให้เขาหลบหนีไปได้อย่างนักพรตเต๋าชิงเสียน
หานเจวี๋ยนึกถึงตราประทับหกวิถีของตน
ครั้งหน้าจะต่อสู้กับศัตรูหรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็ลงตราประทับหกวิถีกับอีกฝ่ายก่อน?
เช่นนี้แล้วไม่ว่าอีกฝ่ายจะหนีไปที่ไหน หานเจวี๋ยก็สามารถจับตัวได้
หากเป็นเช่นนี้ หานเจวี๋ยก็ต้องทำดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพให้ให้แข็งแกร่งจนถึงขั้นสุด
ถึงเวลานั้นก็โจมตีศัตรูระยะไกลจากเขาเพียรบำเพ็ญเซียน!
ขณะที่ความคิดของหานเจวี๋ยผุดขึ้นในสมองนั้น พลันมีอักขระหนึ่งแถวปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[ตรวจสอบพบผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด จะตรวจสอบที่มาหรือไม่]
……………………………………….
[1] สำนวนจีน หมายถึงแม้เข้าใจสถานการณ์ แต่กลับไม่มีหนทางแก้ไข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...