ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 910

สรุปบท บทที่ 910 ฟ้าบุพกาลยากจะหยั่ง: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

อ่านสรุป บทที่ 910 ฟ้าบุพกาลยากจะหยั่ง จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บทที่ บทที่ 910 ฟ้าบุพกาลยากจะหยั่ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 910 ฟ้าบุพกาลยากจะหยั่ง

ในอวกาศกว้างไพศาล เรือใบขบวนหนึ่งแล่นมุ่งหน้าไปในทิศทางหนึ่ง

เรือใบขนาดใหญ่ลำหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าสุดมีนักพรตเต๋าวัยกลางคนรายหนึ่งยืนบนดาดฟ้าเรือ มีแผ่นหินขนาดเท่าฝ่ามือสิบชิ้นลอยวนอยู่รอบตัว ดูราวกับชิ้นส่วนตัวต่อ ลึกลับยากจะคาดเดา

นักพรตเต๋าวัยกลางคนจ้องมองจักรวาลดาราที่ส่องแสงพราวระยับอยู่ด้านหน้า ขมวดคิ้วนิดๆ

สิ่งมีชีวิตร่างงูเศียรคนตนหนึ่งที่ด้านข้างเอ่ยยิ้มๆ “ไม่คิดเลยว่าในฟ้าบุพกาลซุกซ่อนโลกเหนือชั้นเช่นนี้ไว้ เหมาะสำหรับให้เผ่าพันธุ์ของพวกเราอยู่อาศัยยิ่ง”

นักพรตเต๋าวัยกลางคนเอ่ยว่า “ผิดปกติ ละแวกนี้ไม่มีผนึกทรงพลังอยู่เลย ด้านในก็ไม่มีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิต เหตุใดถึงไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นมาครอบครองก่อนเลย”

สิ่งมีชีวิตร่างงูเศียรคนเอ่ยว่า “ฟ้าบุพกาลไร้ขอบเขต ไม่ถูกสิ่งมีชีวิตค้นพบก็เป็นเรื่องปกติ”

“ก็ถูก เพียงแต่ระวังไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย”

นักพรตเต๋าวัยกลางคนเอ่ยเตือน

สิ่งมีชีวิตร่างงูเศียรคนพยักหน้ารับ หันไปถ่ายทอดคำสั่ง

ในเวลาเดียวกันนี้

ภายในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม

หานฮวงมองเผ่าพันธุ์ที่อยู่นอกจักรวาล สีหน้าตื่นเต้น ไอรีนโนเวล

“อริยะเสรี เป็นโอกาสให้ข้าได้ฝึกฝนฝีมือพอดี เปิดประสบการณ์”

หานฮวงพึมพำกับตัวเอง เขาย่อกายกระโจน หวังจะพุ่งออกไป

ครืน!

ค่ายกลอาณาเขตเต๋าอันไร้รูปลักษณ์บนท้องฟ้าสกัดขวางหานฮวงไว้ ท้องนภากระเพื่อมไหว ทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหมดที่อยู่ในอาณาเขตเต๋าเงยหน้ามองด้วยความตกใจ

หานชิงเอ๋อร์แสดงสีหน้าประหลาดใจ เด็กคนนี้คิดจะทำอะไร

นางเงยหน้ามองขึ้นไปเช่นกัน ไม่นานนักก็มองเห็นเผ่าพันธุ์ลึกลับที่อยู่นอกจักรวาลแล้ว

“พี่รอง อย่ากังวลเลย มีเจียงเจวี๋ยซื่ออยู่ ไม่มีทางเกิดอันตรายขึ้น” หานชิงเอ๋อร์ร้องบอก ในอดีตนางเคยเห็นเจียงเจวี๋ยซื่อออกโรงแล้ว จัดการผู้รุกรานได้ราบคาบ

พอหานฮวงได้ยิน ยิ่งขมวดคิ้วแน่น

เขาไม่ได้ดึงดันกระแทกค่ายกลอาณาเขตเต๋าต่อ แต่หันหลังเหาะมุ่งไปหน้าอารามเต๋าของหานเจวี๋ย เขาคิดเข้าไปด้านใน ขอให้หานเจวี๋ยปล่อยเขาออกไป ผลคือเขาไม่สามารถเข้าไปในอารามเต๋าของหานเจวี๋ยได้

