“รัชทายาท นี่ก็คือหน้าไม้ที่ให้ข้าทำหรือ? เสียเวลาข้าจริง ๆ เลย!”
ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลู่หนีก็เดินออกมาจากห้องทำงานแล้ว ในมือถือหน้าไม้ประณีตที่เพิ่งทำเสร็จ เขามองดูรอบ ๆ ไม่เห็นว่าเจ้าของสิ่งนี้จะมีความวิเศษวิโสอันใด
“งั้น ๆ หรือ? ลองดูก็รู้แล้วนี่? เห็นป้ายภัตตาคารต้าเฉียนประมาณสองร้อยเมตรนั่นหรือไม่?”
ฉินอวิ๋นฟานชี้ไปที่ป้ายร้านไกล ๆ พลางยิ้มพูดราบเรียบ
เขารับหน้าไม้มา วางลูกศรที่พกติดตัวมาแต่แรกไว้ตรงแล่ง มันแนบสนิทกับร่อง ต้องยอมรับแล้วว่าฝีมือของหลู่หนีละเอียดมากจริง ๆ
“รัชทายาท นี่ นี่จะยิงป้ายร้านนั่นหรือ?”
เฉินม่อถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ”
ฉินอวิ๋นฟานยกยิ้มตรงมุมปาก สีหน้ามั่นใจ ในความทรงจำเดิม การยิงธนูในสมัยโบราณปกติแล้วจะยิงได้ในระยะประมาณร้อยยี่สิบเมตร ถ้าเป็นธนูชั้นดีและเป็นผู้ที่มีกำลังมาก จะยิงได้ประมาณร้อยเจ็ดสิบแปดสิบเมตร
แต่ธนูมีจุดอ่อนที่แย่มากอย่างหนึ่ง ยิ่งระยะทางไกล พลังการโจมตีก็จะยิ่งลดลง ดังนั้นระยะสองร้อยเมตรอยู่เหนือระยะการโจมตีสูงสุดแล้ว
“รัชทายาทจะวู่วามไม่ได้นะขอรับ เวลานี้เป็นช่วงที่คนพลุกพล่านที่สุด ภัตตาคารต้าเฉียนไกลเกินไป จะพลาดทำร้ายถูกคนได้ง่ายนะขอรับ”
อู่จ้านรีบเข้ามาปราม
รัชทายาทเปลี่ยนนิสัยราวฟ้ากับดินจริง ไม่เพียงแต่ไม่เขลาอีก ยังเด็ดขาด เฉียบคมและแข็งกร้าวด้วย มีท่วงทำนองของผู้เป็นราชันแล้ว
แต่การยิงธนูในตลาดไม่ใช่เรื่องดีอะไร หากจุดชนวนโทสะจะยุ่งเอา
“เฮอะ ต่อให้ยอดมือธนูที่เก่งกาจที่สุดในต้าเฉียนอยู่ที่นี่ ก็คงไม่กล้าโม้ว่ายิงป้ายภัตตาคารต้าเฉียนที่อยู่ห่างออกไปสองร้อยเมตรกลางตลาดได้หรอก รัชทายาทจะถือดีไปหน่อยแล้วกระมัง?”
หลู่หนีพูดเสียดสีแสยะยิ้มอยู่ข้าง ๆ
ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจ แต่ยกหน้าไม้ในมือขึ้นมา เล็งให้ดี ออกแรงเหนี่ยวถึงจุดสูงสุด จากนั้นก็กดปุ่มปล่อยออกไปเลย ได้ยินเพียงเสียงฟิ้ว ลูกศรแล่นออกไปราวกับแสง
ฉึก!!!
เพียงชั่วพริบตาเดียว ลูกศรปักอยู่บนป้ายภัตตาคารต้าเฉียนนิ่งแล้ว ภายใต้พลังโจมตีอันน่ากลัว ป้ายภัตตาคารต้าเฉียนแกว่งไกวไม่หยุด ชัดเจน ลูกศรนี้ยังมีพลังอยู่
“ไอ้โฮ!!!”
“นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!”
พวกอู่จ้านและหลู่หนีใจเย็นไม่ได้ฉับพลัน ดวงตาเบิกโพลงเท่าไข่ไก่ แววตาที่มองฉินอวิ๋นฟานเหมือนกับแววตาที่เห็นผี หน้าไม้ที่ดูเล็กกะทัดรัดทรงอานุภาพอย่างนี้เชียวหรือ?
“รัช รัชทายาท หน้าไม้ที่ดูธรรมดา ๆ นี้เป็นอาวุธสังหารเช่นนี้เชียวหรือ?”
หลู่หนียังคงทึ่งอยู่ ขณะรับหน้าไม้จากมือฉินอวิ๋นฟาน สองมือยังสั่นเทา นี่ใช่หน้าไม้รูปแบบใหม่ที่เขาทำเองกับมือหรือ? มันจะน่ากลัวไปแล้วกระมัง?
เมื่อกี้เขายังทำท่าทางดูแคลนอยู่เลย? คิดแล้วช่างน่าขัน
“นี่ไม่นับเป็นอะไร!”
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวเรียบ
“เอ่อ...นี่ยังไม่นับเป็นอะไร? หากองค์ชายใหญ่หรือราชนิกุลท่านอื่นรู้ต้องพากันผลิต เห็นเป็นอาวุธลับสุดยอดแน่ แต่รัชทายาทกลับไม่สนใจเลย?”
เวลานี้สายตาที่หลู่หนีมองฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ถ้าเป็นตอนแรก เขาต้องมั่นใจว่าฉินอวิ๋นฟานขี้โม้แน่ เพราะของสิ่งนี้อาจเป็นอาวุธสังหารที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในสงครามได้
แม้เขาที่เป็นช่างฝีมือยังตกตะลึงพรึงเพริดอย่างยิ่ง ผ่านไปนานยังมิอาจสงบใจ
“ข้ายอมรับฝีมือของเจ้าแล้ว ติดตามข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าอะไรจึงเป็นอาวุธสังหารใหญ่ของจริง หน้าไม้ออกหน้าไม่ได้หรอก เจ้ายินดีตามข้าเข้าวัง อยู่ฝ่ายเดียวกับข้าหรือไม่?”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก
ตุบ...
หลู่หนีไม่คิดอะไรทั้งนั้น ถูกวิธีการของฉินอวิ๋นฟานสยบโดยสิ้นเชิง คุกเข่าลงเสียงดังตุบ พูดแบบจริงจังที่สุด “ข้าน้อยหลู่หนียินดีตามรัชทายาทเข้าวัง ยินดีติดตามรัชทายาทขอรับ”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รัชทายาทชะตาฟ้า