บทที่ 947 ยุคใหม่ ชะตาเซียนพเนจร – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 947 ยุคใหม่ ชะตาเซียนพเนจร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 947 ยุคใหม่ ชะตาเซียนพเนจร
“ข้าจะพิสูจน์ตัวให้เห็นในงานชุมนุมฟ้าบุพกาล!”
จ้าวซวงเฉวียนแค่นเสียง สายตาเขามองไปที่ร่างชิงเทียนเสวียนจี แววตาเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้
ชิงเทียนเสวียนจีเวียนท้าสู้กับพวกเต้าจื้อจุนครบทั้งสามคนแล้ว เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เขาพ่ายแพ้อย่างหมดท่า ในการต่อสู้ครั้งที่สามเกิดเสียงดังสะท้านสะเทือนดึงดูดให้เหล่าบุตรแห่งสวรรค์ออกมาสังเกตการณ์
แม้จะเห็นชิงเทียนเสวียนจีพ่ายแพ้เพียงศึกเดียว ทว่าจ้าวซวงเฉวียนคิดว่าคุณสมบัติของตนต้องแข็งแกร่งกว่าชิงเทียนเสวียนจีแน่
ตระหนักรู้ได้หลังต่อสู้เช่นนี้จะนับเป็นอันใดเล่า
ไม่สามารถเอาชนะศัตรูที่เหนือกว่าได้ ยังเป็นบุตรแห่งสวรรค์อันดับหนึ่งได้อีกหรือ!
เหล่าตานพินิจดูจ้าวซวงเฉวียน จากนั้นมองไปที่ชิงเทียนเสวียนจีอีกครั้ง มองสลับไปมาไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่
อีกด้านหนึ่ง
ภายในวังวิถีสวรรค์
โจวฝาน ฟางเหลียง หลงเฮ่า ซูฉีและหลี่เสวียนเอ้าเหล่าศิษย์สืบทอดแห่งสำนักซ่อนเร้นมารวมตัวกันอยู่ที่นี่
พวกเขาก็กำลังชมการต่อสู้ระหว่างเจียงอี้และชิงเทียนเสวียนจีอยู่เช่นกัน
ฟางเหลียงเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ “เวลาผ่านไปเร็วยิ่ง ชนรุ่นหลังต่างไล่ตามขึ้นมาแล้ว”
โจวฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว นึกถึงอดีตปีนั้น พวกเราก็เป็นบุตรแห่งสวรรค์ในถิ่นของตน แต่ยังเทียบกับบุตรแห่งสวรรค์เหล่านี้ไม่ได้เลย ล้วนบรรลุระดับอริยะกันแล้ว แต่รู้สึกเหมือนยังไม่พ้นจากอาจารย์เลย พวกเราในช่วงเวลานั้นแค่บรรลุจักรพรรดิเซียนได้ก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ก็ไม่เห็นหรือว่ามรรคาสวรรค์ในตอนนี้ต่างจากมรรคาสวรรค์ในกาลก่อนมากเพียงใด”
หลี่เสวียนเอ้าเอ่ยต่อพลางลูบเคราหัวเราะเสียงดัง
ซูฉีกล่าวด้วยความจนใจว่า “ศิษย์ข้าคนนี้คุณสมบัติเลิศล้ำจริงๆ แต่นิสัยหยิ่งทะนงเกินไป ชิงเทียนเสวียนจีถูกขนานนามว่าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อันดับหนึ่งของมรรคาสวรรค์ คาดว่าเด็กสองคนนี้คงต้องขัดแย้งกันไม่น้อย อาจารย์อย่างพวกเราก็ไม่สามารถบังคับห้ามปรามได้”
โจวฝานพยักหน้าพลางกล่าวว่า “บังคับห้ามปรามไม่ได้จริงๆ เรื่องของชนรุ่นหลัง ผู้อาวุโสไหนเลยจะแทรกแซงได้ อีกทั้งยังไม่ใช่หนี้แค้นยิ่งใหญ่อันใดด้วย”
เขาเริ่มย้อนระลึกถึงช่วงเวลาในอดีตของตน
บทสนทนาค่อยๆ เข้าสู่เรื่องงานชุมนุมฟ้าบุพกาล ไอรีนโนเวล
หลงเฮ่าเอ่ยอย่างภาคภูมิใจว่า “ตอนนี้มรรคาสวรรค์มีบุตรแห่งสวรรค์มากมายปานนี้ สิบยอดฟ้าบุพกาลจะไม่ตกเป็นของมรรคาสวรรค์หมดหรือ”
