บทที่ 909 ดวงจิตบรรพกาล ครึ่งก้าวสู่ผู้สร้าง
พอได้ยินว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวงก็ถูกหวงจุนเทียนสยบ หานเจวี๋ยจำเป็นต้องพิจารณาหวงจุนเทียนในมุมใหม่เช่นกัน
ไม่ทันรู้ตัว หวงจุนเทียนก็แข็งแกร่งขึ้นจนลบภาพจำที่หานเจวี๋ยมีต่อเขาไปได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ ในใจของหานเจวี๋ย ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงย่อมแข็งแกร่งกว่าหวงจุนเทียน
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็อยากทำนายดูอนาคตของหวงจุนเทียนขึ้นมา
หวงจุนเทียนบอกเล่าสิ่งที่ตนประสบมาอย่างน้ำไหลไฟดับ มีชีวิตชีวา เขาไม่ใช่คนธรรมดาที่ต้องไต่เต้าสร้างอำนาจในนิกายเจี๋ยเช่นในอดีตแล้ว
สำหรับหานเจวี๋ย เวลาผ่านไปเร็วยิ่ง แต่สำหรับหวงจุนเทียน เวลาช่างเชื่องช้านัก ตอนนี้เขาดูรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง แต่ความจริงแล้วเขาแลกมาด้วยความพยายามและค่าตอบแทนที่คนอื่นยากจะจินตนาการออก พอเขานึกย้อนกลับไปแล้ว ให้รู้สึกเหนื่อยล้ายิ่ง
วางอุบายล่อหลอก แย่งชิงอำนาจ เกลี้ยกล่อมโน้มน้าว สารพัดอย่าง ทุกย่างก้าวเขาเดินอย่างระมัดระวังยิ่ง กลัวจะพลิกผัน
“นายท่าน ช่วงนี้ลูกน้องของข้าสืบพบเรื่องบางอย่าง เป็นเรื่องที่ผิดปกติขอรับ อาจจะเป็นภัยคุกคามฟ้าบุพกาล” หวงจุนเทียนเปลี่ยนหัวข้อไป จู่ๆ ก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึม
หานเจวี๋ยไม่ปริปาก คนผู้นี้รู้จักทำตัวอมพะนำแล้ว!
หวงจุนเทียนเชี่ยวชาญการสังเกตสีหน้ายิ่ง เอ่ยขึ้นทันที “นี่เป็นเรื่องในแดนบรรพกาลขอรับ ในแดนบรรพกาลมีเขตหวงห้าม เชื่อมต่อกับอาณาเขตที่ไม่รู้จัก มารมรรคามาจากในนั้น หลายปีมานี้ มารมรรคาในแดนบรรพกาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าจะกลายเป็นภัยพิบัติใหญ่ได้”
หานเจวี๋ยหรี่ตาลง ตกอยู่ในห้วงความคิด ไอรีนโนเวล
หรือว่าปรมาจารย์ฟ้าทลายกำลังวางแผนล้างแค้นเอาคืนบรรพชนเต๋าอยู่
มีความเป็นไปได้สูง!
