ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 90

บทที่ 90 จักพรรดิเทพเมี่ยวเจิน ยุคเจริญของคนคนหนึ่ง
ผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด?

หานเจวี๋ยอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่ได้พบเจอผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิดมานานแล้ว

เขารีบตรวจสอบที่มาทันที

[มู่หรงฉี่: ระดับรวมแก่นปราณขั้นสี่ เทพสงครามวังเทพสวรรค์กลับชาติมาเกิด ฉายานามคือจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน ถูกจักพรรดิเซียนเผ่าปีศาจล้อมโจมตี กายเนื้อถูกทำลายเสียหาย วิญญาณตกอยู่ในวัฏสงสารกลับชาติมาเกิดในโลกมนุษย์ ในระหว่างที่เวียนว่ายตายเกิดก็ทำการฟื้นฟูจิตเทพอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยมีดวงชะตาของจักรพรรดิเทพ แม้ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ยังคงมีคุณสมบัติไม่เป็นสองรองใคร ท่ามกลางความมืดมิด เขาถูกโสมวิญญาณบรรพกาลดึงดูดมายังสำนักหยกพิสุทธิ์]

หานเจวี๋ยอึ้งไปทันที

เทพสงครามวังเทพ?

จักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน?

วังเทพคือกลุ่มอำนาจระดับใดกัน

เทียบกับวังสวรรค์แล้วจะเป็นเช่นไร

หานเจวี๋ยพลันรู้สึกว่าโลกเบื้องบนอาจจะแตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้ ไม่ใช่แค่วังสวรรค์ที่เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว อาจจะมีกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งเป็นอันมาก อีกทั้งความสัมพันธ์ของกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ยังอยู่ในสภาพที่ตกนรกทั้งเป็น

ตอนนี้รู้แล้วว่ามีวังสวรรค์ วังเทพ และพุทธาเทพ

หานเจวี๋ยหวนคิดอย่างรวดเร็ว นี่ก็เป็นเรื่องปกติ หากเขาไม่สามารถตรวจสอบพบผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิดได้ เกรงว่าคงจะไม่รับรู้ถึงการดำรงอยู่อันยอดเยี่ยมเหล่านี้

ในนิยาย ตัวเอกจะได้พบกับบุคคลที่เป็นราวกับบุตรแห่งของสวรรค์ในแบบต่างๆ เพียงแต่ตัวเอกเหล่านั้นมองไม่เห็นชาติกำเนิดของบรรดาศัตรูทั้งหลาย

แม้ว่ามู่หรงฉี่จะเป็นจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจินกลับชาติมาเกิด แต่หากชาตินี้ถูกคนโจมตีจนตาย ก็มีผลกระทบไม่มากนัก ต่อให้จะฟื้นคืนสถานะจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน ก็จะไม่ไปแก้แค้น

ใครเล่าจะรู้ว่า มู่หรงฉี่กลับชาติมาเกิดไปตั้งกี่ครั้งแล้ว ก็เหมือนกับสวินฉางอันที่เป็นชาติที่สามสิบเก้า ภายหน้าทะยานขึ้นไปยังภพเบื้องบน คงไม่อาจมาแก้แค้นในทุกๆ ภพชาติได้

หนึ่งโลกมนุษย์ หนึ่งความแค้น

สวินฉางอันโสมวิญญาณบรรพกาลดึงดูดการมาของจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน แล้วต่อไปจะดึงดูดผู้ที่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งคนอื่นมาอีกหรือไม่

สวินฉางอันเป็นตือโป้ยก่ายเสียที่ไหนกัน เห็นชัดๆ ว่าเขาเป็นพระถังซัมจั๋ง!

หานเจวี๋ยกวาดพลังจิตออกไปค้นหามู่หรงฉี่

มู่หรงฉี่กับผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้าเหาะมาทางสำนักหยกพิสุทธิ์ ผู้ที่นำอยู่ด้านหน้าคือกวนโยวกัง

ผู้บำเพ็ญเหล่านี้ล้วนไม่ได้สวมชุดของสำนักหยกพิสุทธิ์ คาดว่าเพิ่งรับเข้ามาใหม่

หานเจวี๋ยเพ่งความสนใจไปที่มู่หรงฉี่

มู่หรงฉี่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กหนุ่ม ดูแล้วอายุราวๆ สิบห้าสิบหกปี คาดว่าคงรับประทานโอสถชะลอวัยเร็วไปหน่อย

