ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 939

สรุปบท บทที่ 939 เลิศล้ำหมื่นยุค ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปตอน บทที่ 939 เลิศล้ำหมื่นยุค ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร – จากเรื่อง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

ตอน บทที่ 939 เลิศล้ำหมื่นยุค ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 939 เลิศล้ำหมื่นยุค ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร

วันเวลาผันผ่านไป หลังจากดวงจิตบรรพกาลดับสูญ ฟ้าบุพกาลก็หวนคืนสู่ความสงบสุข ความกระตือรือร้นที่เหล่าสรรพสิ่งมีต่ออริยะสวรรค์เกรียงไกรลดลง งานชุมนุมฟ้าบุพกาลกลายเป็นหัวข้อสนทนาอันร้อนแรงอีกครั้ง

เทพมหาทัณฑ์เพิ่มรางวัลของงานชุมนุมฟ้าบุพกาลให้มากขึ้น นอกจากเลิศล้ำหมื่นยุคและสิบยอดฟ้าบุพกาลแล้ว ของรางวัลสำหรับผู้ติดหมื่นลำดับแรกก็เฟื่องฟูยิ่งนัก เพียงพอให้สรรพสิ่งบ้าคลั่งได้

ในส่วนลึกของฟ้าบุพกาล บนทวีปแห่งหนึ่ง ชิงเทียนเสวียนจีลอบอยู่เหนือท้องสมุทรกว้างไพศาลไร้ขอบเขต คลื่นสมุทรซัดสาดโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง กระตุ้นให้เกิดคลื่นสูงน่าตะลึง ตระการตาอย่างยิ่ง

ด้านหลังชิงเทียนเสวียนจีมีเงาร่างหนึ่งอยู่ด้วย รูปร่างคล้ายเขา ทั่วร่างเป็นสีเขียวปนแดง แผ่แรงกดดันหนักอึ้งลึกล้ำ

ตูม!

คลื่นสมุทรพลันระเบิดกระจาย น้ำทะเลกระจายขึ้นสู่นภา ชิงเทียนเสวียนจีลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วแน่น

“นี่คือวิชายุทธ์อันใดกัน แปลกยิ่ง ไม่คล้ายมหามรรค ทว่าผสานหลักการมหามรรคหลายวิถีเอาไว้…”

ชิงเทียนเสวียนจีพึมพำกับตัวเอง แววตาวูบไหว

เวลานี้เอง เซียนพเนจรพลันปรากฏตัวขึ้น เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ก็ไม่ใช่มหามรรคจริงๆ นั่นแหละ แต่เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น”

ดวงตาชิงเทียนเสวียนจีลุกวาว เอ่ยถามว่า “หรือว่าจะเป็นอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคที่ท่านเคยเอ่ยถึงก่อนหน้านี้”

เซียนพเนจรเอ่ยยิ้มๆ “ถูกต้อง เจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุดคือตัวแทนแห่งอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคเจ็ดวิถี นอกจากวิถีที่เจ้าฝึกแล้ว ตอนนี้ยังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคอีกสองวิถีที่โลดแล่นอยู่ในฟ้าบุพกาล หนึ่งคือขุนพลศักดิ์สิทธิ์ในการครอบครองของผู้นำดวงจิตมหามรรค เป็นตัวแทนการทำลายล้าง สองคือผู้กำหนดชะตาเคราะห์แห่งกลุ่มมิ่ง”

“หากกล่าวถึงผู้กำหนดชะตาเคราะห์ เจ้าควรจะให้ความสนใจคนผู้หนึ่งไว้ นั่นคือเจ้าชะตาคนปัจจุบัน นามหวงจุนเทียน คนผู้นี้ก็มาจากมรรคาสวรรค์เช่นกัน”

มรรคาสวรรค์หรือ

ชิงเทียนเสวียนจีถามด้วยความแปลกใจ “หวงจุนเทียนหรือ มรรคาสวรรค์เรามีผู้ทรงความสามารถมากขนาดนี้เชียว ช้าก่อน ดูเหมือนข้าจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”

