ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 985

บทที่ 985 วิวัฒนาการครอบคลุมทุกด้าน

หานเจวี๋ยเรียกรายชื่อสหายของออกมา ตรวจดูรูปประจำตัวของบรรพชนเต๋า

รูปบรรพชนเต๋าไม่ได้เปลี่ยนเป็นหงจวิน ยังคงมืดดำอยู่ มองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง

เห็นทีว่าถึงแม้หงจวินจะเป็นบรรพชนเต๋ากลับชาติมาเกิด แต่ก็มิใช่บรรพชนเต๋าจริงๆ บรรพชนเต๋าร้อยเปลี่ยนพันแปลง มีรูปแบบนับไม่ถ้วน ร่างกลับชาติถือกำเนิดเช่นนี้อาจจะยังมีอีกมากนัก

หานเจวี๋ยถามในใจ ‘ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดบรรพชนเต๋าถึงกลับชาติมาเกิดเป็นหงจวิน’

[ตรวจสอบไม่พบบ่วงกรรมนี้ ไม่สามารถวิวัฒนาการได้]

หืม

ตอนนี้ก็ยังวิวัฒนาการถึงไม่ได้อย่างนั้นหรือ

ความกริ่งเกรงที่หานเจวี๋ยมีต่อบรรพชนเต๋ายกระดับขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น

แม้แต่เจ้านวฟ้าบุพกาลเขาก็ยังทำนายถึงได้ ทว่าทำนายถึงบรรพชนเต๋าไม่ได้

หรือว่าบรรพชนเต๋าจะแข็งแกร่งกว่าเจ้านวฟ้าบุพกาล

ไม่ถูกสิ หากเป็นเช่นนั้นจริง เหตุใดบรรพชนเต๋าต้องระงับการพัฒนาของมรรคาสวรรค์ด้วย

มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ บรรพชนเต๋าครอบครองมหาโชคพิเศษหรือยอดสมบัติไว้

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็ค่อนข้างคาดหวังตั้งตารอฉากที่บรรพชนเต๋าจะปรากฏตัวสู่โลกาขึ้นมา

เมื่อถึงเวลานั้นบรรพชนเต๋าต้องมีพลังพอจะปะทะกับผู้สร้างมรรคาแล้วแน่นอน

หานเจวี๋ยมองไปที่หงจวินอีกครั้ง

‘หากเจ้าสามารถชักจูงสรรพสิ่งในจักรวาลโลกดาราเข้าสู่วิถีบำเพ็ญได้ เช่นนั้นข้าก็จะแสร้งทำเป็นไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเจ้า แต่หากเจ้ามีแผนร้าย ข้าจะทำให้เจ้านึกเสียใจ’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

เขาไม่มีความบาดหมางกับบรรพชนเต๋า เขาย่อมไม่มีทางลงมือกับบรรพชนเต๋า

มีชีวิตอยู่มากว่าสิบล้านปี หลักการในการดำรงชีวิตของหานเจวี๋ยคือหากไม่มารุกรานเขา ก็ต่างคนต่างอยู่ หากว่ามาคุกคามเขา เช่นนั้นก็คงต้องขออภัยด้วย ไม่ว่าจะมีที่พึ่งยิ่งใหญ่แค่ไหนหรือมีพลังน่าหวาดหวั่นปานใดก็ต้องตายเท่านั้น

หานเจวี๋ยหลับตาลง ฝึกบำเพ็ญต่อ

….

หนึ่งแสนปีผ่านพ้นไปรอบแล้วรอบเล่า ปราณปฐมยุคภายในโลกปฐมยุคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปมีเทพมารตนหนึ่งในโลกปฐมยุคได้พบกับปราณปฐมยุคแล้ว

เทพมารตนนี้ก็คือเทพมารห้วงมิติ

ท่ามกลางอวกาศ เทพมารห้วงมิติมองหมอกแดงหนาแน่นที่อยู่เบื้องหน้า สีหน้าสนใจใคร่รู้

เทพมารตนนี้รูปร่างคล้ายมนุษย์ มีเรือนผมสีขาวยาวเท่าขนาดตัว บนผิวกายมีชุดเกราะที่คล้ายจะก่อตัวขึ้นจากกระดูกห่อหุ้มอยู่ มีดวงตาในแนวตั้งสองคู่ เขี้ยวยาวโง้งเต็มปาก บนหน้าผากยังมีเขาสองข้างที่โค้งงอนออกไปด้านหน้าอยู่ด้วย

เทพมารห้วงมิติลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พลันตัดสินใจในทันใด พุ่งเข้าสู่หมอกแดงทันที

รอจนกระทั่งหมอกแดงปกคลุมท่วมร่างเขา ห้วงมิติรอบข้างก็เริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

เวลาผ่านไปหลายหมื่นปี

หมอกแดงกลุ่มนี้เดือดพล่านรุนแรง เงาร่างน่ากลัวร่างหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมา

เป็นเทพมารห้วงมิติ!

โครงกระดูกขาวบนร่างเทพมารห้วงมิติกลายเป็นโครงกระดูกแดง ซ้ำยังมีเดือยกระดูกยาวแหลมคมงอกออกมาตามข้อต่อด้วย เส้นผมสีขาวทั่วศีรษะก็เปลี่ยนเป็นสีแดงโลหิต ใบหน้าของเขาคล้ายมนุษย์มากขึ้น เครื่องหน้าหล่อเหลาเย็นชามีเหลี่ยมมุมชัดเจน ดวงตาที่เดิมทีมีสี่ข้างก็เหลือเพียงสองข้าง

เทพมารห้วงมิติยกสองมือขึ้นมา พึมพำว่า “พลังแกร่งกล้ายิ่ง…นี่คือพลังวิญญาณใดกัน ทรงพลังยิ่งกว่าปราณอนธการเสียอีก

“ปราณปฐมยุค เป็นระดับที่สูงกว่าปราณอนธการ”

น้ำเสียงเฉยชาเสียงหนึ่งพลันแว่วขึ้นในหัวของเทพมารห้วงมิติ เขาตกใจมองไปรอบๆ แผ่จิตศักดิ์สิทธิ์ออกไปภายในห้วงจักรวาลหลายแห่งในแถบนี้ไม่มีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตหรือเทพมารตนอื่นเลย

เทพมารห้วงมิติขมวดคิ้ว เอ่ยถามเสียงขรึม “ผู้ใดกัน ออกมาเดี๋ยวนี้!”

“ข้าคือผู้ที่สร้างตัวตนอย่างพวกเจ้าขึ้นมาและเป็นผู้สร้างทุกสิ่งที่เจ้าเห็นอยู่”

เสียงของหานเจวี๋ยดังขึ้นในหัวของเทพมารห้วงมิติอีกครั้ง

พอเทพมารห้วงมิติได้ฟังก็มีสีหน้าตกตะลึง

เขาตัวสั่นไปหมด มองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น

“เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะไปพบเจ้า ปราณปฐมยุคจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าแทนที่ปราณอนธการ ดูดซับให้ดีเถิด รอจนเจ้าแข็งแกร่งขึ้นหวังว่าเจ้าจะให้ความช่วยเหลือเทพมารตนอื่นๆ ให้ได้ดูดซับปราณปฐมยุคไปด้วยกัน”

หลังจากประโยคนี้แว่วขึ้นมา เทพมารห้วงมิติก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม รับประกันทันทีว่าจะปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