โจวฝานส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “อย่าได้ดูแคลนฟ้าบุพกาลเชียว บุตรแห่งสวรรค์ชั้นเลิศในฟ้าบุพกาลก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เว้นเสียแต่เหล่าบุตรแห่งสวรรค์ในมรรคาสวรรค์จะเป็นระดับเดียวกับหานฮวง”
เมื่อเอ่ยถึงหานฮวง ทุกคนล้วนรู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง
เสรีแต่กำเนิด เพียงพอที่จะทำให้บุตรแห่งสวรรค์ไม่ว่าคนใดก็ต้องรู้สึกสิ้นหวังอยู่ในใจ
โชคดีที่ครั้งนี้หานฮวงไม่ได้มาเข้าร่วมงานชุมนุมสำนักซ่อนเร้น มิเช่นนั้นบุตรแห่งสวรรค์เหล่านี้ต้องได้รับความสะเทือนใจจนปิดกั้นตัวเองแน่นอน ไหนเลยจะกล้าไปต่อสู้แย่งตำแหน่งอีก
“งานใหญ่ครานี้ของสำนักซ่อนเร้นนับว่าเป็นเรื่องดี ทำให้เหล่าศิษย์แห่งสำนักซ่อนเร้นได้เข้าใจว่าทางสำนักแข็งแกร่งมากเพียงใด ว่ากันตามจริง แม้แต่ข้าก็ตกใจเช่นกัน โดยเฉพาะพวกเจ้าไก่คุกรัตติกาล ไม่น่าเชื่อว่าจะสำเร็จเสรีกันหมดแล้ว น่าเหลือเชื่อนัก อริยะเสรีกว่าห้าสิบคนเชียวหรือ” โจวฝานอดพูดถึงไม่ได้
คนอื่นๆ ก็พยักหน้ารับ
หลี่เสวียนเอ้าเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักบ่มเพาะพวกเขาด้วยวิธีลับ พวกเจ้าระวังตัวไว้เถิด อย่าถูกแซงจนรั้งท้ายเล่า”
หลงเฮ่าแบสองมือพลางเอ่ยว่า “ข้าถูกแซงล้ำหน้าไปแล้ว เมื่อก่อนข้ารู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจยิ่ง ตอนนี้ถึงได้พบว่าคุณสมบัติกลายเป็นดาษดื่นสามัญเสียแล้ว”
ในอดีต เขาคือตัวตนที่มีคุณสมบัติเลิศล้ำที่สุดในหมู่โอรสของจักรพรรดิสวรรค์
จนปัญญาที่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง เขามิใช่บุคคลเลิศล้ำเหนือชั้นอีกต่อไป
โจวฝานเอ่ยยิ้มๆ “ลองไปหาบิดาของเจ้าดูหรือไม่ ตอนนี้ฝ่าบาทก็รุ่งโรจน์มากเช่นกัน ในสังกัดมีอริยะมหามรรครั้งตำแหน่งแม่ทัพเทพด้วย ต้องรู้ไว้ด้วยว่าในฟ้าบุพกาลมีอริยะมหามรรคอยู่เท่าไร เพียงได้มาสักคนก็นับว่าทรงพลังมากแล้ว”
หลงเฮ่าส่ายหน้า ตอบอย่างจนใจว่า “ระหว่างข้าและเขาตัดสัมพันธ์พ่อลูกกันไปนานแล้ว เป็นความผิดของตัวข้าในกาลก่อนเอง อย่าได้เอ่ยถึงเลย”
ในเวลานี้เอง เจียงเจวี๋ยซื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเช่นกัน
สีหน้าเจียงเจวี๋ยซื่อก็แปรเปลี่ยนมหันต์ จ้องมองไปที่เซียนพเนจร ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “เจ้าทำอะไรข้า”
เซียนพเนจรเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มหาโชคแต่กำเนิด วิชากลับชาติกำเนิดมหาโชคของเจ้ากลายเป็นของข้าแล้ว เมื่อผสานพรสวรรค์ของพวกเจ้าทั้งสองเข้าด้วยกัน ข้าก็จะไร้พ่ายแน่นอน อริยะสวรรค์เกรียงไกรผู้นั้นไหนเลยจะใช่คู่ต่อสู้ของข้า เดิมทีข้าก็เป็นยอดมหามรรคอยู่แล้ว รอจนข้าผสานรวมเสร็จ ต้องเหยียบอริยะสวรรค์เกรียงไกรไว้ใต้เท้าได้แน่!”
