“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดอาจารย์ของเจ้าจึงตั้งชื่อนี้ให้?”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย
“หือ? ชื่อก็เป็นแค่สิ่งเรียกแทนไม่ใช่หรือ? ข้าติดตามอาจารย์สามสิบกว่าปี ไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงมาก่อน หรือว่าเจ้าจะรู้เหตุผลของชื่อ?”
หลู่หนีถามอย่างไม่เข้าใจ
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบศิษย์เด่นล้ำของหลู่กง หลู่หนีย่อมมีคุณสมบัติสามารถผยองได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวหรือว่าชื่อเสียงของอาจารย์ มันทำให้เขาเดินเบ่งในแคว้นใหญ่ ๆ ได้แบบไม่เป็นปัญหา
แต่เขาย่อมไม่กล้าโอหังกับเรื่องที่เกี่ยวกับอาจารย์
“หนีก็คือดิน บ่งบอกว่าหลู่กงคาดหวังกับเจ้ามาก หวังว่าต่อไปเจ้าจะยืนได้อย่างมั่นคง พยายามสร้างสรรค์ แล้วเจ้าเล่า?”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “งานฝีมือ เครื่องสำริดและกระบี่พกมากมายเหล่านี้ มีชิ้นไหนบ้างที่ไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากอาจารย์เจ้า? มีชิ้นไหนบ้างที่เจ้าประดิษฐ์ขึ้นเอง? มีหรือไม่?”
ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานทำเอาหลู่หนีใบ้รับประทาน งานฝีมืออันประณีตคือคุณสมบัติที่เขาภูมิใจ ทว่าถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานแทงใจดำเขาโดยตรง
หลู่หนีมองการจัดวางในร้าน ดวงตาหมองไปอย่างไม่มีสาเหตุ
เฉินม่อกับอู่จ้านเห็นดังนั้นตกตะลึงถึงที่สุด รัชทายาทพูดแค่ไม่กี่คำก็ทำลายความผยองของหลู่หนีจนสิ้นแล้วหรือนี่?
ฉินอวิ๋นฟานเห็นแล้วจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าข้าจะมอบโอกาสให้เจ้าแซงหน้าหลู่กง เจ้าจะว่าอย่างไร?”
“แซงหน้าท่านอาจารย์หรือ?”
หลู่หนีอึ้ง ก่อนจะพูดด้วยสายตาโกรธ “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด อาจารย์คือที่หนึ่งในใต้หล้า ไม่มีใครเหนือไปกว่าท่านได้”
ฉินอวิ๋นฟานส่ายหน้าตอบ “เจ้าคิดว่าหลู่กงอยากให้คลื่นรุ่นใหม่แรงกว่าคลื่นรุ่นหลัง หรือว่าให้ลูกศิษย์มองแผ่นหลังเขาตลอดไป?”
“เอ่อ...”
การไต่ถามนี้ทำให้หัวใจหลู่หนีปั่นป่วนอย่างหนัก เขามิอาจปฏิเสธถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟาน สำหรับอาจารย์ เขาก็ต้องหวังให้ลูกศิษย์สร้างปรากฏการณ์ใหม่ เติบโต และยอดเยี่ยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
การหยุดอยู่กับที่ไม่ก้าวหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาไร้ความสามารถ ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงของอาจารย์เหมือนกัน ในทางกลับกันยังจะทำให้อาจารย์ผิดหวังเสียด้วยซ้ำ
“เกรงว่าความปรารถนาของหลู่กงในชาตินี้ก็คือหวังว่าในบรรดาศิษย์อย่างพวกเจ้าล้ำหน้ากว่าเขาในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ มีแต่อย่างนี้เขาจึงจะไปอย่างเป็นสุขได้กระมัง!”
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวตามสัตย์จริง
สีหน้าหลู่หนีเปลี่ยนแปลงไปมา เขายังจำการสั่งสอนของอาจารย์ได้เสมอ อ่อนน้อมถ่อมตน ยึดมั่นถือมั่น นี่ก็คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาสำเร็จเช่นทุกวันนี้
ฉินอวิ๋นฟานรู้ว่าสบโอกาสแล้ว จึงเปิดปากเอื้อนเอ่ย “ข้ามีภาพภาพหนึ่ง เจ้าลองดูได้!”
สิ้นเสียง ฉินอวิ๋นฟานก็วางกระดาษภาพแผ่นใหญ่ไว้บนโต๊ะ
ยามนี้ หลู่หนีเคลื่อนสายตาไปยังกระดาษภาพ ทันทีที่เขาเห็นภาพประณีตก็ขมวดคิ้วมุ่นฉับพลัน หยิบภาพขึ้นมาถามด้วยใบหน้าฉงน “นี่คือสิ่งใด?”
“หน้าไม้!”
ฉินอวิ๋นฟานยังคงมีสีหน้าเหมือนเดิม ตามความทรงจำ ธนูคืออาวุธโจมตีระยะไกลที่สำคัญที่สุดของต้าเฉียนและแคว้นต่าง ๆ ธนูเช่นนี้ง่ายและผลิตได้เร็วมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครพัฒนาและทำมันขึ้นใหม่
หลู่หนีเอ่ย “เจ้าอยากให้ข้าทำของที่คล้ายกับธนูนี่หรือ?”
“ไม่ ๆ ๆ เจ้าสิ่งนี้ง่ายกว่ามาก ข้าแค่เอาติดมือมาด้วยเฉย ๆ ที่ให้เจ้าทำหน้าไม้ก็เพราะจะทดสอบเจ้าสักครั้ง อยากทดสอบฝีมือของเจ้าสักหน่อย”
ฉินอวิ๋นฟานพูดจริงจัง “พวกของข้าไม่เคยมีสวะ ถ้าฝีมือเจ้าทำให้ข้ายอมรับได้ ข้าจะทำให้ชื่อเจ้าได้รับการสรรเสริญพันปี เสพสุขลาภยศไม่สิ้น”
“ถ้าแม้แต่หน้าไม้เจ้ายังทำได้ไม่ดี ก็ได้แต่พูดว่าเจ้ามีดีแต่ชื่อ มิได้มีความสามารถ ข้าจะเอาเจ้าไปทำไม?”
“เหอะ ได้ยินว่ารัชทายาทโง่เขลาเบาปัญญามาตลอด วันนี้ได้ประจักษ์ต่อสายตา มิได้แย่อย่างคำร่ำลือ”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รัชทายาทชะตาฟ้า