บทที่ 979 สงครามโลกมหามรรค กฎเกณฑ์
หานเจวี๋ยปิดด่านครั้งนี้ ยาวนานต่อเนื่องถึงห้าแสนปี!
การปิดด่านห้าแสนปีทำให้ตบะของเขาเพิ่มขึ้นมากโข ปราณปฐมยุคในโลกอนธการก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เทพมารฟ้าบุพกาลบางส่วนที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคแรกเริ่มพยายามสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นในจักรวาลของแต่ละตนแล้ว แม้จะล้มเหลวทั้งสิ้น แต่อย่างน้อยก็กำลังทดลองอยู่ ตอนนี้ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ
คิดจะสร้างสิ่งมีชีวิตก็ต้องใช้มหามรรครังสรรค์
พลังแห่งมหามรรคสามพันวิถีถูกหานเจวี๋ยรวบรวมไว้แล้วเหล่าเทพมารฟ้าบุพกาลแค่ต้องค้นหาให้พบด้วยตัวเอง
ส่วนเทพมารรังสรรค์ยังไม่ถือกำเนิดขึ้น ยังคงเป็นปราณเทพมารกลุ่มหนึ่ง เทพมารตนนี้อยู่กลุ่มร่างจำลองเทพมารชุดสุดท้ายที่หานเจวี๋ยเรียนรู้ ย่อมถือกำเนิดช้าเป็นธรรมดา
หานเจวี๋ยมองหานหลิงที่อยู่ข้างกาย
สาวน้อยคนนี้เข้าใกล้มหามรรคยิ่งนักแล้ว รอจนนางบรรลุมหามรรค กองทหารจักรพรรดินับล้าน แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว
ดาวจักรพรรดิอนธการคล้ายกับเทพมารอนธการยิ่งนัก ยิ่งระดับสูงขึ้นเท่าไรก็ยิ่งร้ายกาจขึ้นเท่านั้น
อริยะมหามรรคหนึ่งล้านคน ยอดมหามรรคร้อยล้านคน…
จำนวนก้าวกระโดดเช่นนี้ช่างเกินจริงนัก
หานเจวี๋ยเริ่มตั้งตารอสวรรค์ประทานโชคครั้งต่อไปแล้ว
หากเขารวบรวมผู้ได้รับสวรรค์ประทานโชคถึงหลักร้อยคนขึ้นไป คงน่าตื่นเต้นมากกระมัง
หานเจวี๋ยสังหรณ์ใจว่าผู้สร้างมรรคาเหล่านั้นล้วนชุบเลี้ยงกองกำลังของตนไว้ เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลมีโลกมหามรรคอวิชชา มหาเทวาพ้นนิวรณ์และผู้สร้างมรรคาอีกสองรายก็ต้องมีด้วยอย่างแน่นอน
สักวันหนึ่งอาจจะเกิดสงครามโลกมหามรรคขึ้นก็เป็นได้!
ผู้ทรงพลังและบุตรแห่งสวรรค์ของโลกต่างๆ แค่คิดก็น่าตื่นเต้นมากแล้ว
ถึงอย่างไรหานเจวี๋ยก็ต้องเตรียมการสำหรับโลกอนธการของตนแต่เนิ่นๆ
รอจนโลกอนธการกลายเป็นโลกปฐมยุค ส่วนเขาก็ก้าวสู่ระดับผู้สร้างมรรคาแล้ว เขาจะทำการอพยพย้ายถิ่นฐาน พาเหล่าศิษย์และลูกหลานทั้งหมดของตนย้ายเข้าไปอยู่ที่โลกปฐมยุค
โลกปฐมยุคมีระดับสูงกว่าโลกอนธการ พลังวิญญาณที่แฝงอยู่มิใช่สิ่งที่ปราณฟ้าบุพกาลจะเทียบชั้นได้!
นับจากวันนี้ไปก็เรียกว่าโลกปฐมยุคแล้วกัน เปลี่ยนชื่อไว้แต่เนิ่นๆ
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ
เขาเริ่มตรวจดูจดหมาย
เทียบกับช่วงที่ผ่านมา แวดวงสหายไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก กลับเป็นพวกเต้าจื้อจุนทั้งสี่ที่มีแจ้งเตือนได้รับโชควาสนามากขึ้นเล็กน้อย ล้วนเกี่ยวข้องกับอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคทั้งสิ้น
อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคมีทั้งหมดเจ็ดสาย กลุ่มสี่คนนี้ยึดเอาไปสี่สายแล้วอย่างนั้นหรือ
ผิดปกติแล้ว
หรือว่าโลกมหามรรคอวิชชาก็มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค
มีความเป็นไปได้สูง!
ถึงอย่างไรพื้นฐานของมหามรรคก็ไม่ต่างกันมากนัก มหามรรคสามพันวิถีนับเป็นการวางรากฐาน จากนั้นค่อยสร้างระเบียบกฎเกณฑ์ในแบบของแต่ละคนขึ้น
เมื่อมีกฏเกณฑ์สูงสุดก็จะมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค
หานเจวี๋ยลุกขึ้นมา เดินออกจากอารามเต๋า ไปเยี่ยมสิงหงเสวียน
ไม่ได้พบหน้ากันเกือบล้านปี สิงหงเสวียนย่อมคะนึงหาหานเจวี๋ยยิ่งนัก
หลังจากทั้งสองเคล้าคลอกันอยู่หลายปีก็เริ่มพูดคุยกัน
“เจ้าอยู่ที่นี่คงเบื่อใช่หรือไม่ หากอยากออกไปเที่ยวก็ทำได้ตามใจชอบ ตอนนี้มรรคาสวรรค์เปลี่ยนแปลงไปมหาศาล อยากให้หลิงเอ๋อร์ไปเป็นเพื่อนเจ้าหรือไม่” หานเจวี๋ยถามยิ้มๆ
สิงหงเสวียนส่ายหน้ากล่าวไปว่า “ช่างเถิด ข้าไม่สนใจ อีกอย่างแม่หนูหลิงเอ๋อร์คนนี้ก็เหมือนท่านไม่มีผิด รู้จักแต่ฝึกบำเพ็ญ ข้าใช้จิตศักดิ์สิทธิ์สอดส่องจักรวาลโลกดาราก็ดีมากพอแล้ว จักรวาลนี้ปรากฏเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตขึ้นไม่น้อยเลย ดาวเคราะห์บางส่วนก็ปรากฏความชีวิตชีวาแล้ว หลิวเป้ยดูแลได้ดียิ่ง”
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “อีกสามล้านปีก็จะถึงงานชุมนุมฟ้าบุพกาลแล้ว พอถึงเวลานั้นอยากไปดูหรือไม่ ทั่วเอ๋อร์ ฮวงเอ๋อร์และชิงเอ๋อร์ล้วนเข้าร่วมทั้งสิ้น”
ดวงตาสิงหงเสวียนพลันส่องประกาย เอ่ยว่า “ย่อมต้องไป บุตรชายของข้าจะครองตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุค มารดาอย่างข้าต้องไปให้การสนับสนุนแน่นอน”
“เลิศล้ำหมื่นยุคหรือ นั่นก็ยังไม่แน่”
“ในฟ้าบุพกาลยังมีบุตรแห่งสวรรค์ที่เก่งกาจกว่าเขาอยู่อีกหรือ”
“หากว่ากันในด้านคุณสมบัติ เขาเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ แต่ยังต้องว่ากันในด้านโชควาสนาด้วย อีกอย่างต้องดูด้วยว่าเขาจะทำได้หรือไม่ หากว่าเขาได้ครองตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุค ข้าย่อมยินดียิ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...