เขาใคร่ครวญดูอย่างละเอียด พลันกระจ่างขึ้นมา “ข้านึกออกแล้ว ในอดีตกาลนานยิ่งนัก กลุ่มมิ่งออกอาละวาดไปทั่ว มีอริยะหลายคนในมรรคาสวรรค์เราถูกจับตัวไป หวงจุนเทียนคือหนึ่งในบรรดานั้น”

เขาชื่นชมอยู่ในใจ ความรู้สึกภาคภูมิใจในมรรคาสวรรค์ทวีขึ้นไปอีก

สุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งฟ้าบุพกาลมาจากมรรคาสวรรค์ เจ้าชะตาที่ปกครองผู้กำหนดชะตาเคราะห์ก็มาจากมรรคาสวรรค์เช่นกัน ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

“หวงจุนเทียนน่าจะเข้าร่วมงานชุมนุมฟ้าบุพกาลเช่นกัน คุณสมบัติของเขาตรงตามเงื่อนไข อายุไม่ถึงร้อยล้านปี นี่คือก้าวสำคัญที่กลุ่มมิ่งจะได้ออกจากด้านมืดเข้าสู่ทางสว่าง ขอเพียงได้เป็นดวงจิตมหามรรค มิ่งจะยืนหยัดอย่างมั่นคง หากว่าได้ครองตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุค หากว่าอริยะสวรรค์เกรียงไกรและเทพมหาทัณฑ์ปล่อยผ่าน ก็ไม่มีทางถูกเพ่งเล็งอีก หากว่าถูกเพ่งเล็ง จะเป็นผู้ใดกันเล่าที่ไม่อยากให้พรสวรรค์เขาได้เฉิดฉาย”

เซียนพเนจรหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ

ชิงเทียนเสวียนจีถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง เอ่ยว่า “อริยะสวรรค์เกรียงไกรหาใช่คนต่ำช้าไม่!”

เซียนพเนจรส่ายหน้าหลุดหัวเราะออกมา

“เจ้าหนอเจ้า ไว้วางใจอริยะสวรรค์เกรียงไกรถึงเพียงนี้ แล้ววันหน้าจะก้าวข้ามเขาไปได้อย่างไร”

“เรื่องก้าวข้ามเกี่ยวอันใดกับความไว้ใจกัน อริยะสวรรค์เกรียงไกรคือเป้าหมายของข้า ไม่มีวันกลายศัตรูของข้า!”

“เช่นนั้นหากว่าอริยะสวรรค์เกรียงไกรปองร้ายเจ้าเล่า”

“ไม่มีทาง!’

ชิงเทียนเสวียนจีเอ่ยขัดทันควัน รู้สึกโมโหอยู่ในใจ

คนผู้นี้มักจะยุแยงให้เขาแตกคอกับอริยะสวรรค์เกรียงไกรอยู่เสมอ

หากมิใช่เพราะเขาต้องการฝึกบำเพ็ญอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคแล้วล่ะก็ คงแตกหักกับเซียนพเนจรไปนานแล้ว

เซียนพเนจรก็ไม่พูดมากอีก ทั้งสองพูดคุยเรื่องอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคต่อไป

….

นภาครามเมฆาขาว ตำหนักเหนือหมู่เมฆ

ภายห้องโถงของพระราชวังเทียมเมฆาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาวังต่างๆ หานฮวง หานชิงเอ๋อร์และเจียงเจวี๋ยซื่อยืนยืดอกอยู่ในห้องโถง เทพเซียนที่เรียงรายอยู่สองฝั่งต่างเพ่งพิศดูพวกเขา สีหน้าแตกต่างกันไป

จ้านฝัวและแม่ทัพฟ้าทมิฬยืนอยู่ด้านหน้า จ้องมองพวกหานฮวงทั้งสามเช่นกัน

“ฮ่าๆๆ ฮวงเอ๋อร์ เจ้ามาหาเราจริงๆ ด้วย ชิงเอ๋อร์ใช่หรือไม่ เราเพิ่งได้พบเจ้าเป็นครั้งแรก นับจากนี้ไป เจ้าคือองค์หญิงเลิศศักดาแห่งวังสวรรค์ ฐานะเป็นรองเพียงเราเท่านั้น!” จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ทำตามอำเภอใจเช่นนี้แต่กลับไม่มีเทพเซียนกล้าตั้งคำถามเลย