หานเจวี๋ยยุ่งอยู่กับการฝึกบำเพ็ญ ไหนเลยจะปล่อยให้เขารบกวนได้

หานฮวงมีสีหน้าคับข้อง เขาเป็นอริยะมหามรรค ไม่น่าเชื่อว่าจะยังไม่สามารถขยับเขยื้อนประตูบานนี้

เขารู้ว่าท่านพ่อแข็งแกร่งยิ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแกร่งถึงขั้นที่เขายากจะมองเห็นขอบเขตพลังได้

เขาเป็นถึงอริยะมหามรรคแล้ว แม้แต่ประตูอารามเต๋าแห่งนี้ก็ยังเปิดไม่ออกงั้นหรือ

หานฮวงไม่ยอมรับ กัดฟันดันประตูต่อไป ทุ่มเทพลังทั้งหมดในตัว

จนปัญญาที่ไม่ว่าเขาจะใช้พลังขนาดไหน ก็ดันให้ขยับไม่ได้ เขาถึงขั้นที่ใช้ฝ่ามือสวรรค์มหาเกรียงไกรแล้วก็ไม่สามารถทำลายประตูเบื้องหน้าได้

หานฮวงปล่อยมือ หันหลังเดินออกไป

เขากลับมาปิดด่านฝึกบำเพ็ญในอารามเต๋าของตน

ในขณะเดียวกันนี้ เจียงเจวี๋ยซื่อปรากฏตัวขึ้นนอกจักรวาลดารา หานชิงเอ๋อร์เริ่มชมการต่อสู้แล้ว

เจียงเจวี๋ยซื่อไร้พ่ายในระดับเสรี ผู้นำของเผ่าพันธุ์ที่รุกรานก็เป็นอริยะเสรีเช่นกัน ย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของเขา

การต่อสู้ดำเนินอยู่ไม่นานนัก เจียงเจวี๋ยซื่อเอาชนะได้สบายๆ

หานชิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างสะท้อนใจ “ไม่แปลกเลยที่จะข่มพี่รองได้ แข็งแกร่งจริงๆ”

ทุกครั้งได้ชมการต่อสู้ของเจียงเจวี๋ยซื่อ นางล้วนเลื่อมใสยิ่ง 艾琳小說

ชิงหลวนเอ๋อร์ก็รับชมศึกนี้ด้วย เอ่ยชื่นชมว่า “สมกับที่เป็นศิษย์ของท่านพ่อเจ้า เขาน่าจะเป็นศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของท่านพ่อเจ้ากระมัง”

หานชิงเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่แน่หรอกเจ้าค่ะ ข้าเคยได้ยินพี่รองบอกว่า อย่างมากเจียงเจวี๋ยซื่อก็แค่ติดสิบลำดับแรกในสังกัดของท่านพ่อเท่านั้น”

ชิงหลวนเอ๋อร์ส่ายหน้าหลุดขำออกมา

หานชิงเอ๋อร์เหลือบมองนาง อดถามไม่ได้ “ท่านแม่ ดูเหมือนท่านจะไม่สนใจใคร่รู้ในตัวท่านพ่อสักนิดเลยนะเจ้าคะ ระวังท่านพ่อจะหาสตรีมาเพิ่มอีกหลายนาง!”

ชิงหลวนเอ๋อร์เอ่ยยิ้มๆ “หาก็หาไปสิ นับตั้งแต่ข้ารู้จักท่านพ่อเจ้า เขาก็เต็มไปด้วยความลึกลับแล้ว ข้าเองก็ชอบความลึกลับของเขา ข้าฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ก็เป็นเรื่องที่ไม่กล้าคาดคิดมาก่อนอยู่แล้ว ไหนเลยจะไปรบกวนการฝึกบำเพ็ญของท่านพ่อเจ้าอีก”