สีหน้าเจียงเจวี๋ยซื่อดำคล้ำ ทว่าไม่ได้สบถด่าเหมือนหานฮวง
ด่าไปก็แค่ระบายอารมณ์ได้เท่านั้น ไม่มีประโยชน์กับสถานการณ์ปัจจุบันเลย
เซียนพเนจรค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เขาชูสองมือขึ้นมา เอ่ยยิ้มๆ “พวกเจ้าอย่ากลัวไปเลย ข้าไม่สังหารพวกเจ้าแน่ เพียงต้องการตัดเส้นทางไร้พ่ายของอริยะสวรรค์เกรียงไกร เขาส่งผลกระทบต่อเส้นทางพิสูจน์มรรคแห่งวิถีสูงสุดมากเกินไป เขาเป็นตัวประหลาด ทำให้บ่วงกรรมและชะตาฟ้าบุพกาลปั่นป่วน เดิมทีก็ไม่สมควรมีตัวตนอยู่แล้ว รอข้าสังหารเขาได้ก็จะคืนคุณสมบัติและโชคให้พวกเจ้า”
หานฮวงกล้ำกลืนความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ จ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย หากว่าสายตาสามารถสังหารคนได้ เซียนพเนจรคงร่างสิ้นวิญญาณสลายไปแล้ว
เจียงเจวี๋ยซื่อเปิดปากถาม “คืนให้พวกเราอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นเป้าหมายของเจ้าคืออะไร เพียงเพื่อล้างแค้นท่านอาจารย์ข้าเช่นนั้นหรือ”
เซียนพเนจรส่ายหน้าพลางเอ่ยไปว่า “ล้างแค้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าไร้ความบาดหมางกับเขา ข้าบอกไปแล้วอย่างไร ข้าทำเพื่อปกป้องฟ้าบุพกาล ฟ้าบุพกาลประทานโชคให้ข้า ข้าดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคบุกเบิกฟ้าบุพกาล ผ่านยุคสมัยมานับไม่ถ้วน ข้าเคยเห็นดวงจิตและผู้ยิ่งใหญ่มามากมายนัก ทุกยุคสมัยล้วนมีผู้ไร้พ่ายที่บากบั่นมานะเหยียบย่ำกองกระดูกขึ้นมาเพื่อพิสูจน์มรรค แต่อริยะสวรรค์เกรียงไกรกลับต่างออกไป เขาไม่มีดวงชะตามรรคาสวรรค์ ดวงชะตาของเขาถึงขั้นที่ไม่อยู่ในฟ้าบุพกาลด้วยซ้ำ ตลอดเส้นทางเขาสังหารคนที่เดิมทีสมควรเป็นผู้ไร้พ่ายไปมากมาย กิตติศัพท์การต่อสู้เหล่านั้นไม่อาจคาดเดาได้เลย เดิมทีก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว
“เขาเป็นตัวประหลาด หากว่าไม่กำจัดเขา ฟ้าบุพกาลต้องล่มสลายแน่”
หานฮวงร้องด่า “หากไม่มีบิดาข้า ฟ้าบุพกาลไหนเลยจะสงบสุขได้ ดวงจิตบรรพกาล ดวงจิตมหามรรคเหล่านั้นสมคบกันทำชั่ว ฟ้าบุพกาลจะเป็นอย่างไรเล่า”
เซียนพเนจรย้อนถาม “เช่นนั้นหากมรรคาสวรรค์แข็งแกร่งกว่าฟ้าบุพกาล ฟ้าบุพกาลจะเป็นเช่นใดเล่า”
หานฮวงผงะไป
แววตาเซียนพเนจรเยียบเย็น เอ่ยไปว่า “มรรคาสวรรค์ หาใช่เพียงฟ้าดินแห่งหนึ่งไม่ คุณสมบัติมันเทียบได้กับฟ้าบุพกาล ดวงชะตาทั้งสองแบ่งแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง หากว่าปล่อยให้มรรคาสวรรค์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วมรรคาสวรรค์จะเข้าแทนที่ฟ้าบุพกาล สิ่งมีชีวิตโบราณและเผ่าพันธุ์แรกฟ้าบุพกาลเหล่านั้นที่เข้าสู่มรรคาสวรรค์ไม่ได้ล้วนจะดับสูญไม่อาจย้อนหวนกลับมาได้ และสาเหตุที่จะนำพาไปถึงรูปการณ์ของจุดจบเช่นนี้ก็คืออริยะสวรรค์เกรียงไกร!
“เขาจำเป็นต้องตาย!”
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...