ประการแรกเป็นเพราะจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายทรงอำนาจ ประการที่สองคือพวกเขาไม่อาจล่วงเกินได้

หานชิงเอ๋อร์ยิ้มหน้าบานกล่าวไปว่า “เช่นนี้จะดีหรือเพคะ”

“มีอันใดไม่ดีกันเล่า ตกลงกันตามนี้ แล้วบุตรแห่งสวรรค์ท่านนี้เป็นผู้ใดกัน”

เจียงเจวี๋ยซื่อกลับสนิทสนมกับจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายมากกว่า ทั้งสองแรกพบก็ราวกับได้พบสหายเก่า พูดคุยเรื่องราวในอดีตและปัจจุบัน คุยกันได้ทุกเรื่อง ประหนึ่งสหายรักรู้ใจ

หลายปีต่อมา หานฮวงและเจียงเจวี๋ยซื่อกลายเป็นแม่ทัพเทพแห่งวังสวรรค์ ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่จ้านฝัวและแม่ทัพฟ้าทมิฬ ต่างคนต่างบัญชาการแม่ทัพทหารสวรรค์นับล้านคน

วังสวรรค์เริ่มวางแผนขยายอาณาเขตออกไปอีกครั้ง หานฮวงและเจียงเจวี๋ยซื่อก็บุกตะลุยจนสร้างชื่อลือเลื่องได้ภายในหมื่นปี ไอรีนโนเวล

ณ เมืองหนึ่งในฟ้าบุพกาล ภายในกลุ่มดาวหางกลุ่มหนึ่ง ในเมืองมีสิ่งมีชีวิตคลาคล่ำมากมาย ผู้คนเช่นไรล้วนมีทั้งสิ้น ดูคล้ายงานเทศกาลในเมืองมนุษย์สามัญ เพียงแต่สิ่งมีชีวิตที่สัญจรอยู่มิได้มีเพียงมนุษย์

หานเจวี๋ยนั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง จิบสุราวิญญาณฟ้าบุพกาลพลางฟังผู้บำเพ็ญโต๊ะข้างๆ สนทนาถึงกิตติศัพท์การต่อสู้ของวังสวรรค์ในระยะนี้

วังสวรรค์ในปัจจุบันนี้นับว่ามีชื่อเสียงดังกระฉ่อนในฟ้าบุพกาล โดยเฉพาะหลังจากมีบุตรชายอริยะสวรรค์เข้าร่วมด้วย

หานฮวงออกศึกสร้างชื่อเสียง ผู้บำเพ็ญทั้งหมดที่เคยพบเขาล้วนอุทานเชยชมว่า “เลิศล้ำหมื่นยุค จะเป็นของใครไปได้ถ้าไม่ใช่เขา!”

หานเจวี๋ยฟังกิตติศัพท์บุตรชายอย่างสงบนิ่งยิ่ง

เป็นเรื่องปกตินัก

ถึงอย่างไรก็เป็นเทพมารอนธการ

ในเวลานี้เอง มีเสียงฮือฮาแว่วออกมาจากนอกโรงเตี๊ยม

“มิ่งมาแล้ว!”

พอสิ้นเสียง หานเจวี๋ยก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแกร่งกล้าหลายสาย เป็นอริยะมหามรรคทั้งสิ้น

เขามาที่นี่ก็เพื่อมาดูหลี่เต้าคง

หลี่เต้าคง สือตู๋เต้า หวงจุนเทียนและปรมาจารย์ลัญจกรสรวงล้วนกบดานอยู่ที่นี่ ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด หานเจวี๋ยสามารถทำนายดูได้ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น แค่ทำนายว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แนวทางพฤติกรรมของกลุ่มมิ่งไม่ส่งผลกระทบต่อหานเจวี๋ยอีกต่อไป

หานเจวี๋ยจึงปล่อยให้พวกเขาพัฒนากันไปตามธรรมชาติ

ที่มาในครานี้ เขาอยากมอบโอกาสให้หลี่เต้าคง จะได้ไม่ตรากตรำลำบากอีกต่อไป

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