“แดนบรรพกาลเป็นสถานที่ต้องห้าม ในอดีตสูญเสียผู้ทรงพลังไปเพราะสถานที่แห่งนี้ไม่น้อยเลย ดังนั้นปัจจุบันนี้จึงไม่มีผู้ใดสนใจแดนบรรพกาลอีก และในตอนหลังนี้เอง มารมรรคาในแดนบรรพกาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้ำหน้าในอดีตไปแล้ว จำนวนเพิ่มขึ้นเช่นนี้ จะต้องมีเงื่อนงำแน่ขอรับ สิ่งสำคัญที่สุดคือข้าตรวจสอบไม่พบผู้ที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังพวกมัน ทราบเพียงว่าปรมาจารย์ฟ้าทลายผู้บุกเบิกฟ้าดินแห่งแรกในยุคแรกฟ้าบุพกาลก็เป็นมารมรรคาเช่นกัน ซ้ำยังเป็นมารมรรคาที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย”
หวงจุนเทียนกล่าวด้วยสีหน้าตึงเครียด ดูเหมือนเขาจะเคยประมือกับปรมาจารย์ฟ้าทลายมาแล้ว ดวงตาฉายแววพรั่นพรึง
แววตาหานเจวี๋ยแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ปรมาจารย์ฟ้าทลายก็เป็นมารมรรคาเช่นนั้นหรือ
หรือว่ายังมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังอีก
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ข้าจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้แน่ กลุ่มอิทธิพลมิ่งวางแผนจะตั้งตนเป็นเอกเทศอย่างไร”
หลังจากบรรพชนเทพปฐมกาลดับสูญ ดวงจิตมหามรรคก็ไม่ตามล่ากลุ่มอิทธิพลมิ่งอีก นี่เป็นโอกาสให้กลุ่มอิทธิพลมิ่งได้พักหายใจ 艾琳小說
หวงจุนเทียนกล่าวว่า “ข้าวางแผนจะก่อตั้งมรรควิถีขึ้น กบดานไปสักพัก รอจนมรรควิถียิ่งใหญ่สมบูรณ์ ค่อยวางแผนกันอีกที ฟ้าบุพกาลในตอนนี้ดูเหมือนจะสงบ แต่ข้าสังหรณ์ใจอยู่เสมอว่ามีคลื่นใต้น้ำอยู่”
หานเจวี๋ยพยักหน้า เอ่ยว่า “สมควรอยู่นิ่งจริงๆ กาลเวลาจะทำให้ทุกอย่างสงบลง”
ทั้งสองคุยกันต่ออีกไม่กี่ประโยค ก็สลายแดนความฝันลง
จุดประสงค์ในการเข้าฝันครั้งนี้ก็เพื่อให้หวงจุนเทียนทราบว่าหานเจวี๋ยยังใส่ใจเขาอยู่
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ถามในใจ ‘ข้าอยากรู้ว่าเป็นผู้ใดที่บงการอยู่เบื้องหลังมารมรรคา’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยร้อยล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ร้อยล้านล้านปี เท่ากับร้อยเท่าของค่าตัวเหล่าจื่อ และน้อยกว่าผู้สร้างมรรคาสิบเท่า
ไม่ใช่ปรมาจารย์ฟ้าทลาย!
หานเจวี๋ยเลือกดำเนินการต่อ
เงาร่างหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเขา ร่างกายดังเพลิงสีเขียว สวมหน้ากากกระดูกสีขาว เส้นผมดำขลับปลิวสะบัดไหว ดูราวกับหนวดมากมาย น่าสยองขวัญพรั่นพรึง
[ดวงจิตบรรพกาล: ยอดมหามรรคระยะสมบูรณ์ ครึ่งก้าวสู่ผู้สร้าง นักพรตเต๋าผู้หลุดพ้น วิญญาณฟ้าดิน เจ้าแห่งแรงกรรม เจ้าแห่งมารมรรคา วิญญาณร้ายมรรคาสวรรค์]
ครึ่งก้าวสู่ผู้สร้าง!
เลิศล้ำนัก!
หานเจวี๋ยถูกคำว่าวิญญาณร้ายมรรคาสวรรค์ดึงดูดความสนใจ คนผู้นี้เกี่ยวข้องกับมรรคาสวรรค์หรือ
พอลองคิดดูอย่างละเอียดก็ถูกต้องแล้ว แดนบรรพกาลแปรสภาพมาจากส่วนที่ถูกตัดแยกออกไปในยุคบรรพกาล พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นแดนบรรพกาล ส่วนที่เหลืออยู่กลายเป็นแดนเซียน ดวงจิตบุพกาลย่อมเกี่ยวข้องกับมรรคาสวรรค์
ในฟ้าบุพกาล มรรคาสวรรค์ดูคล้ายจะไม่นับว่าแข็งแกร่ง แต่นั่นเป็นเพราะถูกบรรพชนเต๋าควบคุมไว้ ความจริงแล้วมรรคาสวรรค์เก่าแก่อย่างยิ่ง ระยะการคงอยู่ของมันหากเทียบกับสิ่งมีชีวิตอื่น ก็มีตบะมากพอจะยืนอยู่ในจุดสูงสุดของฟ้าบุพกาลแล้ว
‘ข้าสามารถสังหารดวงจิตบรรพกาลในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยร้อยล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...