หานชิงเอ๋อร์เม้มปาก ไม่เข้าใจมารดาของตนเลย ทว่าก็ไม่ได้พูดมากเช่นกัน

ทุกคนล้วนมีทางเลือกในแบบของตน

ยิ่งไปกว่านั้น ท่านพ่อของนางสมบูรณ์แบบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉม ตบะ หรือว่าอุปนิสัยและบารมี นางรู้สึกว่าไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้อีกแล้ว

ฟังจากคำพูดของเทพมหาทัณฑ์ คนผู้นี้น่าจะมีสายสัมพันธ์อันดีกับดวงจิตบรรพกาลกระมัง

ต่อให้สู้ไม่ไหว ก็น่าจะนั่งไม่ติดสิ สงบนิ่งเช่นนี้ เป็นไปได้สูงว่าสองฝ่ายจะมีไมตรีต่อกัน

หานเจวี๋ยก็ไม่ยอมเสียอายุขัยเพื่อวิวัฒนาการดู แม้ว่าเขาจะเดาถูก ก็ไม่เป็นไรเลย ถึงอย่างไรเขาก็ผูกมิตรกับเทพมหาทัณฑ์แล้ว เท่ากับมีความสัมพันธ์อันดีกับดวงจิตบรรพกาลด้วย

ใครจะเป็นลูกพี่ใหญ่ในฟ้าบุพกาลก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ขอเพียงไม่มาหาเรื่องเขาก็พอ

ต่อให้คิดจะมาหาเรื่องเขา เขาก็สามารถหดหัวซ่อนอยู่ในอาณาเขตเต๋าได้

ฟ้าบุพกาลในปัจจุบันนี้ ถึงเป็นตัวตนระดับผู้สร้างมรรคา ก็ไม่สามารถบุกเข้ามาในอาณาเขตเต๋าของเขาได้

หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูจดหมาย ใส่ใจความเคลื่อนไหวของแวดวงสหายในช่วงนี้

….

ในโลกมืดสลัว หมอกหนาบดบังนภา บนพื้นดินที่กว้างใหญ่ไพศาล มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

เต้าจื้อจุน จ้าวเซวียนหยวนและเจียงอี้นั่งสมาธิรวมกันในบริเวณหนึ่ง เหล่าตานยืนอยู่ไม่ไกล กวาดตามองรอบข้าง

“คงไม่มีอันตรายกระมัง ข้าบอกไปแล้วไง วางใจเถอะ สมบัติชิ้นนั้นของข้าพึ่งพาได้มากยิ่ง หากว่ามีอันตรายเข้ามาใกล้ จะต้องแจ้งเตือนพวกเราแน่” จ้าวเซวียนหยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เหล่าตานแค่นเสียง “สมบัตินั้นของพวกเราอยู่ในสถานที่อื่นอาจจะใช้งานได้จริง แต่อยู่ที่นี่แล้วไม่แน่ว่าจะได้ผล”

จ้าวเซวียนหยวนส่ายหน้าหลุดหัวเราะออกมา

เจียงอี้กล่าวว่า “จะว่าไป ข้ารู้สึกได้จริงๆ ว่ามีบางสิ่งจับตามองพวกเราอยู่ คงไม่ใช่ว่าเป็นเจ้าตัวที่ตามไล่ล่าพวกเราก่อนหน้านี้กระมัง”

“คงไม่ใช่กระมัง นี่ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว พวกเราพักฟื้นกันมาพันปีแล้ว”

จ้าวเซวียนหยวนขมวดคิ้วแน่น ในใจก็เริ่มวิตกขึ้นมาแล้วเช่นกัน

พวกเขาสี่คนหากเป็นเรื่องดีมักจะคาดการณ์ได้ยากนัก แต่หากว่าเป็นเรื่องเคราะห์ร้ายแล้ว แต่ละคนล้วนมีลางสังหรณ์เฉียบไวยิ่ง

ยิ่งคิดจ้าวเซวียนหยวนก็ยิ่งวิตก ลุกขึ้นมาทันที

เขากวาดตามองไปรอบๆ กลัวว่าจะมีศัตรูปรากฏตัวขึ้น

เจียงอี้ถอนหายใจเอ่ยไปว่า “ข้าพร้อมจะเจ็บตัวแล้ว”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