หานเจวี๋ยไม่ได้คิดอะไรมาก ต่อให้มู่หรงฉี่คิดจะกินโสมวิญญาณบรรพกาล ตบะระดับรวมแก่นปราณก็ไม่อาจทำให้เขาบรรลุผลได้

ยิ่งไปกว่านั้น…

สวินฉางอันอัปลักษณ์เช่นนี้ ใครจะกินได้ลง

หานเจวี๋ยเริ่มครุ่นคิดอย่างหนักว่า ทำอย่างไรดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพถึงจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

ขณะที่ผ่านเขาเพียรบำเพ็ญเซียนนั้น มู่หรงฉี่พลันเอ่ยปากถาม “เขาลูกนี้ก็เป็นเขาของสำนักหยกพิสุทธิ์ใช่หรือไม่”

คนอื่นก็มองไปรอบๆ เช่นกัน เพราะเขาลูกนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณ

“อืม นี่ก็คือเขาของผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์ ต่อไปพวกเจ้าอย่าได้มาบุกรุก มิเช่นนั้นจะถูกขับไล่ออกจากสำนักทันที” กวนโยวกังพยักหน้ากล่าว สายตาที่มองไปทางเขาเพียรบำเพ็ญเซียนเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง

มู่หรงฉี่ราวกับกำลังใช้ความคิด

‘ที่นี่แหละ สิ่งที่ข้าต้องการตามหาจะต้องอยู่บนเขาลูกนี้แน่’

มู่หรงฉี่คิดอย่างเงียบๆ

ตั้งแต่เกิดมา เขาก็มีลางสังหรณ์ที่เหนือกว่าคนทั่วไป ซึ่งช่วยเขาหาโอกาสอันดีได้เป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้เขาเคยไปสำนักหยกพิสุทธิ์ฝ่ายนอก ยามนี้สำนักหยกพิสุทธิ์มีชื่อเสียงโด่งดังในต้าเยี่ยน เขาไม่กล้ารุกล้ำ ดังนั้นจึงหาสถานที่ที่รับผู้บำเพ็ญอิสระเข้าสำนักหยกพิสุทธิ์ เพื่อสมัครเข้าร่วมสำนักหยกพิสุทธิ์

“ผู้อาวุโสสังหารเทพรับศิษย์หรือไม่” มู่หรงฉี่เอ่ยถาม

กวนโยวกังกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “รับน่ะรับอยู่ แต่ไม่อาจรบกวนผู้อาวุโสสังหารเทพได้ ก่อนหน้านี้มีพระรูปหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ตรงตีนเขาเป็นเวลาห้าปี ถึงจะกราบตัวเป็นศิษย์ได้สำเร็จ”

เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมา เหล่าผู้ฝึกฝนอิสระก็รู้สึกตกใจอย่างอดไม่ได้

คุกเข่าห้าปี?

จิตใจเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก!

พอมู่หรงฉี่ได้ยินก็จดจำเรื่องนี้ไว้ในใจ

กลุ่มคนพากันเหาะอ้อมเขาเพียรบำเพ็ญเซียนไปยังยอดเขาหลัก

ใต้ต้นฝูซัง

จู่ๆ สวินฉางอันก็ลืมตาขึ้นมา เขาลูบอกตนเองเบาๆ ลอบเกิดความสงสัยขึ้นมา

“เหตุใดถึงรู้สึกไม่สบายใจบางอย่าง…”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความรู้สึกเช่นนี้ หรือว่าเขาจะมีมารในใจ?

สวินฉางอันอดที่จะรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้ เขาตรวจสอบวิชายุทธ์ของตนเองอีกครั้ง เพื่อดูว่าฝึกฝนผิดตรงไหนไปหรือไม่

……

สองเดือนต่อมา

ท้องนภาเต็มไปด้วยแสงสีม่วงอีกครั้ง ทำให้คนทั่วหล้ารู้สึกตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก

อีกแล้วรึ

ไม่ผิด!

หานเจวี๋ยอาศัยความเข้าใจมรรคกระบี่ขั้นสูงสุดเข้าไปในแม่น้ำมรรคกระบี่อีกครั้ง ฟ้าดินพลันเกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นหลังจากนั้น

แม้ว่าดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพจะเป็นวิชาดรรชนี แต่รากฐานของมันเป็นวิชากระบี่ ซึ่งคล้ายกับดรรชนีกระบี่เทพเป็นอย่างมาก ใช้ดรรชนีเป็นกระบี่ยิงปราณกระบี่ออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